ข่าว

ยิง"กำนันม้ง" คนร้าย 3 คนหนีเข้าลาว มุ่งปมยาเสพติด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คดียิง"กำนันม้ง" พบคนร้ายลงมือ 3 คน บางคนหนีฝั่งลาวแล้ว ปมสังหารมุ่งคดียาเสพติด


          2 พ.ค.61-พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.เปิดเผยภายหลังประชุมชุดคลี่คลายคดียิงถล่มครอบครัวนายทวีศักดิ์ ยอดมณีบรรพต กำนัน ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และประธานชมรมม้งแห่งประเทศไทย เหตุเกิดวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมาว่าล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำอาวุธปืนที่ทางตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครองเรียกมาตรวจสอบแล้วทั้ง 300 กระบอก และได้คัดออกเหลือจำนวน 74 กระบอกมาทดสอบวิถีการยิงและอื่นๆ ว่าเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ ส่วนการประชุมครั้งนี้ได้แยกเป็นการสืบสวนและสอบสวน โดยในแง่การสอบสวนนั้นได้สอบปากคำพยานไปแล้วจำนวน 2-3 ปาก ด้านการสืบสวนได้ให้ทางหน่วยพิสูจน์หลักฐานจำลองเหตุการณ์ แนววิถีกระสุน ตรวจดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ

 

           ยิง"กำนันม้ง" คนร้าย 3 คนหนีเข้าลาว มุ่งปมยาเสพติด

 

          พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 กล่าวว่า ยังคงมุ่งเป้าไปยังเรื่องของคดียาเสพติดที่ผ่านมาเป็นสำคัญเหมือนเดิม โดยสาเหตุที่เป็นปมการลอบยิงอาจเป็นการใช้ภาษาม้งซึ่งที่ผ่านมาทางราชการได้ขอความร่วมมือกับทางกำนันในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐหลายครั้ง เพราะโดยตำแหน่งก็เป็นหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้วในเรื่องของการจัดหาล่ามแปลเป็นภาษาม้งกรณีมีการจับกุมคดียาเสพติดหรือขยายผลต่างๆ ซึ่งก็อาจสาเหตุหนึ่ง

 

          โดยการสืบทราบพบว่าก่อนเกิดเหตุยิงถล่มครั้งนี้มีผู้ที่อาฆาตถึงขั้นจะเอาชีวิตนายทวีศักดิ์โดยเจ้าตัวก็รู้ตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว และเมื่อลงมือจนแล้วเสร็จแล้วก็ได้หลบหนีไปโดยสืบทราบว่ามีหลายคนทั้งกลุ่มคนวางแผน สั่งการ ลงมือ โดยบางส่วนหลบหนีไปอยู่ในฝั่ง สปป.ลาว แล้วแต่เชื่อว่าบางส่วนยังอยู่ฝั่งไทย ทั้งนี้เชื่อมโยงกับทั้ง 2 คดี คือ จับกุมยาบ้าได้จำนวน 9.4 ล้านเม็ด และยาไอซ์และเคาตามีน 788 กิโลกรัมในพื้นที่ อ.เวียงแก่น จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน เมื่อวันที่ 2 เม.ย.และคดีจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาไอซ์ 260 กิโลกรัม จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน พื้นที่ อ.เชียงคำ จ.พะเยา เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา

 

            ยิง"กำนันม้ง" คนร้าย 3 คนหนีเข้าลาว มุ่งปมยาเสพติด

 

          ผบช.ภาค 5 กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบอีกว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ยังมีอยู่ด้วยกันถึง 3 คน เกี่ยวข้องกับบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ อ.เวียงแก่น โดยใช้อาวุธปืนเอเค-47 หรืออาก้า จำนวน 2 คน และปืนลูกซองยาวจำนวน 1 คน ซึ่งก็ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบหลักฐานและสอบพยานต่างๆ อีกระยะหนึ่งต่อไป

 

          ขณะที่ พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด ผบก.ปส.3 บช.ปส.กล่าวว่าจากการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ และนำมาเปรียบเทียบกับชุดคลี่คลายคดีของ ภ.5 ในครั้งนี้พบว่าตรงกันทำให้ทราบถึงกลุ่มต่างๆ แล้ว จึงเหลือเพียงการตรวจหาข้อมูลหลักฐานและพยานต่างๆ มาประกอบสำนวนคดีให้มีความรัดกุมก่อนมีการดำเนินการต่อไป

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ