รวบแก๊งลักจักรยานยนต์ส่งขายเพื่อนบ้าน

 

 

          เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 เม.ย. 2561  พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี หน.กกล.รส.จว.ขอนแก่น และชุดจับกุมชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายวีรภัทร ผิวเหลือง นายเกรียงไกร ไนจิตร นายทรงวุฒิ ทั้ง 3 คนเป็นชาว ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น สมแพง นางหนูภาพ สอนอ่อน นายสนธยา แพงร้อย ชาวต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย และนายพลวัฒน์ พลสุพี ชาว ต.วังปลาป้อม อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู
 

          พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ จำนวน  8 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ เสื้อ หมวกกันน็น็อกที่สวมใส่วันก่อเหตุตามบันทึกจากกล้องวงจรปิด
 
          พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์หายจำนวนมาก ทั้งที่ลานจอดรถ หอพัก หรือสถานที่ที่มีรถจอดจำนวนมาก รวมทั้งในบริเวณจอดรถใกล้สถานศึกษา และจากการตรวจสอบพฤติกรรมการลักขโมย โดยดูจากภากล้องวงจรปิดส่วนใหญ่จะพบว่า คนร้ายจะขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนดูรถเป้าหมายตามสถานที่ต่างๆ หากพบรถเสียบกุญแจไว้ก็จะเข้าไปขโมยทันที หรือคันใดที่ไม่ล็อกคอก็จะเข้าไปเข็นออกมาจากจุดจอดแล้วจะช่วยกันเป็นทีม ให้คนขี่รถอีกคันใช้เท้าถีบรถคันที่ขโมยออกไป โดยส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปเส้นทางเปลี่ยวโดยเฉพาะเส้นทางไป เขต ต.เมืองเก่า

          จนกระทั่งต่อมาชุดสืบสวนได้สืบทราบว่า คนร้ายได้เอารถจักรยานยนต์ไปเก็บไว้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ในหมู่ชุมชนการเคหะ ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบนางหนูภาพ นายสนธยา และนายพลวัฒน์ กำลังช่วยกันขนย้ายรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขึ้นกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บพ-714-เลย ซึ่งเป็นรถของนางหนูภาพ และเมื่อตรวจสอบรถจักรยานยนต์ทั้งหมดเป็นรถที่ลักขโมยมา จึงจับกุมทั้ง 3 คนไปสอบสวน
 

 
 
          ให้การรับสารภาพว่า นางหนูภาพเป็นผู้ติดต่อซื้อรถจักรยานยนต์จากนายหน้า แล้วนำรถมาเก็บซุกซ่อนไว้ที่บ้าน เมื่อได้รถครบตามออเดอร์ของนายทุนก็จะว่างจ้างวัยรุ่นที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันมาช่วยขนย้าย หากขนขึ้นรถยนต์ไม่หมด ก็จะให้ขี่รถจักรยานยนต์ที่เหลือไปที่บ้านของนางหนูภาพ ที่ อ.เชียงคาน จ.เลย โดยได้รับค้างจ้างครั้งละ 500 บาท รถทั้งหมดจะส่งให้นายทุนที่อยู่ ต.ปากคาด อ.เชียงคาน จ.เลย มารับไปขายต่อที่ สปป.ลาว
 

 

          ต่อมาเมื่อได้ขยายผลจนทราบผู้ก่อเหตุลักรถในเขต อ.เมืองขอนแก่น แล้วนำมาขายให้นางหนูภาพ คือกลุ่มของนายเกรียงไกร จึงได้ติดตามจับกุมนายเกรียงไกร นายวีรภัทร และนายทรงวุฒิ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขับขี่ไปก่อเหตุ แผ่นป้ายทะเบียนที่ถอดออกก่อนนำไปขาย โดยให้การว่าได้ร่วมกันตระเวนหารถจักรยานยนต์ยี่ห้อ รุ่น ตามที่นายทุนสั่งการ จากนั้นจะลักโดยใช้วิธีเข็นเมื่อไปที่ปลอดก็จะถอดทะเบียนทิ้งแล้วนำไปเปลี่ยนกุญแจ ก่อนจะให้นายเกรียงไกรนำไปขาย นำเงินมาแบ่งกัน ก่อเหตุในเมืองขอนแก่นมาแล้วมากกว่า 50 คัน
 

 

          ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้ไม่ได้ก่อเหตุแค่ลักรถเพื่อขายเท่านั้น เพราะมีบางคันที่ขโมยมาแล้วนำไปขี่เพื่อก่อเหตุ เพราะเป็นรถที่ไม่ใช่ยี่ห้อตามคำสั่ง แต่รถที่ขโมยได้ง่ายเพราะเจ้าของลืมกุญแจเสียบคารถไว้ และยังมีรถหลายคันที่เป็นรถใหม่ เป็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นที่เป็นที่ต้องการของตลาดมืดนี้มาก เข็มไมล์ไม่ถึง 10 กม.เชื่อว่าจะเป็นแก๊งตระเวนดาวน์รถจากร้านในอัตราดาวน์แค่ไม่กี่บาท บางแห่งดาวน์แค่ 1,000 บาท ขณะที่เงื่อนไขการซื้อต้องมีประกันหายด้วย และเมื่อได้รถแล้วก็นำไปขายต่อทันที เพราะแก๊งนี้รับซื้อรถตามออเดอร์คันละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท แต่ถ้ารถใหม่มากอาจจะได้มากกว่านั้น