ศาลขอนแก่นนัดฟังคำตัดสินคดี "เปรี้ยว หั่นศพ" 10 พ.ค.นี้

 

               ศาลจังหวัดขอนแก่น นัดฟังคำพิพากษาตัดสินคดี “ฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม” พนักงานสถานบริการที่ถูก “แก๊งเปรี้ยว สวยสังหาร” ฆาตกรรมโหด ก่อนนำศพที่ถูกหั่นเป็น 2 ท่อน ฝังดินในป่าอำเภอเขาสวนกวาง ด้านพ่อ-แม่แอ๋ม เตรียมลุ้นคำตัดสิน หวังศาลพิจารณาโทษจำเลยสูงสุด

 

               วันที่ 9 พฤษภาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้มีหนังสือคำสั่งส่งถึงพนักงานอัยการ จ.ขอนแก่น และทนายความฝ่ายโจทก์และจำเลย เพื่อนัดฟังคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ตัดสินคดีหมายเลขดำที่ อ.1957/2560 หรือ คดี “ฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม” น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย ที่ถูกฆาตกรรมด้วยการฆ่าและหั่นศพเป็น 2 ท่อน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะนำศพไปฝังอำพรางในพื้นที่อำเภอเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น

 

               ซึ่งพนักงายอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว พร้อมพวก รวม 5 คน ประกอบด้วย น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น , น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ , นายวิศิน นามพรหม หรือ นิว และ น.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ พรมคุณ โดยผู้ต้องหา 4 คน ถูกตั้ง 5 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ , ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว ทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

 

               ส่วน น.ส.เบนซ์ ถูกตั้งข้อหารับของโจรเพียงข้อหาเดียว โดยศาลจังหวัดขอนแก่น ได้นัดให้ฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยมาฟังคำพิพากษาในวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 เวลา 13.30 น. จากเดิมคือวันที่ 29 มิ.ย.61

 

 

               นายอมรพงศ์ จันทร์กวี ทนายความนางสาวเปรี้ยว จำเลยที่ 1 และนางสาวเอิร์น จำเลยที่ 2 กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ศาลจังหวัดขอนแก่น จะมีการเบิกตัวจำเลยทั้ง 4 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำกลางขอนแก่น ตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อเข้าร่วมรับฟังคำตัดสินของศาลชั้นต้น โดยจะเป็นการอ่านคำตัดสินต่อหน้าจำเลยทั้งหมด รวมทั้ง น.ส.เบ๊นซ์ ที่ถูกตั้งข้อหารับของโจรด้วย

 

 

 

 

               ซึ่งในเรื่องของรายละเอียดคดี ตนไม่ขอกล่าวถึง เนื่องจากอาจกระทบต่อคำพิพากษาของศาลที่จะมีการอ่านคำตัดสินในวันพรุ่งนี้ แต่ที่ผ่านมา ทีมทนายฝ่ายจำเลยได้ทำหน้าที่ในฐานะทนายความอย่างเต็มที่แล้ว โดยเฉพาะการหาพยานหลักฐานมาต่อสู้ว่า จำเลยไม่ได้มีการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่เป็นการทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายเท่านั้น

 

               ส่วนคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไรจะต้องรอฟังในวันพรุ่งนี้ และจะต้องดูว่าจำเลยจะมีความประสงค์อย่างไรหลังจากได้ฟังคำตัดสินของศาล ซึ่งตามหลักแล้ว จำเลยสามารถยื่นเรื่องขออุทธรณ์คำตัดสินของศาลชั้นต้นได้

 

               ด้านนายนพดล ศรีดาทัน ทนายร่วมของฝ่ายโจทก์ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้นอกจากศาลจะอ่านคำพิพากษาในคดีอาญาแล้ว ยังมีคำพิพากษาในคดีแพ่งด้วย ซึ่งคดีที่ครอบครัวของผู้ตาย ฟ้องเรียกร้องค่าขาดการอุปการะเลี้ยงดู เป็นเงิน จำนวน 10 ล้านบาท โดยในวันพรุ่งนี้พ่อแม่และญาติของ น.ส.แอ๋ม ที่ถูกฆาตกรรม จะเดินทางมาร่วมรับฟังคำพิพากษาของศาลทุกคน หลังจากที่ต่างเฝ้ารอวันทวงคืนความยุติธรรมให้กับ น.ส.แอ๋ม ซึ่งก็หวังว่าศาลจะพิจารณาตัดสินลงโทษกลุ่มจำเลยอย่างถึงที่สุด ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอฟัง

 

               เบื้องต้น หากคำตัดสินออกมาว่า ให้จำคุกจำเลยเป็นอัตราโทษที่น้อยกว่า จำคุกตลอดชีวิต ทางโจทก์ก็จะยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำตัดสินของศาลชั้นต้น เพื่อให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาตามขั้นตอนของการต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป รวมทั้งในคดีแพ่งด้วย ซึ่งจะต้องรอฟังว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร