ข่าว

"บิ๊กโจ๊ก"เเถลงรวบหญิงไทยหน.เเก๊งรีดค่าไถ่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กโจ๊ก"เเถลงรวบหญิงไทยหัวหน้าเเก๊งจับนักธุรกิจสาวชาวจีนเรียกค่าไถ่กว่า15ล้าน เร่งล่าตัวผตห.อีก6ราย เจ้าตัวปฎิเสธทุกข้อหา เเจงเป็นการเจรจาชดใช้หนี้สิน

 

      เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561  เมื่อเวลา 16.30 น.  ที่กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ( 191 ) ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท.

 

     

          พร้อมด้วยพ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผบก.ทท.2 พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย ผกก.3 บก.ทท.1 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมน.ส.วรรษิการ เติมธนาภัทร หรือ แอนนา อายุ 43 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 405/2561 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2561

 

          ในข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังให้ได้มาซึ่งค่าไถ่, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันกรรโชกทรัพย์ หลังศาลจังหวัดสมุทรปราการ อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 6 คน ซึ่งได้ร่วมกันก่อเหตุอุ้มเรียกค่าไถ่นักธุรกิจสาวชาวจีน 15 ล้านบาท ภายในท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งย่านซ.รามคำแหง 50 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ

 

"บิ๊กโจ๊ก"เเถลงรวบหญิงไทยหน.เเก๊งรีดค่าไถ่

 

       พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ได้ติดตามจับกุมตัวน.ส.วรรษิการ เติมธนาภัทร หรือแอนนา ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในนำผู้เสียหายมาเรียกค่าไถ่ ซึ่งทางผู้เสียหายให้การว่าน.ส.วรรษิการ เป็นผู้วางแผนการทั้งหมด โดยได้เอาปืนจ่อ ขู่ ใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้เสียหายด้วยการตบให้ยินยอม

 

         ทั้งนี้จากการตรวจสอบรถยนต์ที่น.ส.วรรษิการใช้พบว่ามีการเปลี่ยนรถทุกวันและได้ตรวจยึดรถที่ผิดกฎหมายมีการสวมทะเบียนจำนวน 3 คัน ทั้งนี้น.ส.วรรษิการอ้างว่ารู้จักกับนักธุรกิจจำนวนมาก ยังอ้างอีกว่ารู้จักผู้หลักผู้ใหญ่หลายคน และโดนกลั่นแกล้ง แต่ทั้งนี้ทางผู้เสียหายยืนยันว่าถูกน.ส.วรรษิการทำร้ายร่างกายจริง และทางผู้ร่วมขบวนการรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้รับงานและโดนสั่งการจากน.ส.วรรษิการให้นำรถตู้มารับพาไปยังสถานที่ต่างๆ

 

 

"บิ๊กโจ๊ก"เเถลงรวบหญิงไทยหน.เเก๊งรีดค่าไถ่

 

        ส่วนตำรวจตม.ที่โดนแจ้งข้อกล่าวหานั้นเห็นพฤติการณ์ของคนร้ายแต่กลับนิ่งเฉยไม่ช่วยเหลือและคอยอำนวยความสะดวกให้ ยืนยันเอาผิดได้เพราะมีหลักฐานข้อความสนทนาพูดคุยกันระหว่างน.ส.วรรษิการกับตำรวจตม.ผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์แม้จะมีการลบข้อความทิ้งไปแล้ว ทั้งนี้ผู้เสียหายทั้ง 2 รายยืนยันอีกว่าไม่รู้จักกับน.ส.วรรษิการ แต่รู้จักกับกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีน 4 คน

 

 

"บิ๊กโจ๊ก"เเถลงรวบหญิงไทยหน.เเก๊งรีดค่าไถ่

 

      พ.ต.อ.อำนาจ กล่าวว่า ผู้สั่งการชาวจีนได้เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 พ.ค. เวลา 16.00 น. จากนั้นผู้เสียหายได้บินมาจากฮ่องกง พร้อมชาวจีนอีก 3 ราย ในเที่ยวบินเดียวกันพร้อมกับผู้เสียหายรวม 4 คน จากนั้น มีรถยนต์ 1 คัน รถตู้ 1 คัน มารอรับที่สนามบิน

 

         ต่อมาได้พาผู้เสียหายไปตามสถานที่ต่างๆ โดยวันที่ 6-8 พ.ค. ได้พาไปพักที่โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ วันที่ 9-14 พ.ค. พักที่นาดาวารี พัทยา วันที่ 15-19 พ.ค. พักที่ บ้านเช่าในเกาะเสม็ด จ.ระยอง วันที่ 17 พ.ค. พักที่ โรงแรมในกรุงเทพฯ ระหว่างนั้นได้ติดต่อญาติของผู้เสียหายที่ประเทศจีน ซึ่งทางญาติของผู้เสียหายได้โอนเงินให้กลุ่มดังกล่าว รวม 4 ครั้ง คิดเป็นเงินไทยประมาณ 10 ล้านบาท

 

   

       โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ได้โอนเงิน 7 แสนหยวน วันที่ 9,10 และ 14 พ.ค. โอนเงินครั้งละ 4 แสน รวมทั้งหมด 1,900,000 หยวน แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุยังไม่ยอมปล่อยตัวผู้เสียหายและเรียกเงินเพิ่มอีก 5 ล้านบาท ทำให้วันที่ 18 พ.ค. ญาติของผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้กดดันและติดตามไปตามสถานที่ต่างๆ จนกลุ่มคนร้ายนำเหยื่อมาปล่อยทิ้งไว้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อริมถนนบางนา-ตราด กม. 35

 

 

"บิ๊กโจ๊ก"เเถลงรวบหญิงไทยหน.เเก๊งรีดค่าไถ่

 

       ทั้งนี้คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 12 คน ถูกจับกุมแล้ว 6 คน โดยจับกุมตามหมายจับ 5 คน แจ้งข้อกล่าวหา 1 คน ได้แก่ นายประสิทธิ์ ดิษฐจินดา นายสมบัติ กาเพ็ชร นายนิพนธ์ วีระศร ว่าที่ ร.ต.สำรวย ทิมแก้ว

 

 

"บิ๊กโจ๊ก"เเถลงรวบหญิงไทยหน.เเก๊งรีดค่าไถ่

 

     น.ส.วรรษิการ เติมธนาภัทร และด.ต.นิพนธ์ พุทธรักษา ตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นอกจากนี้ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 6 คน เป็นคนไทย 2 คน อยู่ระหว่างการติดตามตัว คือ น.ส.อุทัย อินทร์ศรี หรือดา นายณัฐพล แก้วไซเกิด หรือป้อม อยู่ในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี และชาวจีน 4 คน ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ ได้แก่ นายซุน เหวินฉี (Mr.Wenqu Sun) ผู้สั่งการ นายซุน ดองเหลียง (Mr.Dongliang Sun) น.ส.ไค เมยเลิง (Ms.Meiling Cai) และนายซอง หมิง (Mr.Ming Song) ทำหน้าที่คุมเหยื่อ

 

 

"บิ๊กโจ๊ก"เเถลงรวบหญิงไทยหน.เเก๊งรีดค่าไถ่

 

       ด้านน.ส.วรรษิการ ให้การปฏิเสธในข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ กรรโชกทรัพย์ ผู้เสียหายแต่อย่างใด ซึ่งทั้งหมดเป็นการถูกกลั่นแกล้ง ส่วนที่มีการพาผู้เสียหายไปตามสถานที่ต่างๆ เป็นการพาไปดูแลเลี้ยงดู เพื่อไกล่เกลี่ยให้ผู้เสียหายยินยอมชดใช้หนี้สินจำนวน 47 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้สินที่ผู้เสียหายได้ร่วมลงทุนทำธุรกิจส่งออกและนำเข้าสินค้าหรือชิปปิ้งกับตนและชาวจีนอีก 4 คนที่เดินทางกลับประเทศไปก่อนหน้านี้ ซึ่งระหว่างการเจรจามีการขอใช้หนี้สินจำนวน 17 ล้านบาท

 

 

"บิ๊กโจ๊ก"เเถลงรวบหญิงไทยหน.เเก๊งรีดค่าไถ่

 

        แต่เนื่องจากเงินทั้งหมดของผู้เสียหายมีอยู่นั้นอยู่ในบัญชีของสามีของผู้เสียหาย จึงมีการโอนเงินให้รอบแรกจำนวน 10 ล้านบาท และจะมีการโอนให้อีกครั้งจำนวน 7 ล้านบาท เมื่อมีการโอนเงินมาให้เรียบร้อยจึงพาผู้เสียหายมาส่งที่ริมถนนบางนา-ตราด ส่วนผู้ต้องหาชาวไทย 5 คนที่ถูหจับกุมแล้ว

 

 

"บิ๊กโจ๊ก"เเถลงรวบหญิงไทยหน.เเก๊งรีดค่าไถ่

 

       น.ส.วรรษิการ  กล่าวอีกว่า ตนยืนยันว่าทั้งหมดไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว เพราะว่าตนจ้างมาทำหน้าที่ให้ช่วยดูแลผู้เสียหายเท่านั้น หลังจากนี้ตนจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดมาเพื่อต่อสู้คดียืนยันความบริสุทธิ์ต่อไป

----***----

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ