"ศรีวราห์" คุม !! ขู่ม็อบอยู่ในกรอบ ก.ม.

               18 พ.ค. 61  เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ กองบังคับการปราบ (บก.ป.)  พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร เปิดเผยภายหลังการร่วมประชุมกับคณะทำงานนานกว่า 1 ชั่วโมง ว่า ตนเดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อติดตาม 2 เรื่อง คือ 1. เรื่องที่ทาง คสช. ร้องทุกข์คดีพรรคเพื่อไทย เอาผิด 8 คน และ 2. เรื่องคดีการตรวจค้นอาวุธปืนเกี่ยวกับคดีเงินทอนวัด

 

 

 

 

               พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า เนื่องจากทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตนลงมาดูคดีที่ทาง คสช. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมาชิกในพรรคเพื่อไทย ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2558 ลงวันที่ 10 เมษายน 2558 เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ (คสช.) ข้อที่ 12 ที่ห้ามผู้ใดมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เว้นแต่เป็นการชุมนุมที่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ต่อมาพบว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยได้มีการจัดการแถลงข่าวเพื่อโจมตีการทำงานของรัฐบาล , คสช. และหัวหน้า คสช. ในหัวข้อ “4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาล และ คสช. นำไปสู่ความมืดมนและอันตราย” เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2561 เวลา 10.00 น. ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. อีกทั้งยังมีการนำภาพและข้อความที่แถลงไปเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ของพรรคเพื่อไทย หรือเพจเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทย
               พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ทางรัฐบาล และ คสช. พิจารณาจากหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เห็นว่าเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย จึงได้มอบอำนาจให้ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมาย คสช. มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ป. กับสมาชิกพรรคเพื่อไทย จำนวน 8 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก 1. นายวัฒนา เมืองสุข อายุ 60 ปี ชาวปราจีนบุรี 2. นายจาตุรนต์ ฉายแสง อายุ 62 ปี ชาวฉะเชิงเทรา และ 3. นายชูศักดิ์ ศิรินิล อายุ 69 ปี ในฐานความผิด “ร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวน 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือผู้ที่ได้รับมอบบหมาย” และความผิด ป.อาญา มาตรา 116

 

 

 

 

               สำหรับกลุ่มที่สอง 4. นายนพดล ปัทมะ อายุ 57 ปี 5. นายชัยเกษม นิติสิริ อายุ 69 ปี ชาวนนทบุรี 6. นายภูมิธรรม เวชยชัย อายุ 64 ปี 7. พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อายุ 84 ปี และ 8. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อายุ 59 ปี ในฐานะความผิดร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวน 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย”
               พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังดำเนินคดีกับ แอดมิน หรือผู้ดูแลรับผิดชอบเพจเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทย ในความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ซึ่งพนักงานสอบสวน บก.ป. ได้รับแจ้งและรับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว จะได้ทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งหมายเรียกดังกล่าวเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันที่ 22 พฤษภาคม นี้ แต่หากจะเดินทางเข้าพบพนักงงานสอบสวนในวันที่ 21 พฤษภาคม ก็สามารถทำได้ โดยจะมีการแยกสอบปากคำเป็นรายๆ ไป ซึ่งตนได้สั่งการไปแล้วให้ทางกองปราบฯ ตั้งพนักงานสอบสวนแยกสอบ 8 ชุด
               เมื่อถามว่า ในวันที่ 22 พฤษภาคม เป็นวันครบรอบ คสช. ทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ บอกว่า ทาง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตนดูแลด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด ใครต้องการจะชุมนุมก็ให้อยู่ในขอบเขต อย่าก่อความวุ่นวาย “ฝากไปถึงพวกฮาร์ดคอร์เสื้อแดง ย้ำว่า อย่าแหลมออกมา เพราะจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด” หากจะมาชุมนุมก็ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ห้ามมีการพกพาอาวุธ และห้ามมีการชุมนุมใกล้บริเวณเขตพระราชฐาน 150 เมตร อย่าไปวุ่นวาย จะมีการเตรียมล่าพวกที่จะทำอะไรไม่ดี ตำรวจเอาจริง อย่างไรวันนี้ ได้สั่งการให้ทุกกองบัญชาการระดมกวาดล้างอาชญากรรมโดยเฉพาะภัยด้านความมั่นคง ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจทำพื้นที่ให้ปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน โดยให้เฝ้าระวังในพื้นที่ ภ.2 เป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. กำกับดูแลงานป้องกันและปราบปราม จะเป็นผู้รับผิดชอบงานด้านนี้ แต่เนื่องจากเป็นเรื่องความมั่นคง จึงต้องดำเนินการในกรณีดังกล่าว

 

“ร.ท.” เอี่ยวเงินทอนวัด เข้าพบ พงส. 21 พ.ค. นี้

               จากกรณีที่ พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป. นำกำลัง พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดมีนบุรี เข้าตรวจบ้านเลขที่ 265/154 หมู่บ้านสีวลีรามคำแหง ถนนราษฎร์พัฒนา (ซอยมิสทีน) แขวงและเขตสะพานสูง กทม. เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยพบว่า ร.ท.ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา ทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นเจ้าของบ้านภาย หลังสืบทราบว่าบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าว มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินงบประมาณเผยแผ่พระพุทธศาสนา หรือคดีเงินทอนวัด ซึ่งพบว่ามีการโอนเงิน 25 ล้านบาท มายังบัญชีธนาคารของ น.ส.นุชรา อายุ 32 ปี ที่เป็นแม่บ้าน
               ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบไปยังต้นสังกัดแล้ว และมีการทำหนังสือขอเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนภายในวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม นี้ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งอาวุธดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์ทราบแล้วน่าจะประมาณ 7 วัน ถึงจะทราบผล ส่วนการสอบปากคำแม่บ้านนั้น ได้สอบสวนแม่บ้านเป็นพยานเสร็จสิ้นแล้วก็ปล่อยตัวกลับ อย่างไรก็ตาม ตนมาเพียงเรื่องของอาวุธปืนที่มีกระสุนขนาดแตกต่างกันเป็นพันนัดเท่านั้น สำหรับข้อมูลหรือเรื่องที่เกี่ยวข้องก็เป็นไปตามที่สื่อมวลชนนำเสนอ