ข่าว

ทลายรง.ขยะพิษลอนำเข้ากำจัดในไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วิระชัย" บุกค้นโรงงานลอบกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ใน จ.ฉะเชิงเทรา ชี้กระทบต่อสิ่งแวดล้อม เผยนำเข้าขยะพิษโดยแจ้งเป็นสินค้ามือสอง พบแรงงานจำนวนมาก สั่งปิด 30 วัน

          เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 พฤษภาคม พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย นายสุรพล ชามาตย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม พล.ต.วรยุทธ แก้ววิบูลย์พันธุ์ ผบ.กองพลทหารราบที่ 11 จ.ฉะเชิงเทรา นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดกองปราบฯ ตำรวจ บก.ปทส. ตำรวจสืบสวนภาค 2 ตำรวจ สภ.แสนภูดาษ เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร สนธิกำลังเข้าตรวจสอบบริษัทดับบลิว เอ็ม ดี ไทย รีไซคลิ้ง จำกัด (สำนักงานใหญ่) เลขที่ 33 หมู่ 12 ต.แปลงยาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา หลังพบลักลอบทำลายและคัดแยกแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และนำเข้าขยะอุตสาหกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทลายรง.ขยะพิษลอนำเข้ากำจัดในไทย
 

          โรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีรั้วรอบขอบชิดบนเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 100 ไร่ ซึ่งตัวโรงงานที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวประมาณ 4 ไร่ นอกจากนั้นยังมีบริษัทในเครืออีก 2 บริษัท โดยมีแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ แผ่นดิสก์ และขยะอิเล็กทรอนิกส์ใส่ถุงบิ๊กแบ็กวางอยู่บนพื้นดินเป็นจำนวนมาก ถูกนำมาคัดแยก ชำแหละ แปรรูป ก่อนจัดสรรปันส่วน ส่วนขยะที่ใช้ไม่ได้จะถูกกำจัดด้วยการเผา ฝังกลบ และวิธีอื่นๆ ส่งผลต่อมลภาวะและสิ่งแวดล้อม

ทลายรง.ขยะพิษลอนำเข้ากำจัดในไทย
 

          พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ตนและ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่อีก 5 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงยุติธรรม และ กระทรวงการคลัง เข้ากวาดล้างจับกุมดำเนินคดีกับโรงงานดังกล่าว เนื่องจากสืบทราบว่า โรงงานแห่งนี้มีการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างผิดกฎหมาย มีการนำเข้าขยะด้วยการสำแดงเท็จ โดยมีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติชาวฮ่องกง ที่ประกอบกิจการอย่างผิดกฎหมายลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งขยะเหล่านี้ถือว่ามีอันตราย มีสารพิษ ในหลายๆ ประเทศทั่วโลกห้ามมิให้มีการคัดแยก มีกฎหมายไม่อนุญาตให้ทำการคัดแยก หรือทำลายขยะเหล่านี้ในประเทศของตน เนื่องจากจะทำให้สารพิษเข้าสู่สภาพแวดล้อม เช่น ทางอากาศ เป็นอันตรายต่อผู้ที่สูดหายใจเข้าไป จะก่อให้เกิดโรคร้ายที่ไม่สามารถรักษาได้ในภายหลัง

ทลายรง.ขยะพิษลอนำเข้ากำจัดในไทย
 

          “ขณะนี้ประเทศไทยเป็นลำดับต้นๆ ที่มีขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพราะมีนายทุนต่างชาติลักลอบนำเข้ามา สำแดงเท็จเป็นสินค้ามือสอง โดยเฉพาะบรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้า ทุกประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะมีสารพิษส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมีผลต่อชีวิตคนโดยตรง ขระเดียวกันยังสืบทราบว่าที่ฮ่องกงมีขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่รอการกระจายออกไปสู่ประเทศต่างๆ นับแสนตัน เมื่อเอาเข้ามาในไทยจึงถือว่านำสารพิษมากระจายเพื่อคร่าชีวิตพี่น้องคนไทย จึงต้องมีการกวาดล้างขยายผลเปิดโปงธุรกิจที่มีสารพิษร้ายจำพวกนี้” พล.ต.อ.วิระชัย กล่าว
 

         
ทลายรง.ขยะพิษลอนำเข้ากำจัดในไทย

          พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า จากการตรวจค้นพบมีการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือกากอุตสาหกรรมอันตรายจากต่างประเทศมารีไซเคิล หรือหลอมเอาตะกั่วออก เพื่อแยกชิ้นส่วน และโรงงานไม่ขออนุญาตอย่างถูกต้อง สภาพแวดล้อมโรงงานไม่มีระบบป้องกันก๊าซอันตราย ไม่มีระบบป้องกันกลิ่น ไม่มีระบบป้องกันน้ำเสีย และไม่มีระบบกรองกลางแจ้ง เมื่อฝนตกน้ำที่มีสารพิษปนเปื้อนก็ไหลไปรวมกับแหล่งน้ำสาธารณะ กระทบสิ่งแวดล้อม โดยพบว่ามีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายส่วนหนึ่ง ส่วนเจ้าของเป็นชาวฮ่องกง ไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทย แต่ใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งซับมลพิษ โกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง จึงเตรียมขยายผลเอาผิดเพิ่มเติม พร้อมกันนี้ประสานให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาสั่งปิดโรงงานภายในวันนี้(22 พ.ค.)เป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน

ทลายรง.ขยะพิษลอนำเข้ากำจัดในไทย
 

          ด้าน นายสุรพล กล่าวว่า โรงงานแห่งนี้ พบมีการขออนุญาตดำเนินกิจการคัดแยกและบดทำลายขยะ แต่เมื่อเกิดไฟไหม้เมื่อต้นปีที่แล้วก็ทำให้ชาวบ้านละแวกนี้ตั้งข้อสังเกตถึงมลพิษที่เกิดขึ้น จึงแจ้งหน่วยงานราชการเข้ามาตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าขยะเหล่านี้อันตรายไม่สามารถคัดแยกได้ หลังจากนี้จะให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมพิจารณาสั่งปิดโรงงานแห่งนี้ไว้ชั่วคราวเนื่องจากการตรวจสอบลักษณะของโรงงานพบว่า มีการจัดการที่ผิดสุขลักษณะ เพราะไม่สามารถเก็บมลพิษได้ และที่ผ่านมาประเทศจีนก็ไม่อนุญาตให้มีการคัดแยกขยะอุตสาหกรรม อิเล็กทรอนิกส์ ในประเทศตัวเองด้วย

ทลายรง.ขยะพิษลอนำเข้ากำจัดในไทย
 

          “สำหรับวิธีการทำลายซากวัสดุอันตรายประเภทนี้ ต้องมีระบบการจัดการที่เป็นโรงงานปิด ต้องใช้การเผาด้วยความร้อนสูงและมีการจัดการที่ดี จึงจะสามารถคัดกรองสารมลพิษต่างๆ ได้ ซึ่งในประเทศไทยมีการจัดการบ่ออุตสาหกรรมที่ถูกต้องประมาณ 3 ถึง 4 บ่อ หลังจากนี้จะให้อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ตรวจสอบตั้งแต่การขอใบอนุญาตประกอบโรงงาน การนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ การทำลายขยะอุตสาหกรรม รวมถึงรายละเอียดทั้งหมดว่าผิดอะไรบ้าง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” นายสุรพล กล่าว
 

          ทั้งนี้ ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจับกุมโรงงานขยะอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว พบมีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก สัญชาติลาวกับพม่า กำลังคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ จากการสอบถามทราบว่าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวได้รับค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท ซึ่งมีการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายด้วย และแต่ละคนไม่มีความรู้เรื่องขยะพิษและไม่รู้ว่าตนเองกำลังจะเป็นโรคร้ายภายในอนาคต

ทลายรง.ขยะพิษลอนำเข้ากำจัดในไทย
 

          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งความผิด 3 ข้อหา ประกอบด้วยความผิดตาม 1.พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 มาตรา 23 ข้อหา นำมาซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 (ขยะอิเล็กทรอนิกส์) โดยไม่ได้รับอนุญาต อัตราโทษ ตามมาตรา 73 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.พ.ร.บ.สาธารณสุข มาตรา 25-28/1 ข้อหา ก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ชุมชน อัตราโทษตามมาตรา 74 จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาท และ 3.พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 มาตรา 13 ข้อหาประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต อัตราโทษ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท ส่วนการกรองวัตถุอันตรายกลางแจ้งอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานและวิธีการควบคุมการปล่อยของเสีย มลพิษหรือสิ่งใดๆ อันมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่เกิดขึ้นจากการประกอบกิจการของโรงงาน เป็นความผิดตามมาตรา 8(5) แห่ง พ.ร.บ.โรงงานฯ อัตราโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีการให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาอื่นๆ ด้วย

ทลายรง.ขยะพิษลอนำเข้ากำจัดในไทย
 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัย สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ากวาดล้างนายทุนต่างชาติที่ลักลอบนำเข้ากากอุตสาหกรรมซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้คัดแยกสามารถทำลายได้ในประเทศอื่น มาเผาทำลายกระจายสารพิษไปทั่วพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.วิระชัย และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่อีก 5 กระทรวงดังกล่าวข้างต้น เข้ากวาดล้างจับกุม
 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ