ตร.เร่งสอบยิงกำนันม้ง ไม่ทิ้งปมพันยา

          จากกรณีคนร้ายดักซุ่มใช้ปืนอาก้าและปืนลูกซองยิงถล่มรถกระบะของ นายทวีศักดิ์ ยอดมณีบรรพต กำนันตำบลปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ขณะขับบนถนนระหว่างบ้านร่มฟ้าทอง และบ้านร่มโพธิ์เงิน ต.ปอ อ.เวียงแก่น เพื่อกลับที่พัก จนพรุนไปทั้งคัน โดยภรรยาและลูกสาววัย 5 ขวบ เสียชีวิต ส่วนกำนันกับลูกชายวัย 3 ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


 

          เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ยอมรับว่ามีข้อมูลว่านายทวีศักดิ์ เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและมีฐานะร่ำรวย แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในลักษณะใด อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนและสอบปากคำนายทวีศักดิ์และผู้เกี่ยวข้อง ส่วนปมสังหารจากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นถนนที่มีความลาดชัน รถของผู้เสียหาย ต้องชะลอความเร็ว จึงคาดว่ามือปืนและพวกน่าจะรู้เส้นทางและชำนาญในพื้นที่จึงมาดักซุ่มสังหารในจุดดังกล่าว และจากการข่าวเชื่อว่าผู้ร่วมก่อเหตุ น่าจะมีมากกว่า 2 คน


 

          “จากการสืบสวนสอบสวนขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งทั้งเรื่องยาเสพติด และกรณีที่นายทวีศักดิ์มีตำแหน่งเป็นประธานชมรมม้งแห่งประเทศไทย โดยต้องพิจารณาว่า หากนายทวีศักด์ถูกยิงเสียชีวิตไปจะมีใครได้และเสียประโยชน์บ้าง ส่วนตัวอาจลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อสอบปากคำนายทวีศักดิ์และพยานสำคัญด้วยตัวเอง พร้อมกำชับให้พนักงานสอบสวนทำคดีด้วยความรอบคอบเนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญที่ภรรยาและลูกสาว เสียชีวิต ส่วนนายทวีศักดิ์ และลูกชายอายุ 3 ขวบบาดเจ็บ” รองผบ.ตร. กล่าวและว่า คดีนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติยังเข้าไปกำกับดูแลการสืบสวนสอบสวนด้วย

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.วิรัช สุมนาพันธ์ รองผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.กิตติพงษ์ สุขวัฒนพันธ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงราย เป็นตัวแทนของ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. ได้นำกระเช้าดอกไม้เข้าเยี่ยมนายทวีศักดิ์ ที่รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยภายในห้องพักรักษาตัว พบว่านายทวีศักดิ์อาการยังทรงตัว นอกจากรอยกระสุนที่ถูกยิงเข้าที่แขนแล้วตาทั้งสองข้างต้องเอาผ้าพันแผลปิดเอาไว้เพราะถูกสะเก็ดลูกปืนกระเด็นใส่ ทำให้มองไม่เห็น แต่ยังพอพูดคุยได้


 

          นายทวีศักดิ์กล่าวว่า เป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัวที่จะถูกกลุ่มคนร้ายกลับมาลงมือซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของคนกลุ่มนี้

          พ.ต.อ.วิรัช กล่าวว่า ได้ให้กำลังใจโดยขอให้กำนันทวีศักดิ์รักษาตัวให้สบาย เพราะผบ.ตร. และพล.ต.ต.เฉลิมเกียรติ รองผบ.ตร. สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความปลอดภัยให้ครอบครัวของกำนันทวีศักดิ์อย่างเต็มที่ ซึ่งก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลตลอด 24 ชั่วโมงที่บ้านพัก รวมทั้งที่โรงพยาบาลด้วย ส่วนอาการบาดเจ็บของกำนันทวีศักดิ์และลูกชายก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องประสาทตาของกำนันทวีศักดิ์ จึงต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่

          พ.ต.อ.วิรัช กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องคดีตำรวจจะทำงานให้เต็มที่เพื่อจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว โดยตั้งปมสังหารไว้ 2-3 ประเด็น ทั้งเรื่องธุรกิจและเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะประเด็นที่กำนันเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ให้ความร่วมมือกับรัฐเป็นอย่างดีซึ่งอาจไปขัดแย้งกลุ่มขบวนการบางอย่างที่ทำให้เสียผลประโยชน์ในพื้นที่ก็เป็นได้


 

          “ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนหาหลักฐานที่จะสาวไปสู่กลุ่มผู้กระทำความผิด โดยยังไม่ตัดประเด็นใดออกไปแต่อย่างไร อย่างไรก็ตามล่าสุดอาการของกำนันทวีศักดิ์แม้จะดีขึ้นตามลำดับแต่ยังมีปัญหาเรื่องประสาทตาทั้งสองข้างทำให้ต้องส่งตัวต่อไปรักษากับทีมแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะยังโรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่” พ.ต.อ.วิรัชกล่าว

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ย้ายตัวนายทวีศักดิ์ไปรักษาตัวต่อที่ จ.เชียงใหม่ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันความปลอดภัยอย่างแน่นหนาตลอดเส้นทาง ส่วนบุตรชายอายุ 3 ขวบยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ขณะที่ศพของด.ญ.ธัญญาพร บุตรสาว วันนี้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านพักใน ต.ปอ อ.เวียงแก่น

          สำหรับศพนางไหมเยีย ภรรยานายทวีศักดิ์ เจ้าหน้าที่ยังชันสูตรไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่สามารถรับไปประกอบพิธีทางศาสนาได้

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 และ ภ.จว.เชียงราย รวมทั้งสภ.เวียงแก่น แบ่งทีมกันออกสืบสวนเพื่อหาสาเหตุปมสังหาร ขณะที่พนักงานสอบสวนซึ่ง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. สั่งการให้ตั้งเป็นคณะกรรมการจากตำรวจภูธรภาค 5 เริ่มเรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ผู้เห็นเหตุการณ์และผู้แจ้งเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุจนถึงบุคคลอื่นๆ หลังจากที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรภาค 5 และภ.จว.เชียงราย ได้เก็บหลักฐาน โดยเฉพาะปลอกกระสุนปืนขนาดเอเค-47 หรืออาก้า และลูกซองที่ตกในที่เกิดเหตุจำนวนมากไว้เป็นหลักฐานแล้ว

          พ.ต.อ.ภาสกร ณ พิกุล ผกก.สภ.เวียงแก่น กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของกำนันทวีศักดิ์ไม่พบว่าเคยมีการลงบันทึกประจำวันว่าไปมีเรื่องขัดแย้งกับผู้ใดมาก่อน ดังนั้นจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อน จากนั้นชุดคลี่คลายคดีหลายชุดทั้งจากภาค 5 และพื้นที่ก็จะนำมาประชุมกันในวันที่ 30 เมษายนนี้ เพื่อวางกรอบการทำงานให้มุ่งไปในทิศทางเดียวกันต่อไป

          วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านพักภรรยาของกำนันทวีศักดิ์ ซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุพร้อมลูกสาววัย 5 ขวบ มีชาวบ้านที่เป็นชาวเขาเผ่าม้งไปร่วมงานศพด.ญ.ธัญญาพร เพื่อร่วมอาลัยต่อการเสียชีวิตและให้กำลังต่อครอบครัวนายทวีศักดิ์ที่สูญเสียคนในครอบครัวไปพร้อมกันถึง 2 คน


 

          โดยพิธีศพมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อย ส่วนพิธีเป็นไปตามประเพณีของกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง โดยมีญาติและชาวบ้านที่ไปร่วมไว้อาลัยตลอดทั้งวัน ขณะที่นายจงหรือ ยอดมณีบรรพต อายุ 72 ปี บิดาของกำนันทวีศักดิ์ คอยต้อนรับผู้ไปร่วมงานด้วยความโศกเศร้า ส่วนศพของด.ญ.ธัญญาพร ตั้งไว้ภายในบ้านโดยมีรูปถ่ายขณะสวมใส่ชุดม้งและมีญาติคอยนั่งเฝ้าตลอดทั้งวัน โดยมีกำหนดฝังศพเวลา 12.00 น. วันที่ 27 เมษายนนี้

          นายจงหรือ กล่าวว่า หลังจากรับศพหลานสาวมาก็นำมาจัดการตามประเพณี ส่วนศพลูกสะใภ้ยังคงอยู่ที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ตามความเชื่อของชาวบ้านคือจะไม่นำศพมาทำประเพณีพร้อมกัน 2 คน แต่ให้จัดทีละคน ซึ่งหลังจากพิธีฝังหลานสาวไปแล้วก็จะนำศพลูกสะใภ้มาดำเนินการตามประเพณีต่อไป


 

          นายจงหรือ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าบุตรชายเป็นคนดีไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใครและไม่เคยพูดให้ฟังถึงสิ่งที่อาจจะเป็นสาเหตุของเหตุการณ์แต่อย่างใด โดยก่อนเกิดเหตุตนกับภรรยาก็ไปนอนที่ไร่กาแฟ ห่างจากจุดเกิดเหตุ 3 กิโลเมตร และห่างจากบ้านประมาณ 5 กิโลเมตร นายทวีศักดิ์พร้อมด้วยภรรยาและหลานๆ ได้ซื้ออาหารและเนื้อไปให้ จากนั้นเมื่อถึงช่วงเย็นจึงเดินทางกลับเพราะมีคนโทรศัพท์ไปหาเขาด้วยภาษาม้งถึง 2-3 ครั้ง แต่ได้ยินไม่ถนัดว่าพูดคุยกันเรื่องใด ก่อนจะกลับหลานสาวที่เสียชีวิตยังอยากจะนอนอยู่กับปู่และย่าที่ไร่กาแฟด้วย แต่แม่เขาไม่ยอมจึงพากันเดินทางกลับกระทั่งมาพบเรื่องน่าเศร้าดังกล่าว

          นายมนตรี อนุชิตวรการ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านห้วยหาน กล่าวว่า กำนันทวีศักดิ์เป็นคนดี เป็นตรงไปตรงมา เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านในตำบลปอ โดยเฉพาะหมู่บ้านห้วยหาน กำนันทวีศักดิ์ไม่มีศัตรูที่ไหนหรือมีความขัดแย้งกับใคร จะมีก็แต่เรื่องการเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการค้ายาเสพติดและการห้ามทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งอาจเป็นประเด็นให้บุคคลบางกลุ่มไม่พอใจทำให้ก่อเหตุขึ้นได้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่มี รวมถึงเรื่องการคัดค้านการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติเพื่อกันพื้นที่ทำกินออกจากป่าที่กรมอุทยานกำลังดำเนินการ ซึ่งมีคนบางกลุ่มพยายามเชื่อมโยงว่าเป็นมูลเหตุในการสังหาร โดยเรื่องดังกล่าวยังไม่มีความขัดแย้งถึงขั้นจะเอาชีวิตกัน เพราะการคัดค้านการประกาศเขตอุทยานยังอยู่ระหว่างการสำรวจและไม่ได้มีการขัดแย้ง เป็นมติของชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วย ไม่ได้เป็นการคัดค้านของกำนันหรือกลุ่มผู้นำหมู่บ้านคนใดคนหนึ่ง จึงเป็นไปไม่ได้ อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

          นายสนิท หอมนาน หัวหน้าอุทยานภูชี้ฟ้า ระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การประกาศเขตอุทยานกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจ และเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีความขัดแย้งกับชาวบ้านหรือกำนัน ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่จะมีส่วนเกี่ยวในการกระทำดังกล่าว

          นายบันเทิง เครือวงศ์ ประธานการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดเชียงราย และเป็นผู้ประกอบการรีสอร์ทภายในพื้นที่ภูชี้ฟ้า กล่าวว่า เรื่องอุทยานภูชี้ฟ้าเป็นเรื่องนโยบายของรัฐที่มีการสำรวจเพื่อจำแนกพื้นที่ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อใครคนใดคนหนึ่งและกำนันเองก็ไม่ได้ขัดแย้งถึงขั้นที่จะมีการลงมือสังหารในครั้งนี้ได้

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทวีศักดิ์ถือเป็นกำนันที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ จ.เชียงราย เป็นคนจริงจังในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นข้าราชการ อีกทั้งเป็นแกนนำในการเรียกร้องสิทธิที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยในพื้นที่ให้ราษฎร และส่งเสริมวัฒนธรรมชาวม้ง ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ทั้งภูชี้ดาว ภูชี้เดือน ภูผาหม่น และภูผาตั้ง จนเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นที่ยอมรับของชาวม้งทั่วประเทศ ตลอดจนได้รับเลือกเป็นประธานชมรมเผ่าม้งผู้ร่วมชาติพัฒนาภาคเหนือ โดยดำรงตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านปี 2540-2549 และได้รับเลือกตั้งเป็นกำนันตำบลปอเมื่อปี 2549 ถึงปัจจุบัน