ข่าว

นักมวยกรง "เพชรสิงขร" ไล่จับโจรขโมยมือถือกลางห้างดัง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นักมวยกรงฉายา "เพชรสิงขร" ช่วยไล่จับคนร้ายลักทรัพย์ร้านขายโทรศัพท์มือถือกลางห้างดัง ด้านคนร้าย อ้างหาเงินค่าเช่าห้องตกงานหลายเดือน

 

          เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ต.ท.สมภพ นามบัณฑิต สว.สส.สน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเป็นชาย 1 รายก่อเหตุลักทรัพย์ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือภายในศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ แขวงจอมพล เขตจตุจักร หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.พหลโยธิน รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ

 

          ที่เกิดเหตุเป็นร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือชื่อร้าน อันล็อค ไอที (Unlock IT) ต้ังอยู่บริเวณชั้น บี โซนไอที ของศูนย์การค้าดังกล่าว บริเวณโดยรอบมีผู้คนจำนวนมากกำลังยืนมุงดูเหตุการณ์ด้วยความสนใจ ตรวจสอบภายในร้านพบที่บริเวณประตูบานเลื่อนตู้โชว์โทรศัพท์มือถือมีร่องรอยถูกเปิดอ้าทิ้งไว้ ตรวจสอบความเสียหายและทรัพย์สินมีค่าต่างๆพบว่ามีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่น j7 Core สีดำจำนวน 1 เครื่อง มูลค่า 5,900 บาทที่วางตั้งโชว์ภายในตู้หายไป เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บร่องรอยลายนิ้วมือแฝงคนร้าย ส่วนตัวคนร้ายหลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีออกนอกตัวอาคารมุ่งหน้าไปทางซอยลาดพร้าว 1 แขวงจอมพล เขตจตุจักร เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังไล่ติดตาม กระทั่งต่อมาได้มีพลเมืองดีแจ้งข้อมูลเข้ามาว่าสามารถควบคุมตัวคนร้ายได้ทราบชื่อ คือนายสมศักดิ์หรือบอย สติพา อายุ 32 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกับของกลางโทรศัพท์มือถือ ที่บริเวณกลางซอยลาดพร้าว 1 จึงได้นำตัวมาทำการสอบสวนยัง สน.พหลโยธิน

 

          จากการสอบถาม น.ส.สิศิษา เดิมมา อายุ 33 ปี ชาว จ.นครพนม ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของร้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้อาศัยจังหวะที่ตนออกจากร้านไปซื้ออาหารกลางวันตามร้านค้าใกล้เคียง จึงทำให้ไม่มีใครอยู่เฝ้าร้าน ก่อนจะเดินเข้ามารื้อค้นและลักขโมยโทรศัพท์มือถือภายในร้านไป ซึ่งกว่าที่ตนจะทราบเรื่องคนร้ายก็ได้วิ่งหลบหนีไปเสียก่อน แต่ยังนับว่าโชคดีที่ในข่วงขณะที่คนร้านก่อเหตุมีพลเมืองดีมาพบเห็นเข้าเสียก่อนจึงทำให้คนร้ายตกใจได้ทรัพย์ไปไม่มาก ก่อนจะมาถูกพลเมืองดีที่วิ่งไล่ตามควบคุมตัวได้ดังกล่าว ซึ่งตนก็อยากฝากขอบคุณไปยังพลเมืองดีท่านนั้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ยึดมั่นทำดีต่อไป

 

          ด้านนายเดชฏิล สรณ์สิริศุภทิน อายุ 28 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ พลเมืองดีที่ช่วยจับคนร้าย กล่าวว่า ตนเป็นนักมวยอาชีพในสังกัดค่ายบางกอก ไฟแล๊บ ฉายาของตนคือ “เพชรสิงขร” ซึ่งส่วนใหญ่จะชกในรูปแบบมวยกรง หรือ ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน ซึ่งจะชกตามทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ที่จัดขึ้นทั้งในประเทศไทยและสิงค์โปร แต่เนื่องจากช่วงนี้ยังไม่มีคิวชก จึงหันมารับจ้างเป็นช่างไฟหารายได้เสริม โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังเดินสายไฟภายในร้านข้างๆ กับร้านที่เกิดเหตุได้พบเห็นคนร้ายท่าทีพิรุธเดินเข้าไปภายในร้านดังกลาาวก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่องภายในตู้โชว์ออกมาแล้ววิ่งหนีออกไปจากร้านในทันที ตนจึงได้วิ่งไล่ตามไปจนถึงบริเวณกลางซอยลาดพร้าว 1 คนร้ายเริ่มมีท่าทีอ่อนแรงลงก่อนจะหยุดวิ่งแล้วยอมให้ตนควบคุมตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ซึ่งการที่ตนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ในครั้งนี้ตนไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ เพียงแต่อยากทำดีเพื่อช่วยเหลือสังคมเพียงเท่านั้น

 

          จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าที่ทำไปนั้นเพราะกำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้อง เนื่องจากตกงานมาหลายเดือนแล้ว นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่า นายสมศักดิ์ มีหมายจับคดีลักทรัพย์ ในพื้นที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ติดตัว 1 คดี ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ