จ่อ 4 ข้อหา! คิวแรก 9 ดาราดัง"รีวิวเมจิกสกิน"

     ความคืบหน้าการดำเนินคดีเครือข่ายบริษัท เมจิกสกิน จำกัด ผลิตเครื่องสำอาง อาหารเสริม หลายยี่ห้อ โดยใช้เครื่องหมายการค้าอาหารและยา(อย.)ปลอม ติดเครื่องหมายการค้าผิดประเภท ผลิตอาหารเสริมไม่ได้คุณภาพเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกกลุ่มดารานักแสดงชื่อดังที่ร่วมรีวิวโฆษณาสินค้าในเครือเมจิกสกินเข้าสอบปากคำแล้ว

      เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ในฐานะรองโฆษก ตร. พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท.3 และเภสัชกรสมชาย ปรีชาทวิกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับบริษัท เมจิกสกิน จำกัด และเครือข่าย ซึ่งศาลได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 8 ราย ส่วนจะมีบุคคลอื่นเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการสืบสวนนั้น

     

     พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า สินค้าดังกล่าวมีศิลปินดารารีวิวสินค้าจำนวนมาก โดยวันนี้ (26เม.ย.) พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกเบื้องต้น 9 ดาราดังที่มีการโฆษณาสินค้าในเครือบริษัท เมจิกสกิน พร้อมเรียกมาสอบปากคำ ได้แก่ 1.อรนภา กฤษฎี หรือม้า รีวิวโฆษณาเฟรินวิตามิน 2.น.ส.อภิญญา สกุลเจริญสุข หรือสายป่าน รีวิวโฆษณาเฟรินคลีโอ 3.น.ส.พิชญ์นาฏ สาขากร หรือเมย์ รีวิวโฆษณาเฟรินคลีโอ 4.น.ส.เจสซี วาร์ด รีวิวโฆษณาเฟรินคลีโอ 5.น.ส.ณปภา ตันตระกูล หรือแพท รีวิวโฆษณาเฟรินวิตามิน 6.น.ส.อรพรรณ ด่านศิริวัฒนกุล หรือออฟฟี่ แม็กซิม รีวิวโฆษณาเฟรินวิตามิน 7.น.ส.รัชวิน วงศ์วิริยะ หรือก้อย รีวิวโฆษณาสลิมมิลค์ 8.น.ส.ศกลรัตน์ วรอุไร หรือโฟร์ รีวิวโฆษณาสลิมมิลค์ และ 9.น.ส.นนทพร ธีระวัฒนสุข หรือหญิงแย้ รีวิวโฆษณาสลิมมิลค์ โดยให้มาพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามในสัปดาห์หน้า 

    ทั้งนี้ การกระทำของดารานักแสดงดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิด ดังนี้ 1.พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 มาตรา 41 วรรคสอง (1) ข้อหาโฆษณาเครื่องสำอางด้วยข้อความที่เป็นเท็จหรือเกินความจริง อันเป็นความผิดตาม มาตรา 84 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 40 ข้อหาโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร อันเป็นเท็จหรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร อันเป็นความผิดตาม มาตรา 70 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 41 ข้อหาโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร เพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอัตราโทษตามมาตรา 71 ปรับไม่เกิน 5,000 บาท และ 3.พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) ข้อหานำเข้าสู่ระบบอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

     “การเรียกเข้ามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐาน แล้วจะพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดที่จะต้องถูกตั้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ซึ่งจะต้องสอบสวนไปถึงพยานอื่นๆ ด้วย ทั้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการใช้ โดยการออกหมายเรียกดาราจะออก 2 ครั้ง หากไม่มาก็จะออกหมายจับ หากมีพยานหลักฐานเพียงพอ ส่วนกรณีที่ดาราอ้างว่าเป็นผู้เสียหายด้วยนั้นจะต้องสอบปากคำก่อน เบื้องต้นทราบว่าดารานักแสดงส่วนใหญ่รับเงินค่าจ้างในการรีวิวสินค้า ซึ่งตำรวจมีวิธีการตรวจพิสูจน์และขอยืนยันว่าจะวิเคราะห์พิจารณาคำให้การอย่างละเอียดถี่ถ้วนทั้งตามข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง หากดารานักแสดงคนใดมีเจตนาอย่างชัดเจนหรือมีพฤติกรรมเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายที่กล่าวมาเบื้องต้นก็จะพิจารณาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดเพื่อเป็นตัวอย่างให้ดาราคนอื่นๆ ว่าก่อนจะรับรีวิวโฆษณาอะไร จะต้องตรวจสอบก่อน และจะต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชน รวมถึงต้องอยู่บนหลักความถูกต้อง ไม่ทำให้เสียหายต่อบุคคลอื่น”

     พล.ต.อ.วิระชัย ระบุด้วยว่า จากการสืบสวนพบว่านักแสดงส่วนใหญ่รับเงินค่าจ้างในการรีวิวสินค้าในจำนวนเลข 6 หลัก อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจพบว่ามีศิลปินดาราเพิ่มเติมอีก 59 ราย ผู้เสียหาย 500 ราย ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ยืนยันว่าการออกหมายเรียกดารานักแสดงหลายคนไม่ได้เป็นการสร้างเครดิตให้ตัวเองโด่งดัง เพราะการดำเนินคดีนี้ไม่ได้มีเฉพาะดาราเท่านั้น และยืนยันว่าหลังจากนี้จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอย่างแน่นอน

     มีรายงานจากชุดสืบสวนแจ้งว่า สำหรับดาราทั้ง 9 คนที่ถูกออกหมายเรียกเข้าให้ปากคำในลอตแรก จะต้องมาพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ตั้งแต่วันที่ 4-7 พฤษภาคมนี้

     ด้าน พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. เปิดเผยว่า ในคดีเมจิกสกินเบื้องต้นได้มีการจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 8 ราย ส่วนจะมีการออกหมายจับอีกหรือไม่ยังไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบปากคำผู้เสียหายยังไม่แล้วเสร็จ เพราะทุกวันนี้ยังคงมีผู้เสียหายทยอยกันเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และคงต้องรอให้การสอบปากคำผู้เสียหายเสร็จสิ้นครบถ้วนก่อน ถึงจะบอกได้ว่ายังมีบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหรือไม่

      นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนกองปราบปรามยังอยู่ในระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์คุณภาพของผลิตภัณฑ์, เอกสารเกี่ยวกับการจดตั้งบริษัท โรงงาน รวมทั้งการตรวจสอบการผลิตและการตรวจสอบด้านอื่นๆ ของบริษัทในเครือเมจิกสกิน ที่ได้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ช่วยตรวจสอบ ซึ่งหากผลตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิดนอกเหนือจากข้อหาร่วมฉ้อโกงประชาชน ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป สำหรับการออกหมายเรียกศิลปินดาราจำนวน 9 คน ที่รับรีวิวผลิตภัณฑ์สินค้าในเครือเมจิกสกิน เมื่อมีคำสั่งลงมาจะรีบดำเนินการในทันที

 

     ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อ น.ส.อภิญญา หรือสายป่าน หนึ่งในดาราดังที่ถูกออกหมายเรียกให้ไปสอบปากคำในลอตแรก โดยผู้จัดการส่วนตัวของดาราสาวเผยว่า “ตอนนี้ยังไม่ได้เห็นหมาย แต่ทราบจากที่มีผู้สื่อข่าวโทรมาแจ้งให้ทราบว่าเจ้าหน้าที่จะเรียกให้ไปสอบปากคำในวันที่ 4 พฤษภาคม ทันทีที่ทราบว่าจะถูกเรียกในวันดังกล่าว ตอนนี้กำลังเคลียร์คิวกองละคร เพื่อไปให้ปากคำตามที่เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือมา แต่ในรายละเอียดขอไปพูดทีเดียวในวันที่ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะไม่อยากจะพูดหลายครั้ง”

     ด้าน น.ส.พิชญ์นาฏ หรือเมย์ เปิดเผยหลังได้ทราบข่าวการถูกออกหมายเรียกว่า ในวันที่ 5 พฤษภาคม ที่เจ้าหน้าที่ได้ขอให้เข้าไปให้ปากคำนั้น ต้องเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น จึงอาจจะขอเลื่อนออกไปให้ปากคำวันหลังหรืออาจจะขอเข้าไปให้ปากคำก่อนวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ทางเจ้าหน้าที่นัด โดยยินดีให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ในเรื่องคดีอย่างเต็มที่

     ส่วนน.ส.ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ หรือเบนซ์หนึ่งในนักแสดงที่รีวิวผลิตภัณฑ์เมจิกสกินกล่าวว่า ได้รับการติดต่อกันมานานแล้วและต้องขอโทษผู้บริโภคทุกๆ คนด้วย แต่ตอนนั้นก็ตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างแล้วว่ามีอย.หรือหลักฐานอื่นๆ ซึ่งในส่วนตัวก็รู้สึกว่าถ้ามีอย.ก็น่าจะโอเค ปลอดภัย แต่พอมารู้ตอนหลังก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

     “เบนซ์ดื่มตอนนั้นเลยก่อนที่เขาจะให้เราไปรีวิวสินค้า เขาก็จะส่งของมาให้เรา เราก็จะเช็กก่อน ลองดูผลิตภัณฑ์สินค้า ดูว่ามีเครื่องหมายอย.ไหม ก็เช็กเรียบร้อยแล้วคิดว่ามันปลอดภัย เพราะในเมื่อมันมีหน้ากล่องอยู่แล้ว เราก็กินเองด้วยเบนซ์ก็รู้สึกแอบกลัวๆ นิดหนึ่ง เพราะไม่ได้กินแค่ครั้งเดียวในกล่องหนึ่งมันมีหลายซองก็กินเรื่อยๆ เลยค่ะ เราก็อยากทดสอบกับตัวเราเบนซ์เองก็ทำผลิตภัณฑ์ แล้วทุกอย่างที่เบนซ์ทำคือเบนซ์ต้องเทสต์กับตัวเองอยู่แล้ว"

     น.ส.ปุณยาพร กล่าวอีกว่าพอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ช็อกเหมือนกันยังคุยกับคุณแม่อยู่เลยว่าไปทำงานมาแล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งคุณแม่บอกไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวไปตรวจร่างกายเอาแล้วกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็แอบกลัวเหมือนกัน หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมาก็ยินดีไม่มีปัญหาอะไรเลยพร้อมให้ความร่วมมือ

     ขณะที่ น.ส.ราศรี บาเล็นซิเอก้า จิราธิวัฒน์ หรือมาร์กี้ ที่ถ่ายภาพคู่กับ นายภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ หรือป๊อก สามี รีวิวสินค้าเครือเมจิกสกิน ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า จริงๆ แล้วไม่ค่อยรับรีวิวสินค้าเท่าไหร่ เวลาที่มีคนติดต่อเข้ามาก็จะตรวจสอบละเอียดเหมือนกัน ให้ส่งเอกสารอย.มาให้ แล้วก็ใช้จริงทุกตัว ก่อนที่จะบอกต่อ ซึ่งตัวที่เป็นข่าวก็เป็นอีกตัวที่มีการตรวจสอบและลองใช้เหมือนเป็นผู้บริโภคคนหนึ่ง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพลาดตรงไหน ก็ต้องขอโทษ ถ้ามีใครที่ได้รับผลเสียจากผลิตภัณฑ์ เพราะเราก็ไม่ทราบจริงๆ ไม่คิดว่าผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในท้องตลาดมาเป็นปี มีโฆษณาในบิลบอร์ด และมีโฆษณาตามทีวีด้วย จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มี อย. 

     ทั้งนี้ ขั้นตอนการติดต่อได้ผ่านคนอื่นมาอีกที เป็นคนที่รู้จักกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ตกใจเหมือนกัน ซึ่งถือเป็นบทเรียนให้เราต้องตรวจสอบและดูแลเองทุกอย่าง แต่อย่างที่บอกว่าเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมาย ในแต่ละวันที่เราใช้ชีวิตก็มีอะไรแปลกๆ มาให้เจอ ให้รู้ว่าโลกไม่ได้อยู่ง่ายๆ เราต้องปรับตัวตามยุค 4.0 ให้ทัน

     “ส่วนของการเตรียมตัวเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน แต่เราก็มีหลักฐานเป็นไลน์ที่มีการพูดคุยกัน ส่วนของพี่ป๊อกไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องเพราะที่โพสต์ลงเป็นไอจีของกี้ ซึ่งเอาจริงๆ ตอนนี้ก็ยังรู้สึกงงไม่หายว่าสินค้าที่วางขายอยู่ในตลาดเป็นปีๆ จะไม่มีอย.ได้ยังไงมากกว่าค่ะ” มาร์กี้ กล่าว

ฉบับ นสพ.คมชัดลึก