ข่าว

ฝากขัง"คเณศ"ลูกน้องสันธนะกรรโชกทรัพย์ 7 คดี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฝากขัง"คเณศ"ลูกน้องสันธนะร่วมกรรโชกทรัพย์ 7 คดีค้านประกัน ชี้มีพฤติกรรมข่มขู่ คุกคาม-หลบหนี หากปล่อยเสี่ยงหนี-อุปสรรคสอบสวนเสียหายถึงคดีในศาล

 

          15 พฤษภาคม 2561  ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก   พ.ต.ท.ธรรมรักษ์ เรืองดิษฐ์ คณะพนักงานสอบสวน ตามคำสั่ง ตร.ที่317/2560 ได้ควบคุมตัว "นายคเณศ เปรมครุฑ" อายุ 42 ปี ลูกน้อง พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษา บริษัท ตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด และอดีต รอง ผกก.สันติบาล  

 

           ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา 7 หมายลงวันที่ 11 พ.ค.61 คดีขู่กรรโชกทรัพย์กลุ่มผู้ค้าในตลาด มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 – 26 พ.ค.นี้ เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานบุคคลอีก 50 ปาก และรอผลตรวจสอบลายนิ้วมือกับประวัติต้องโทษผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร

 

          โดยคำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างที่ บ.ตลาดใหม่ดอนเมืองฯ ได้เข้าบริหารตลาดใหม่ดอนเมืองและได้แต่งตั้งให้ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ เป็นที่ปรึกษาฯ เมื่อปี 2559  และระหว่างเดือน เม.ย.59 – เดือน เม.ย.61 พ.ต.ท.สันธนะ ก็ได้ร่วมกับพวกรวม 11 คน

 

         ร่วมทำการเรียกเก็บเงินเป็นรายเดือน จากผู้ค้าขายที่เช่าพื้นที่ในตลาดใหม่ดอนเมือง ประมาณร้านละ 1,000 – 3,000 บาท/เดือน และยังเรียกเก็บค่าจอดรถยนต์อีกเดือนละ 700 บาท ส่วนรถ จยย. เดือนละ 300 บาท ซึ่งพวกผู้ต้องหาแบ่งหน้าที่กันทำด้วยการเรียกเก็บเงินช่วงปลายเดือนของทุกๆเดือน

 

          โดยในกลุ่มของพวกผู้ต้องหา 1-5 คน มีพฤติกรรมลักษณะเป็นการข่มขู่ คุกคามผู้ค้าขายจนทำให้เกิดความหวาดกลัวว่าจะเกิดอันตรายหากไม่ยอมจ่ายเงิน และอาจทำให้เกิดความเดือดร้อนในการค้าขายจนกลุ่มผู้ค้ายอมจ่ายเงิน ซึ่งการสอบสวนขณะนี้มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหารวม 9 คดี แต่เฉพาะคดีที่ร้องทุกข์กับ นายคเณศ ผู้ต้องหานี้ มีจำนวน 7 คดี เหตุเกิดที่ตลาดใหม่ดอนเมือง แขวง-เขตดอนเมือง

 

          ซึ่งการกระทำของผู้ต้องหา เป็นความผิดฐานร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 ประกอบมาตรา 83โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ตามหมายจับของศาลอาญา 7 หมาย เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 22.00 น. ที่บริเวณริมทางเข้าวัดพระพุทธฉาย ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี ซึ่งผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับ และพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาทั้ง 7 คดี ส่วนผู้ต้องหารายอื่นยังหลบหนี

 

        ท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวด้วย เนื่องจากคดีนี้มีการกระทำเป็นขบวนการ มีผู้เสียหายจำนวนมาก และทางการสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมข่มขู่ คุกคามผู้เสียหายและพยานซึ่งภายหลังมีการแจ้งความร้องทุกข์ ประกอบผู้ต้องหากับพวกมีพฤติการณ์หลบหนี

 

         เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้ความพยายามอย่างยากลำบากกว่าจะติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหานี้มาได้ และจากพฤติกรรมการกระทำดังกล่าวหากศาลให้ประกันตัวไปก็เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี เนื่องจากมีการกระทำต่างกรรมต่างวาระกันหลายคดี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน พยานบุคคลจนเกิดความเกรงกลัว หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นกับบุคคลอื่นที่ทีเกี่ยวข้องในคดี และหากปล่อยชั่วคราวไปจะเป็นอุปสรรคก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนและการดำเนินคดีในศาล  

 

         อย่างไรก็ดีขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอคำร้องฝากขังต่อศาลให้พิจารณา ขณะที่ต้องรอดูว่า จะมีผู้ยื่นคำร้องและหลักทรัพย์ประกันตัว นายคเณศ ผู้ต้องหานี้ภายในเวลาทำการของศาลไม่เกินเวลา 15.30 น.นี้หรือไม่

 

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายคเณศ ผู้ต้องหารายนี้ เป็นผู้ต้องหาลำดับที่ 8 ในจำนวน 11 คนที่ถูกออกหมายจับในคดี ซึ่งปัจจุบันในคดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องฝากขังแล้ว 2 ราย คือ พ.ต.ท.สันธนะ และนายคเณศ นี้

 

          โดย "พ.ต.ท.สันธนะ" นั้นในชั้นฝากขัง ศาลให้ประกันตัวไป 300,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลและห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งในส่วนของ พ.ต.ท.สันธนะ ศาลให้มารายงานตัววันที่ 2 ก.ค.นี้ หลังครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 4 (ผลัดสุดท้ายรวม 48 วัน)

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ