"พระพรหมเมธี" หิ้วเป้ใบเดียวไปเยอรมนี

               มีรายงานว่า เมื่อกลางดึกของวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาในประเทศไทย ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำสนามบินนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ได้คุมตัว "พระพรหมเมธี" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ได้ขณะกำลังเข้าประเทศ หลังไม่ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง เนื่องจากเป็นบุคคลตามหมายจับที่ทางตำรวจไทยได้ประสานตำรวจสากลไว้แล้ว

               เบื้องต้น ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำสนามบินนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ได้ประสานมาทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทยถึงกรณีดังกล่าว โดยมีรายงานว่า ทันทีที่ได้รับแจ้ง พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. ได้โทรศัพท์สายตรงไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อรายงานข้อมูลให้ทราบ ก่อนที่ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ตัดสินใจบินด่วนเพื่อเดินทางไปประเทศเยอรมนี เพื่อประสานความร่วมมือตามขั้นตอนทางกฎหมายในการรับตัว พระพรหมเมธี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการไทยมาดำเนินคดี
               โดยมีรายงานว่า เมื่อเวลา 09.05 น. (3 มิ.ย.) ที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะอัยการของไทย ได้เดินทางด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG926 สายการบินไทย ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เพื่อสอบปากคำและนำตัว พระพรหมเมธี กลับประเทศไทย โดยมีกำหนดเดินทางกลับมายังประเทศไทย เวลา 06.25 น. ของวันที่ 6 มิถุนายน ด้วยเที่ยวบิน TG921 สายการบินไทย ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศไทย
               สำหรับการติดตามจับกุม พระพรหมเมธี เป็นผลสืบเนื่องมาจากตำรวจกองปราบปราม ได้สนธิกำลังกันเปิดปฏิบัติตรวจสอบคดีทุจริตเงินทอนวัด ใน 3 วัด กรุงเทพมหานคร ประกอบไปด้วย วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดสามพระยา และวัดสัมพันธวงศ์ เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยหลังจากปรากฏข่าวการจับกุมพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวโยงกับการทุจริตเงินทอนวัด โดยหนึ่งในนั้นมี พระพรหมเมธี จากแนวทางการสืบสวนพบว่า พระพรหมเมธี (จำนง เอี่ยมอินททรา) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ได้หลบหนีการจับกุมหลังทราบข่าว ซึ่งขณะนั้นได้รับกิจนิมนต์ที่ จ.พิษณุโลก ก็ได้โดยสารรถยนต์ตู้ โตโยต้า อัลพาร์ด สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กภ 3 กภ 8672 กรุงเทพมหานคร จาก จ.พิษณุโลก มุ่งหน้าไป จ.นครพนม ก่อนที่จะนำรถคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ใกล้กุฏิพระเจ้าอาวาสวัดป่าสุคนธรักษ์ บ้านค่ายเสรี ต.นางาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม จากนั้นได้เดินทางข้ามฝั่งจากประเทศไทยไปยังเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

               ต่อมาชุดสืบสวนพบความเคลื่อนไหวของ พระพรหมเมธี ที่โรงแรมเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่ามีการเดินทางออกจากโรงแรมดังกล่าวเมื่อเที่ยงคืนของวันที่ 26 มิ.ย. โดยภาพวงจรปิดของโรงแรมดังกล่าวจับภาพ พระพรหมเมธี ได้เดินทางออกจากโรงแรมดังกล่าวพร้อมกับชายไทยชื่อ “โค้ด” ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายของ พระพรหมเมธี โดยมีเพียงสัมภาระเป็นกระเป๋าเป้หนึ่งใบ ก่อนที่ทั้งสองจะเดินทางไปยังท่ารถโดยสาร เพื่อเดินทางไปยังประเทศกัมพูชา
               มีรายงานว่า ชุดสืบสวนพบความเคลื่อนไหวของ พระพรหมเมธี อีกครั้ง เมื่อเวลา 05.15 น. วันที่ 1 มิ.ย. พระพรหมเมธี พร้อมด้วยหลานชายคนสนิท ได้ขึ้นเครื่องสายการบิน กาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบิน QR971 จากกรุงพนมเปญ ก่อนแวะจอดที่สนามบินโฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม เมื่อเวลา 06.23 น. จากนั้นเครื่องบินลำดังกล่าวได้บินไปยังสนามบินโดฮา ประเทศกาตาร์ จากนั้นได้เปลี่ยนต่อเครื่องไปยังท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
               รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะอัยการของไทย จะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ในเวลาประมาณ 20.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยกำหนดการจะเดินทางกลับมาประเทศไทยเวลา 06.25 น. ของวันที่ 6 มิถุนายน ด้วย TG921 สายการบินไทย ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่า หากขั้นตอนกระบวนเสร็จสิ้น ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา และคณะจะเดินทางกลับมาประเทศไทยก่อนกำหนด โดยคาดว่าจะถึงไทยในวันนี้ (4 มิ.ย.)