"แม่เอ็กซ์"น้ำตาเอ่อยอมรับคิดถึงหลาน 2 คน ย้ำอโหสิกรรมหมอนิ่มแต่แรกชมเลี้ยงหลานได้ดีทุ่มเทมาก เห็นใจต้องใช้เงินเยอะเด็กกำลังโต
8 พ.ค.61 "แม่เอ็กซ์" น้ำตาเอ่อ ยอมรับคิดถึงหลาน 2 คน ย้ำอโหสิกรรมหมอนิ่มแต่แรก ชมเลี้ยงหลานได้ดีทุ่มเทมาก เห็นใจต้องใช้เงินเยอะหลานกำลังโต ส่วนหมอนิ่มไม่สัมภาษณ์ ทนายระบุเตรียม 2 ล้านเผื่อยื่นประกันชั้นฎีกา
"นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม"มารดาของเอ็กซ์-จักรกฤษณ์ ที่เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษา ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกต่อ พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ ลูกสะใภ้ที่ตกเป็นจำเลยในคดีนี้ว่า "ไม่เคยโกรธเขาเลย อโหสิตั้งแต่แรกแล้ว ไม่เคยโกรธเขาเลย เป็นห่วงเขาด้วยซ้ำ เขาต้องเลี้ยงหลาน 2 คน ที่กำลังโต แล้วก็ใช้เงินเยอะ เขาเลี้ยงหลานได้ดีมีคุณภาพ เขาทุ่มเทกับหลานมาก เรารู้เพราะเราเลี้ยงเขามาตั้งแต่แบเบาะ 2 คนนี้ไปอุ้มมาตั้งแต่โรงพยาบาล เขาไปคลอดหลาน 2 คน เราก็ไปเฝ้าไปดูแลเขาตลอด วันนี้เขามาไหว้เราก็ไหว้ตอบ ไม่ได้โกรธ เห็นใจเขาด้วย เขาก็ดีต่อแม่ ตอนที่อยู่ด้วยกันเขาก็ดีมาก ๆ"
"นางบุญคิด" ยังบอกถึงความรู้สึกต่อหลาน ๆ ด้วยว่า ก็อยากเจอหลาน แต่เห็นว่าหมอนิ่มมีศักยภาพในการเลี้ยงดูหลานมากกว่า ดังที่หมอนิ่มแถลงต่อศาลขอเลื่อนคดีไปวันที่ 26 มิ.ย.นี้เพราะติดประชุมผู้ปกครองต้องไปทำหน้าที่ทั้งเป็นแม่และพ่อ พอพูดอย่างนี้ตนก็น้ำตาคลอ ซึ่งตนแก่แล้วสุขภาพไม่ค่อยดี เลี้ยงหลานก็ใช้เงินเยอะมาก ซึ่งหลานทั้ง 2 คน เรียนหลักสูตรอินเตอร์และเรียนเปียโนด้วย
เมื่อถามถึงคดีข้อพิพาทที่ดิน ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าผลเป็นอย่างไร "นางบุญคิด" เปิดเผยว่า ศาลตัดสินมาแล้วให้เป็นผู้จัดการมรดกในที่ดินนั้นร่วมกัน
ขณะที่ "นายเอกชัย จิตรบาล" ทนายความของนางบุญคิด ได้กล่าวเสริมว่า ได้ร้องจัดการมรดก ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมทรัพย์สิน เจรจาพูดคุย คดีได้คุยกันแล้ว นางบุญคิดได้อโหสิกรรม อยากให้ทุกอย่างไปตามขั้นตอนของศาล ศาลจะว่าอย่างไรก็ตามนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ดีเมื่อถามย้ำถึงหลาน ๆ "นางบุญคิด" แม่ของเอ็กซ์ ก็เริ่มจะน้ำตาคลอก่อนที่จะยุติการให้สัมภาษณ์
"นายชำนาญ ชาดิษฐ์" ทนายความของหมอนิ่ม กล่าวถึงความพร้อมของหมอนิ่มในการฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นัดหน้าว่า ไม่ว่าผลคำพิพากษาอุทธรณ์จะออกมาพิพากษายืนหรือแก้โทษ หมอนิ่มก็ได้เตรียมหลักทรัพย์ไว้เพื่อจะประกันตัวสู้คดีจนถึงชั้นฎีกา จากหลักทรัพย์เดิม 1 ล้านบาทก็เพิ่มเป็น 2 ล้านบาทแต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดุลพินิจและความเมตตาของศาล ส่วนสภาพจิตใจของหมอนิ่มนั้นก็เหมือนคนที่ถูกดำเนินคดีทั่วไป ซึ่งหากผลคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์จะไม่ได้ยกฟ้อง เราก็จะสู้จนถึงศาลฎีกาชั้นสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังได้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว "หมอนิ่ม" และ "น.ส.สุรางค์ ดวงจินดา อายุ 75 ปี" มารดาของหมอนิ่ม ที่ตกเป็นจำเลยร่วมด้วย (ศาลชั้นต้นยกฟ้องแม่หมอนิ่ม) พร้อมกับกลุ่มคนใกล้ชิดที่เดินทางมาให้กำลังใจวันนี้ 2-3 คน ก็รีบเดินทางกลับทันที โดย "หมอนิ่ม" พยายามขอร้องสื่อมวลชนที่จะไม่ให้ถ่ายภาพตน ก่อนที่ครอบครัวจะนั่งรถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีดำ กลับออกไปโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง