กองปราบ นิมนต์เจ้าอาวาสวัดตราชู และ รองเจ้าอาวาสวัดกุฎีทอง สอบปากคำ หลังชาวบ้านร้องเรียนนำพระพุทธรูปล้ำค่าไปขาย 2 แสนบาท
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฯ ได้ควบคุมตัว พระครูวิลาสกิจจานุกูล รองเจ้าอาวาสวัดกุฎีทอง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน และมีหน้าที่ซื้อทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใด หรือเป็นของผู้อื่นหรือโดยทุจริต ยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และ พระครูไกรศร วิลาศ เจ้าอาวาสวัดตราชู ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใดหรือเป็นของผู้อื่นหรือโดยทุจริต ยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย”
พระครูวิลาสกิจจานุกูล
จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ได้มีชาวบ้าน ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ว่าพระพุทธรูปบูชา จำนวน 3 องค์ หรือพระรัตน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาล ที่ 4 ซึ่งเดิมทีเคยตั้งประดิษฐานประจำอยู่ภายในหอระฆังของวัดตราชู ได้หายไป
พระครูไกรศร วิลาศ
ทั้งนี้ ภายหลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ฯจึงเดินทางลงพื้นที่ เพื่อสืบหาเบาะแส จนทราบว่า พระทั้ง 2 รูปดังกล่าว มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากพระครูไกรศร ได้เป็นผู้นำพระพุทธรูปบูชา จำนวน 3 องค์ หรือพระรัตนะ ไป ขายเป็นเงิน 2 แสนบาท จากทางพระครูวิลาสกิจจานุกูล เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน
จนกระทั่งมีการออกหมายจับ จึงนำกำลังเข้าไปติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว ก่อนจะทำการควบคุมตัวพระทั้ง 2 รูป มาทำการสอบปากคำยัง กองบังคับการปราบปราม
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ จะดำเนินการสอบสวนพระทั้งรูป ถึงที่มาที่ไปในการนำพระพุทธรูปไปขายเป็นเงิน 2 แสนบาท โดยในวันพรุ่งนี้จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ต่อไป
อนึ่งก่อนหน้านั้นชาวบ้านต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี กว่า 50 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้บังคับการกองปราบปราม เพื่อร้องเรียนให้เร่งรัดติดตามพระพุทธรูปเก่าแก่ ล้ำค่า 3 องค์ ของวัดตราชู ที่หายไปอย่างปริศนาเป็นเวลากว่า 1 ปี
โดยนายปรีชา จีนขจร มัคนายก ของวัดตราชู แกนนำชาวบ้าน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้เคยเข้าร้องเรียนที่กองปราบปรามแล้ว กระทั่งมีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองปราบปราม ลงพื้นที่เพื่อหาข้อเท็จจริง จนทราบเบาะแส แต่ยังไม่มีการจับกุมดำเนินคดีกับบุคคลใด
นอกจากนี้นายปรีชา ยังเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 เดือน ที่ผ่านมา พระครูไกรศร วิลาศ เจ้าอาวาสวัดตราชู อ้างกับชาวบ้านว่า ได้ติดตามพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ กลับคืนมาได้แล้ว แต่เมื่อไปตรวจสอบในพระอุโบสถ กลับพบว่าไม่เป็นเป็นความจริงแต่อย่างใด โดยมีการนำพระพุทธรูปจากวัดพิกุลทองมาประดิษฐานแทน ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ และหลังจากนั้นเจ้าอาวาสได้หายตัวไป จึงเชื่อว่า คนที่นำพระไปเกี่ยวข้องกับเจ้าอาวาส
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีนี้ ได้ถูกโยกย้ายไปยังพื้นที่อื่น จึงสงสัยว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับการทำคดีนี้ จึงอยากเรียกร้องให้ผู้บังคับการกองปราบปราม เร่งติดตามพระพุทธรูป ที่สร้างมาตั้งแต่รัชกาลที่ 4 กลับคืนสู่วัด และพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกโยกย้ายและสืบสวนในคดีนี้ กลับคืนมาทำคดี
ด้านพล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม ยอมรับตำรวจชุดที่ทำคดีนี้ถูกโยกย้ายไปจริง แต่ก็ได้นำชุดดังกล่าวมาทำคดีตามเดิมแล้ว ทั้งนี้ไม่สามารถระบุได้ว่า ตำรวจที่ถูกย้ายไปได้รับผลกระทบจากการทำคดีนี้ ขณะที่ล่าสุดได้รับรายงานความคืบหน้าของคดี พบ ผู้เกี่ยวข้อง 2-3 ราย ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน ส่วนกรณีที่เจ้าอาวาสหายตัวไปตะเกี่ยวข้องกับการที่พระพุทธรูปหายไปหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้
----***----
ข่าวที่เกี่ยวข้อง