ข่าว

จ่อหมายจับ 2 "ผัว-เมีย" ขายสังฆภัณฑ์"เอี่ยวเงินทอนวัด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กองปราบฯ จ่อหมายจับ อีก 2 คน สามีภรรยาเจ้าของร้านขายสังฆภัณฑ์ เอี่ยวเงินทอนวัด

 

            1 มิ.ย.61-กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รองผบช.ก. เรียกประชุมชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนคดีเงินทอนวัด เพื่อนำรายละเอียดการจับกุมและการตรวจยึดของกลางของแต่ละวัดประกอบด้วย วัดสามพระยาวรวิหาร วัดสระเกศวรวิหาร และวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร มาตรวจสอบรายละเอียด เพื่อที่จะขยายผลและรวบรวมหลักฐานต่างๆเพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนต่อไป โดย พล.ต.ต.สุทิน ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์


          มีรายงานว่า จากการรวบรวมหลักฐานที่ยึดมาได้และการตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติมแล้วพบว่า ในกรณีของวัดสามพระยา ที่ก่อนหน้านี้ชุดสืบสวนได้จับกุม พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสและเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และ พระอรรถกิจโสภณ เลาขานุการเจ้าคณะกรุงเทพฯในความผิดฐานฟอกเงินไปแล้วนั้น ยังพบว่า มีฆารวาสอีก 2 คนที่กำลังพิจารณาออกหมายจับเพิ่มด้วยในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน โดยทั้งคู่เป็นสามีภรรยาเจ้าของร้านขายสังฆภัณฑ์แห่งหนึ่งใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งพบว่ามีการโอนเงินจากบัญชีของวัดสามพระยาไปยังบัญชีของร้านสังฆภัณฑ์แห่งนี้อย่างมีพิรุธจำนวน 3 ล้านบาท และคำให้การของสามีภรรยาที่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไปก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าต่างๆระหว่างวัดกับร้านค้าไม่สอดคล้องกับหลักฐานทางการเงินที่ปรากฎอยู่
            ในส่วนการสืบสวนสอบสวนคดีของพระวัดสระเกศฯนั้น มีรายงานว่าจากการตรวจค้นกุฏิของกุฏิพระสงฆ์ที่มีความสนิทกับพระพรหมสิทธินั้นแม้ว่าจะไม่พบหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำผิดเงินทอนวัด แต่พบว่ามีการเก็บภาพลามกอนาจารซึ่งเป็นภาพการร่วมเพศกัน ระหว่างตนเองที่เป็นพระสงฆ์กับผู้ชายฆารวาส และภาพเปลือยผู้ชายจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบในโซเชี่ยลมีเดียร์ต่างๆว่ามีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวหรือไม่ ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายอาญาหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิดก็จะพิจารณาออกหมายจับด้วย
            สำหรับความคืบหน้าในการติดตามตัว พระพรหมเมธี ซึ่งขณะนี้หลบหนีไปอยู่ที่ประเทศลาวโดยเดินทางออกจากไทยไปทาง จ.นครพนม นั้น ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบพบว่ามีสีกาคนไทย 1 คน และหญิงคนลาว 1 คนเป็นคนให้ความช่วยเหลือข้ามแดน โดยหญิงคนไทยนั้นจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเป็นหนึ่งในเจ้าแม่ตลาดหุ้นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปัจจุบันถือหุ้นในบริษัทมหาชนขนาดใหญ่หลายแห่งและหนึ่งในนั้นเป็นบริษัทมหาชนที่ดำเนินการเกี่ยวกับเหมืองแร่ชื่อดังด้วย โดยหญิงไทยคนนี้ได้เดินทางออกจากไทยที่ด่านชายแดนจุดตรวจสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 จ.นครพนม ไปเมื่อเวลา 21.25 น. ของวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันที่ตำรวจกองปราบฯเปิดปฏิบัติการลับไล่จับพระรวม 5 วัดตั้งแต่รุ่งเช้าของวันเดียวกัน
            ส่วนหญิงสาวชาวลาวก็ข้ามแดนไปทางช่องทางเดียวกันในเวลาเดียวกันกับหญิงชาวไทยด้วย โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาออกหมายจับผู้หญิงทั้ง 2 คน ในความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 189 ที่ระบุว่า ผู้ใด ช่วยผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยขณะนี้เชื่อว่าหญิงสาวทั้ง 2 คนยังคงกบดานอยู่ที่แขวงคำม่วนในประเทศลาวกับ พระพรหมเมธี ซึ่งขณะนี้ตำรวจไทยได้ประสานตำรวจลาวเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่เป้าหมายแล้ว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ