"สันธนะ"อ่วมหมายจับอื้อ ยันเข้ามอบตัววันนี้

     ความคืบหน้าคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นตลาดใหม่ดอนเมืองเพื่อปราบปรามผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอางผิดกฎหมาย และมีผู้ค้ากว่า 200 รายเข้าให้ปากคำระบุว่ามีกลุ่มอิทธิพลมาเฟียข่มขู่เรียกค่าคุ้มครอง หากไม่จ่ายก็ทำลายทรัพย์สิน อาทิ รถยนต์ที่จอดอยู่ในพื้นที่ตลาด เป็นต้น ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สันติบาล ในฐานะที่ปรึกษาตลาดใหม่ดอนเมือง ยืนยันว่าตนไม่ใช่มาเฟียและที่เรียกเก็บเป็นค่าส่วนกลางเพื่อนำมาพัฒนาตลาด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าวตามที่ข่าวเสนอไปนั้น

     ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เรียกรับเงินจากผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมืองว่า ในส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้มีอิทธิพล หลังจากพ่อค้าแม่ค้าเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนกว่า 200 คน และจากการตรวจค้นสำนักงานที่ตลาดใหม่ดอนเมืองเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นศาลพิจารณาคำร้องได้อนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ข้อหากรรโชกทรัพย์ จำนวน 8 หมาย เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ นอกจากนี้ยังออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 10 คน รวม 45 หมายจับ

     “การที่ศาลออกหมายจับ พ.ต.ท.สันธนะ ถึง 8 หมาย เป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งข้อหากรรโชกทรัพย์นั้นเข้ามูลฐานความผิดฟอกเงิน ส่วนที่ถามว่าเข้าข่ายผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟียหรือไม่นั้น ตามกฎหมายคำว่าผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟียไม่ได้บัญญัติไว้ แต่ลักษณะการกระทำความผิดดังกล่าวอยู่ในข้อหากรรโชกทรัพย์แล้ว ทุกอย่างมีหลักฐานการกระทำความผิดที่ชัดเจน ทางศาลจึงได้กรุณาออกหมายจับ ส่วนที่ พ.ต.ท.สันธนะ อ้างว่าเป็นการเก็บค่าส่วนกลาง เป็นหน้าที่ของท่านที่จะต้องไปชี้แจงต่อศาลเอง” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าว และว่า นอกจากนี้ศาลได้อนุมัติหมายค้นบ้านพักของ พ.ต.ท.สันธนะ อีกด้วย 

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้หากพบ พ.ต.ท.สันธนะ ที่ไหน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จับกุมตามหมายจับได้ทันที ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนว่าตลาดแห่งนี้มีการข่มขู่เรียกเก็บเงินทำลายข้าวของถึงขั้นกรีดรถก็มี ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนขยายผลต่อไป หากสอบสวนแล้วพบบุคคลใดกระทำผิดอีก ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของตลาดหรือบุคคลใดก็ตาม จะออกหมายจับเพิ่มเติม

     “จากการสอบถามเจ้าของตลาดยังปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น อย่างไรก็ตาม ตำรวจอยู่ระหว่างการประสานปปง.ในการเข้าตรวจสอบเส้นทางการเงิน และขอย้ำว่าประเทศไทยต้องไม่มีมาเฟียหรือมีการเรียกเก็บค่าคุ้มครอง” รอง ผบช.ทท.กล่าว

     ต่อมาเวลา 15.30 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผบก.ทท.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.คณิต กลิ่นศรีสุข ผกก.ต่อต้านการก่อการร้าย สนธิกำลังตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ 191 ตร.บก.สส บช.น. ชุดปฏิบัติการพิเศษอรินทราช 26 และตำรวจ สน.บางซื่อ นำหมายค้นศาลอาญา เลขที่ 155 /2561 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 412/248 ชั้น 15 อาคารพหลโยธินเพลส ซอยพหลโยธิน 8 เขตพญาไท กรุงเทพฯ หลังสืบทราบว่าห้องพักดังกล่าวเป็นของพ.ต.ท.สันธนะ ผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยพบเป็นอาคารสูง 17 ชั้น เปิดทำการเป็นอาคารสำนักงานให้เช่าและที่พักรวมทั้งพลาซ่า 

     เจ้าหน้าที่ตำรวจอรินทราช 26 ได้เข้าไปที่สำนักงานอาคารดังกล่าว พร้อมแสดงหมายค้นต่อเจ้าหน้าที่นิติบุคคล เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นิติบุคคลได้ให้ความร่วมมือนำตรวจค้นและเมื่อถึงบริเวณหน้าห้องพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณให้บุคคลที่อยู่ภายในห้องเปิดประตูแต่ปรากฏว่าไม่มีใครเปิดประตู จึงได้ประสานนิติบุคคลเรียกช่างกุญแจมาเนื่องจากไม่ต้องการให้ทรัพย์สินเสียหาย

     ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบที่บริเวณมิเตอร์ไฟ พบว่ามิเตอร์ไฟของห้องทำงานและจ่ายกระแสไฟอยู่ จึงสันนิษฐานว่ามีบุคคลอยู่ภายในห้องจริง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ผู้ควบคุมการปฏิบัติ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.นพศิลป์ อ่านหมายค้นอีกครั้ง เพื่อให้บุคคลภายในห้องเข้าใจต่อสถานการณ์ว่าเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย จนเวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมง ยังไม่มีการตอบรับจากบุคคลใด เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ช่างกุญแจเปิดห้อง ทันทีที่ประตูห้องเปิดออกทางชุดปฏิบัติการพิเศษอรินทราช 26 ได้เข้าไปตรวจสอบภายในห้องพัก เบื้องต้นพบว่าในห้องเปิดแอร์ทิ้งไว้แต่ไม่มีบุคคลใดอยู่ รวมทั้งตรวจสอบบริเวณระเบียงพบว่ามีการเชื่อมไปยังห้องข้างๆ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงได้เก็บวัตถุพยานหลักฐานที่สำคัญภายในห้อง

      ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจค้นนานกว่า 1 ชั่วโมงว่า วันนี้เป็นปฏิบัติการตามหมายศาล โดยได้นำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักอาคารชุดของผู้ต้องหาตามหมายจับ คือ พ.ต.ท.สันธนะ ซึ่งเป็น 1 ใน 11 ผู้ต้องหา โดยศาลอาญาได้ออกหมายจับ 45 หมายจับ พ.ต.ท.สันธนะมีหมายจับ 8 หมายจับ ในความผิดฐานร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ขณะเดียวกันศาลอาญาได้ออกหมายค้นห้องพักดังกล่าว จึงได้เข้าตรวจค้น ทั้งนี้ บุคคลที่เข้าตรวจค้นได้ต้องเป็นบุคคลที่มีชื่อปรากฏอยู่ในหมายค้นเท่านั้น ซึ่งได้มีการเก็บหลักฐานทั้งดีเอ็นเอ รอยฝ่ามือ รอยนิ้วมือต่างๆ ร่องรอยวัตถุพยานและเอกสารต่างๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจค้น

     ส่วนผู้ต้องหา 11 คน 45 หมายจับ ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ในส่วนการสืบสวนจับกุมของตำรวจเรื่องการมอบตัวหรือไม่มอบตัวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่การสืบสวนติดตามจับกุมจะต้องทำก่อนเพราะต้องปฏิบัติตามหมายศาล จากการเข้าตรวจค้นยังไม่พบบุคคลอยู่ในห้องซึ่งเคลียร์พื้นที่หมดแล้วอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจค้นเอกสารต่างๆ ส่วนการติดต่อขอเข้ามอบตัวยังไม่มีการติดต่อเข้ามามอบตัวแต่อย่างใด

     “การเข้าตรวจค้นครั้งนี้มีผู้จัดการอาคารชุดหรือผู้จัดการนิติบุคคลนำเข้าตรวจค้น และยืนยันว่าเป็นห้องของ พ.ต.ท.สันธนะ จริง ทั้งนี้มีการร่องรอยการเข้ามาพักอาศัยอยู่เมื่อวานนี้ (10 พ.ค.) ขณะนี้ยังไม่พบตัว แต่ไม่เป็นไรในส่วนของชุดสืบสวนทั้งหมดได้ระดมทีมงานทำงานอยู่แล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามหมายศาล ส่วนการจะติดต่อขอเข้ามอบตัวก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในส่วนของการติดตามบุคคลตามหมายจับขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามตัว รวมทั้งประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ให้เพิ่มความเข้มงวด รวมทั้งกำลังทหารในพื้นที่ตามแนวชายแดน ช่องทางธรรมชาติต่างๆ หากพบบุคคลตามหมายจับก็สามารถจับกุมได้ทันที และยังไม่พบข้อมูลว่าผู้ร่วมก่อเหตุที่เป็นบุคคลตามหมายจับเป็นบุคคลคนมีสีหรือข้าราชการแต่อย่างใด”

     พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ได้ทำให้สังคมเห็นแล้วว่าการบังคับใช้กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย การจะบอกว่าเป็นการกระทำความผิดก็ต้องอยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐานและการสอบสวน ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด แล้วขออนุมัติหมายจับต่อศาล ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับมาให้ ถือว่าเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนจะมีความผิดในส่วนอื่นหรือไม่ ก็ต้องดูกันต่อไป ทั้งการเสียภาษี การบุกรุก และพ.ร.บ.อาคาร หรือเรื่องของผู้เสียหายที่อาจมีมากกว่านี้ก็ต้องดำเนินการ การกระทำความผิดก็ต่างกรรมต่างวาระ 1 คน 1 ความผิด 1 หมายจับ ซึ่งจะต้องดูจากจำนวนผู้เสียหาย ต้องบอกว่าตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าได้รับความเป็นธรรมแน่นอน

     ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพ่อค้าแม่ค้าไม่ยอมจ่ายเงินก็จะมีการกรีดรถใช่หรือไม่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ก็เป็นไปตามคำให้การ มีการแจ้งมาว่ามีการกรีดรถ เมื่อถามว่าห้องพักเปิดแอร์อยู่แต่ห้องล็อกด้วยเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในห้องอย่างละเอียดรอบคอบทั้งหมดแล้ว รวมถึงทางหน้าต่างก็ไม่สามารถปีนออกไปได้ ส่วนการติดตามตัวที่เหลืออีก 10 คน ก็อยู่ในระหว่างการติดตามตัวเช่นกัน ทั้งนี้หากจะเข้ามอบตัวก็สามารถเข้ามามอบตัวได้เลย มีร้อยเวรอยู่แล้วที่ สน. แต่ถ้ามีการติดต่อขอเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนก็จะทำการรับมอบตัว 

     “ยืนยันว่าเป็นการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับปกติ แต่เนื่องจากในกรณีนี้มีพ่อค้าแม่ค้าได้รับความเสียหายจำนวนมากจึงต้องทำความจริงให้ปรากฏต่อสังคม เพื่อเป็นหลักประกันให้พ่อค้าแม่ค้าว่าการขายของจะต้องชำระในส่วนที่เป็นค่าเช่าจริงๆ เท่านั้น ในส่วนอื่นที่ผิดกฎหมายต้องไม่มี ทั้งนี้การกรรโชกทรัพย์หลายๆ รายบ่อยครั้งก็เป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.การฟอกเงิน และขอยืนยันว่ายังไม่มีการติดต่อเข้ามอบตัวแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบและหมายค้นอื่นก็อยู่ระหว่างการขอ”

     เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่จะต้องจับนายตำรวจรุ่นพี่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้กังวลอะไร ก็ทำไปตามกฎหมายและอำนาจหน้าที่ อีก 10 คนที่ถูกออกหมายจับด้วยเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มของ พ.ต.ท.สันธนะ ส่วนเรื่องมูลค่าความเสียหายนั้น ตามคำให้การถูกเรียกเก็บร้านละ 2,500-3,000 บาท ซึ่งจะต้องไปดูว่า มีกี่ร้านค้าที่ถูกเรียกเก็บ เบื้องต้นมีประมาณ 300 ร้าน

     ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้นำช่างกุญแจมาเปิดห้องโดยใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงสามารถเปิดห้องพักได้ ภายในห้องพบว่าด้านในมีการเปิดแอร์ไว้เย็นฉ่ำ มีกระต่ายอยู่ภายในกรง 1 ตัว สีดำ-ขาว และตรวจพบว่ามีการเสียบหม้อหุงข้าวเอาไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า พ.ต.ท.สันธนะออกไปได้ไม่นาน และรู้ว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นจึงได้หลบหนีไปก่อน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บดีเอ็นเอที่อยู่ภายในห้อง เช่น เส้นผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณท่อน้ำทิ้ง รวมไปถึงตรวจยึดเอกสารต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน

     ด้าน พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า กรณีที่มีการออกหมายจับนั้นยืนยันว่าพร้อมที่จะเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง อย่างแน่นอน แต่เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ระหว่างทำธุระส่วนตัวที่ต่างจังหวัดคงเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ไม่ทันในวันนี้ (11พ.ค.) จึงขอนัดหมายเข้ามอบตัวในวันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม เวลา 17.00 น. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าจะไม่หลบหนีตามที่เคยยืนยันไว้ก่อนหน้านี้

     มีรายงานแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.สันธนะ ได้แจ้งข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ถึงผู้สื่อข่าวสำนักต่างๆ ว่า เมื่อคืนวันที่ 9 พฤษภาคม เวลา 22.30 น. ได้มีกำลังตำรวจสายสืบนอกเครื่องแบบเกือบ 10 นาย ดักเฝ้าทางเข้าออกทั้งสองถนนที่ตนพักอาศัยอยู่ แต่สามารถหลบออกมาได้ และเข้าพักในเซฟเฮ้าส์เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 พฤษภาคม เนื่องจากทราบว่าจะออกหมายจับพนักงานตลาดใหม่ดอนเมือง

     อย่างไรก็ตาม ต่อมา พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า ในวันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม ตนจะเดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในช่วงเวลา 06.30 น. ที่บ้านพักของบิดา หมู่บ้านคริสตัลปาร์ค ย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา กทม.  ทั้งนี้การติดต่อขอเข้ามอบตัวดังกล่าว ได้พูดคุยกับ พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย   เพื่อขอให้พาเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตนได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ มารับตัวไปที่ สน.ดอนเมือง ในช่วงเวลา 06.30 น. ที่หน้าบ้านพักของบิดา และจะไม่ขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน แต่จะขอประกันตัวในชั้นศาลแทน  เพราะเชื่อในกระบวนการยุติธรรม

     “วันนี้ผมเดินทางมากราบคุณพ่อที่บ้าน ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ผมถูกออกหมายจับได้ยังไง  ผมไปทำอะไรให้  และผมก็ไม่เคยไปกรรโชกทรัพย์ใคร”  อดีต ผกก.สันติบาล  ระบุ 

  

     ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีการตั้งชุดทำงานในคดีที่เกี่ยวข้องกับการบุกค้นตลาดใหม่ดอนเมืองว่า เรื่องนี้ตนได้มีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. เป็นประธานชุดสืบสวนคดีก็ชัดเจนอยู่แล้ว โดยให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เป็นรองหัวหน้าชุด 

     “ไม่มีอะไรเลย ไม่เข้าใจว่าสับสนตรงไหนไม่ได้เป็นการเปลี่ยนม้ากลางศึก โดยตอนแรกเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ได้ตั้ง พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ ให้ทำงานด้านสืบสวน และต่อมาวันที่ 9 พฤษภาคม ก็ได้ให้ทำด้านสอบสวนด้วย ขณะที่ พล.ต.อ.วิระชัย ก็ยังดูเรื่องเครือข่ายเมจิกสกินเหมือนเดิม ส่วนของพล.ต.อ.รุ่งโรจน์ ให้ดูในภาพรวม ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตลาดใหม่ดอนเมืองทั้งหมด โดยเร่งรัดการสอบสวนให้เสร็จโดยเร็ว” ผบ.ตร.ระบุ

     ผู้สื่อข่าวถามว่า การแต่งตั้งเพื่อเน้นย้ำในประเด็นที่มีผู้มีอิทธิพลมาเกี่ยวข้องใช่หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ต้องรอให้มีการสอบสวนเสียก่อน หากเข้าข่ายผู้มีอิทธิพลก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย เมื่อถามย้ำว่า กรณีนี้มีอดีตนายตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องจะกระทบต่อการทำคดีหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยืนยันว่า ไม่มีปัญหา แต่ต้องขอดูรายชื่อก่อนว่ามีใครเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นผู้มีอิทธิพลด้วยหรือไม่ ตอนนี้เป็นแค่การพูดกันเท่านั้นเอง ส่วนกรณีกระแสข่าวมีคนสำคัญเข้ามาเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ต่างๆ ในตลาดด้วยนั้น ก็ต้องตรวจสอบให้รอบคอบ ไม่ต้องห่วงเราทำงานทุกมิติอยู่แล้ว 

     ต่อข้อถาม กรณี พ.ต.ท.สันธนะ โทรศัพท์ไปหา พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า มันจบไปแล้วไม่มีอะไร ต่อไปนี้เป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย

     “ใครโทรมาผมก็รับ ผมว่างผมก็รับ ถ้าไม่ติดงานราชการอยู่ เมื่อเช้าชูวิทย์ (นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พิธีกรข่าวชื่อดัง) โทรมา ใช้เบอร์ไพรเวทโทรมา ผมก็รับ ทั้งที่นั่งสอบผู้ต้องหาอยู่ที่ศูนย์สืบนครบาล เบอร์ผมเป็นเบอร์สาธารณะอยู่แล้ว ใช้มาตั้งแต่ยังเป็น ร.ต.อ. บางทีคนบ้าโทรมา ผมก็คุยเป็น 10 นาที ผมก็ต้องทนฟัง” พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว

     วันเดียวกัน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ, เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อ.ย.) พร้อมหมายศาลจังหวัดธัญบุรี เข้าตรวจค้น โรงงานของบริษัท ไวทัลเฮลท์ โปรดักส์ จำกัด เลขที่ 55/31 หมู่ 4 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เป็นโรงงานที่จดแจ้งผลิตอาหารสำหรับเด็กทารก แต่การตรวจสอบภายในโรงงานพบว่าเป็นโรงงานที่รับผลิตสินค้าประเภทอาหารเสริม โดยแบ่งเป็นห้องต่างๆ อย่างเป็นสัดส่วน มีเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตและพบพนักงานกำลังบรรจุผลิตภัณฑ์ และจากการตรวจสอบโดยคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยที่เข้าร่วมตรวจสอบด้วยพบว่ามีการใช้เครื่องหมายฮาลาลโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย

     สำหรับการเข้าตรวจค้นสืบเนื่องจากการตรวจยึดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผิดกฎหมายที่ตลาดใหม่ดอนเมืองโดยห้องปฏิบัติการพบว่ามีผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ยี่ห้อ “เอฟทูเอฟเท็น” มีการผสมสารไซบูทรามีนซึ่งเป็นสารอันตรายเช่นเดียวกับที่ผสมในยาลดความอ้วนยี่ห้อ “ลีน” จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบโรงงานแหล่งผลิตดังกล่าว พบมีบรรจุภัณฑ์ตรงกับของกลางที่ตรวจยึด และจากการสอบสวนพนักงานโรงงานรับว่ามีการผลิตสินค้าดังกล่าวจริง

     พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจค้นโรงงานว่า จากการตรวจค้นพบว่ามีการผลิตยาลดความอ้วนจริง โดยผลิต 2-3 ยี่ห้อ และจะนำยาลดความอ้วนไปตรวจสอบหาสารอันตรายว่ามีผสมอยู่หรือไม่ และมีสารอันตรายอื่นผสมอยู่หรือไม่ และยังพบสารตั้งต้นที่เป็นยาแผนปัจจุบันนำมาใส่ในอาหารเสริม มีบัญชีการสั่งยาแผนปัจจุบันเป็นหลักฐานการสั่งซื้อด้วย ซึ่งส่วนนี้จะมีความผิดฐานผลิตอาหารที่ไม่บริสุทธิ์ ตาม พ.ร.บ.อาหารและยา และเบื้องต้นพบว่าเป็นการใช้อย.ไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน หลังจากนี้จะขยายผลว่ามีใครบ้างที่สั่งผลิตอาหารกับโรงงานแห่งนี้โดยผิดกฎหมายรวมทั้งเจ้าของโรงงานและผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง 

     พล.ต.อ.วิระชัย ยังกล่าวถึงกรณีแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนทำคดีตลาดใหม่ดอนเมืองว่า มีการขยายผลถึงการบุกรุกที่สาธารณะและการต่อเติมสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีการถูกกรรโชกทรัพย์หลายราย จึงเป็นต้นเหตุของคดีอื่นนอกจากอาหารและยาด้วย และเพื่อให้ขยายผลเดินต่อไปได้จึงจะต้องแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาใหม่ เพราะชุดแรกทำได้แค่ทำคดีอาหารเสริมและเครื่องสำอางและงานก็ล้นมือด้วย ทั้งนี้ถือเป็นเรื่องดีจะทำให้การสอบสวนสมบูรณ์แบบ 

     ส่วนกรณีการออกหมายจับ พ.ต.ท.สันธนะ และพวกรวม 11 คน ข้อหากรรโชกทรัพย์นั้น อยู่ในรายละเอียดการสอบสวนและได้สอบสวนพยานมากเพียงพอ โดยแยกสำนวนกันระหว่างอาหารและยา และจากการสอบสวนผู้ค้าทุกคนพูดความจริงว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ทุกอย่างอยู่ในสำนวน ซึ่งยืนยันว่าจะดำเนินคดีจนสุดทาง และหากผู้ค้าแจ้งความดำเนินคดีกี่คนก็ถือว่าเป็นการดำเนินคดีที่ต่างกรรมต่างวาระไป

ฉบับ นสพ.คมชัดลึก