หนุ่มซ้อมเมียโดนข้อหาหนัก "พยายามฆ่า"

          จากกรณี นายชัยชนะ หรือเอ็ม ศิริชาติ อายุ 26 ปี ทำร้ายร่างกาย น.ส.เอ(นามสมมุติ) อายุ 21 ปี แฟนสาว พร้อมกับไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ในห้องพักคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. จนแฟนสาวบาดเจ็บสาหัส ก่อนตำรวจจะเข้าเจรจาเกลี้ยกล่อมจนยอมปล่อยตัวออกมา เจ้าหน้าที่รีบนำตัวเหยื่อส่งโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 22 เมษายน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบสารแอมเฟตามีนหรือยาบ้าในร่างกายของนายชัยชนะ ต่อมาช่วงกลางดึก พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. ได้สอบปากคำนายชัยชนะด้วยตนเอง ซึ่งนายชัยชนะยังอยู่ในอาการมึนเมาให้การวกวน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายชัยชนะไว้ 4 ข้อหา ได้แก่ 1.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ 2.กักขังหน่วงเหนี่ยว 3.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทำให้ปรากฏภาพผู้อื่นอันจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหรืออับอาย และ 4.เสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัตินายชัยชนะ ยังเคยต้องโทษในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในท้องที่ สน.บึงกุ่ม เมื่อปี 2548 ด้วย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

          ต่อมาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 เมษายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก สน.บึงกุ่ม ว่าเหตุเมื่อ 22 เมษายน เวลาประมาณ 16.30 น. นายชัยชนะ ศิริชาติ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหา ได้คบหาเป็นแฟนกับผู้เสียหาย และพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่ย่านถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. ต่อมาผู้ต้องหาทราบว่า ผู้เสียหายมีผู้ชายอื่นมาติดพันและทำตัวห่างเหิน จึงใช้กำลังบังคับข่มขู่ไม่ให้ออกมาจากห้องพักที่เกิดเหตุ จากนั้นผู้ต้องหาได้ใช้ไม้กวาด ไดร์เป่าผม ฟาด ทุบ ตี ทำร้ายที่ใบหน้า ศีรษะ และตามร่างกายผู้เสียหายหลายครั้ง โดยในขณะลงมือทำร้ายมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก กระทั่งพี่สาวของผู้เสียหายทราบจากการดูผ่านเฟซบุ๊ก จึงโทรศัพท์เเจ้งผ่านสายด่วน 191 ไปทาง สน.บึงกุ่ม หลังจากรับเเจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บึงกุ่ม ได้รีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับจับกุมตัวผู้ต้องหานำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้เสียหายถูกนำส่งโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี


 

          รองโฆษก ตร. กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียงหรือได้รับความเสียหาย และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

          รองโฆษก ตร. กล่าวว่า คดีนี้เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เป็นการใช้ความรุนแรงต่อเพศตรงข้าม และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้แก่ประชาชน นอกจากจะมีความผิดตามมูลฐานความผิดข้างต้นเเล้ว การนำคลิปที่มีการทำร้ายร่างกายไปเผยแพร่ พร้อมข้อความหยาบคาย เป็นการใส่ความที่น่าจะเกิดความเสียหาย ยังอาจจะมีความผิด ป.อาญา มาตรา 326 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท และเป็นการหมิ่นด้วยการโฆษณาเข้าสู่ระบบโซเชียลมีเดีย มาตรา 328 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          “ในกรณีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งแล้ว ได้เร่งดำเนินการสืบสวนจนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับช่วยเหลือเหยื่อผู้ได้รับบาดเจ็บได้ทันท่วงที เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ในการใช้ช่องทางสายด่วน 191 เเจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าคลี่คลายสถานการณ์ ฝากขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดียช่วยกันเป็นหูเป็นตา และแจ้งข้อมูลข่าวสารให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ” รองโฆษก ตร.กล่าว

          ขณะที่ พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 กล่าวภายหลังสอบปากคำนายชัยชนะเพิ่มเติมว่า พนักงานสอบสวนสอบปากคำนายชัยชนะตลอดทั้งคืน ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรมาก โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายผู้เสียหายด้วยการใช้ไม้กวาด และไดร์เป่าผม ตีที่ใบหน้าและลำตัวของผู้เสียหาย โดยมีมูลเหตุมาจากความหึงหวง ที่ฝ่ายชายเข้าใจว่าฝ่ายหญิงปันใจมีชายอื่น


 

          ส่วนประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่กล่าวหาว่าฝ่ายหญิงแอบโอนหุ้น 40 ล้านของฝ่ายชายนั้น ยังไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ต้องสอบสวนอย่างละเอียดก่อน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาพยานหลักฐานทางคดีเพิ่มเติม

          สำหรับความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของผู้เสียหาย ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สำหรับเฟซบุ๊กส่วนตัวของผู้เสียหาย พบว่าได้ถูกปิดไปแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

          แหล่งข่าวเปิดเผยหลังเข้าไปพูดคุยกับนายชัยชนะว่า ตอนนี้มีสติฟื้นคืนกลับมาแล้ว เบื้องต้นยอมรับรู้สึกเครียด และเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป แต่ยังไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม หลังจากพูดคุยปรับสภาพจิตใจแล้ว จะสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง จนถึงขณะนี้ยังไม่มีญาติมาติดต่อขอเข้าเยี่ยม

          ด้านนายชัยชนะให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าเศร้าและร้องไห้ ยอมรับว่า รู้สึกเสียใจที่ทำร้ายแฟนสาว แต่สาเหตุเกิดจากปัญหาเรื่องการเงิน ค่ารับสมัครสอนเรียนฟอเร็กซ์ (Forex) จำนวน 6 ล้านบาท ที่แฟนสาวเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จึงขอให้คนใกล้ชิดรวบรวมหลักฐานประเด็นนี้ เนื่องจากขณะนี้ตนเองยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก รวมทั้งมีปัญหาที่แฟนสาวนอกใจ ทำให้เกิดความกดดันและคับแค้นใจ จึงพยายามให้แฟนสาวพูดความจริง ทุกครั้งที่ทำร้ายแฟนรู้สึกเจ็บปวดทั้งน้ำตา และอยากจะขอโทษพ่อแม่ของแฟนสาว หากย้อนกลับไปได้จะไม่ทำเช่นนี้ เพราะรักแฟนสาวมาก


 

          นายชัยชนะกล่าวด้วยว่า ยอมรับว่าขณะลงมือทำร้ายแฟนสาวตนเองเสพยาเสพติดจริง และก่อนที่จะกลับเข้าห้องขังไปนายชัยชนะยังได้กล่าวว่า ยังรักแฟนสาวจริงๆ ซึ่งสังเกตได้ว่านายชัยชนะยังมีอาการพูดวกไปวนมาอยู่

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยชนะ เป็นแอดมินเพจโกลบอล เอฟเอ็กซ์ อินเวสต์เมนท์ เปิดสอนฟอเร็กซ์ หรือการเก็งกำไรในค่าเงินโดยการซื้อขาย ในราคาคอร์สละประมาณ 15,000 บาท แต่เมื่อเรียกเก็บเงินไปแล้ว กลับไม่มีการสอนแต่อย่างใด ทำให้มีผู้เสียหายหลายรายเตรียมจะรวมตัวกันแจ้งความดำเนินคดี


 

          ต่อมาเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ เดินทางไปยังโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เพื่อเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของ น.ส.เอ

          พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวก่อนที่จะเข้าเยี่ยม ว่า น.ส.เอ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า และนิ้วก้อยหัก เท่ากับว่าอาการบาดเจ็บสาหัส จึงต้องแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายสาหัส เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายมาตรา 297 มีโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 10 ปี ส่วนข้อหาที่แจ้งไปแล้ว หน่วงเหนี่ยวกักขัง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และยาเสพติด


 

          พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมน.ส.เอ ว่า ผู้บาดเจ็บเล่าให้ฟังว่า คบหากับนายชัยชนะมาประมาณ 8 เดือน และถูกทำร้ายมาแล้วถึง 6 ครั้ง โดยขณะที่นายชัยชนะลงมือทำร้ายร่างกาย นายชัยชนะจะไม่รู้สึกตัว และมักอ้างตัวว่าเป็นโจ๊กเกอร์ ที่มีพฤติการณ์โหดร้าย และมักทำร้ายในรูปแบบต่างๆ ล่าสุดขณะก่อเหตุ มีการนำมีดมาเฉือนคอผู้บาดเจ็บด้วย ดังนั้น จึงเตรียมแจ้งข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเพิ่ม

          “ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก กระทำแบบนี้มาแล้ว 6 ครั้งต่อเนื่อง รุนแรงแบบนี้ 1 ครั้ง ตั้งแต่ก่อนเดือนเมษายน บาดแผลอยู่ในร่างกายครบ ตั้งแต่ใช้เครื่องรีดผมจี้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ใช้มีดปาดคอที่จะให้ถึงแก่ความตายเมื่อคืน แต่ไม่เข้า ซึ่งคือเจตนาฆ่า และใช้ขาตั้งกล้องฟาดตามลำตัว ซึ่งบาดแผลยังอยู่ ซึ่งจะได้ให้แพทย์วิเคราะห์ว่าบาดแผลต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร” พล.ต.อ.วิระชัยกล่าว

          พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่นายชัยชนะมีอาการคลั่งและทำร้ายร่างกาย มาจากการเป็นโรคหวาดระแวงจากการมโนภาพว่าแฟนไปคบคนนั้นคนนี้ ซึ่งฝ่ายหญิงไม่ได้เป็นแบบนั้น ไม่ได้มีคนอื่น จากนั้นก็จะทรมานแฟนด้วยวิธีต่างๆ แฟนสาวก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อบอกว่าไม่จริง ก็ถูกทรมานหนักเข้า ตอนนี้อาวุธมีดที่ใช้ปาดคอก็ยังอยู่ในห้องที่เกิดเหตุ และใช้สายไฟลอกเปลือก ด้านหนึ่งเชื่อมต่อไฟแล้วมาจี้ตามร่างกาย


 

          พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวด้วยว่า สำหรับอาการล่าสุด พูดได้ รู้สึกตัวดี แต่บาดแผลตามร่างกายเต็มไปหมด ทั้งศีรษะและหน้า เมื่อคืนผู้ต้องหาเจตนาที่จะเอาลูกตาทั้ง 2 ข้างของแฟนสาวออกมา แต่เอาไม่ออก เลยทำให้ตอนนี้เบ้าตาเขียวปิด และใช้มีดตีเข้าที่ตา ทำให้มีแผลที่เปลือกตา และรอยมีดจิ้มที่หน้าผาก ส่วนแผลเป็นที่หลัง ลักษณะเป็นการโดนหวดด้วยสายไฟหลายครั้ง ส่วนสภาพจิตใจยังต้องบำบัดทางจิตอีกเยอะ

          ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา พบว่าเคยมีประวัติในการกระทำผิดเกี่ยวกับการโจรกรรมทรัพย์สินโดยทำลายสิ่งกีดกั้นในเคหสถาน เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2548 ในพื้นที่ สน.บึงกุ่ม ส่วนเรื่องของการใช้สารเสพติดจากการสอบปากคำผู้ต้องหา ยังไม่แน่ใจว่าใช้มานานหรือยังเพราะยังพูดจาไม่รู้เรื่อง ให้การวกวนเนื่องจากสารเสพติด ทำให้มีความคิดว่าแฟนสาวจะไม่รัก

          พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวถึงประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นการโอนหุ้น 40 ล้านบาท ว่า เรื่องนี้จะต้องมีการสอบถามทั้งฝ่ายของผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ต้องหาว่ามีประเด็นนี้หรือไม่ เพราะเป็นประเด็นข้อสงสัยของสังคมที่โจมตีผู้เสียหาย

          นพ.สมบูรณ์ ทศบวร ผอ.รพ.นพรัตนราชธานี กล่าวว่า แพทย์ได้ตรวจอาการของ น.ส.เอ พบว่า ใบหน้าบวม ตาบวม คอมีรอยถูกของมีคมบาด จมูกหัก แขนขวาหัก นิ้วก้อยซ้ายหัก มีรอยฟกช้ำ และรอยไหม้ตามร่างกาย มีทั้งรอยแผลใหม่ และรอยแผลเก่า คาดว่าเมื่อวานนี้(22 เม.ย.)ถูกทำร้ายประมาณ 8-10 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังคงต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัวอีกระยะ ทั้งนี้ ผู้ป่วยพูดคุยได้ตามปกติ


 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.ต.อ.วิระชัย เยี่ยม น.ส.เอ เสร็จสิ้นแล้ว ได้เดินทางไปตรวจสอบคอนโดมิเนียม ย่านนวมินทร์ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุเพิ่มเติม

          พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า จากการตรวจที่เกิดเหตุ พบอุปกรณ์ที่นายชัยชนะทำร้ายร่างกายแฟนสาวหลายชิ้น มีคราบเลือดติดอยู่ ได้แก่ มีด 2 เล่ม เตารีด สายไฟที่ใช้ช็อตแฟนสาว ด้ามไม้ถูพื้นสภาพหัก 2 ท่อน เครื่องม้วนผมที่คาดว่าใช้นาบทรมานตามร่างกาย บริเวณพื้นและผนังห้องมีคราบเลือดกระเซ็นไปทั่วห้องพัก นอกจากนี้ยังพบจดหมายที่เขียนระบายความรู้สึกของทั้งคู่ติดอยู่ที่บอร์ดบนผนังห้อง ซึ่งข้อความเป็นไปในเชิงตัดพ้อ


 

          ทั้งนี้ จากการตรวจค้นภายในห้องพักยังไม่พบยาเสพติดและอุปกรณ์สำหรับเสพยาเสพติดแต่อย่างใด


 

          ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวภายหลังเข้าสอบปากคำนายชัยชนะ ว่าจากการพูดคุยล่าสุดกับนายชัยชนะหลังจากเริ่มส่างจากการเสพยาบ้าแล้ว นายชัยชนะบอกว่าคบหาดูใจกับน.ส.เอมาเป็นเวลา 8 เดือน ซื้อคอนโดอยู่ด้วยกัน อารมณ์หึงหวงมีบ้างเป็นที่มาของจดหมายที่พบในคอนโดที่ผู้หญิงเป็นคนเขียน หลังจากฝ่ายชายให้ฝ่ายหญิงออกไปจากคอนโดซึ่งอ้างว่าเป็นการลองใจ คอนโดที่อยู่ด้วยกันฝ่ายชายเป็นผู้ซื้อด้วยเงินสด แต่สุดท้ายฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ออก และตกลงกันว่าจะเริ่มต้นกันใหม่อย่างจริงจังและลืมเรื่องในอดีต


 

          พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า ฝ่ายชายกลับไปเสพยาบ้าอีกครั้งเมื่อช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้คลุ้มคลั่ง และนายชัยชนะบอกอีกว่าสิ่งที่ทำไปทั้งหมดต้องการทำให้ฝ่ายหญิงรักเขาเพียงคนเดียว มีดที่ใช้ปาดคอผู้หญิง ฝ่ายชายก็บอกว่ารู้อยู่แล้วมีดไม่คมทำไปเพื่อขู่เท่านั้น และยังบอกว่าถ้าเขาจะฆ่าฆ่าไปตั้งนานแล้ว ซึ่งเป็นคำพูดของฝ่ายที่พนักงานสอบสวนต้องสอบปากคำอีกครั้งและจะเชื่อหรือไม่เป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตามนายชัยชนะยังยืนยันว่ายังรักฝ่ายหญิงเหมือนเดิมพร้อมจะกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม และเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านได้ไปเยี่ยมฝ่ายหญิง ซึ่งฝ่ายหญิงก็แสดงความเป็นห่วงฝ่ายชายเมื่อรู้ว่ากำลังจะถูกดำเนินคดี ถามว่ามีใครมาดูแลผู้ชายหรือไม่ มีใครมาเยี่ยมเอ็มหรือไม่ และยังบอกว่ายังรักเอ็ม