ข่าว

ระทึก!! เพลิงพิโรธเผาบ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไฟไหม้บ้านสองชั้นในซอยนวลจันทร์ 30 วอด ก่อนเกิดเหตุเจ้าของบ้านได้ยินเสียงหม้อแปลงระเบิด วิ่งมาดูพบเพลิงลุกไหม้ โชคดีไม่ลุกลามไปยังบ้านญาติที่อยู่ติดกันหลายหลัง

 

               เกิดเหตุไฟไหม้บ้านสองชั้นย่านนวลจันทร์ เจ้าของบ้านเผยเป็นบ้านมรดกพ่อแม่ ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงหม้อแปลงระเบิดก่อนลุกไหม้ชั้น 2 โชคดีไร้ผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

 

 

               เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 23 เม.ย.2561 ร.ต.อ.ฟ้าคำรณ หรืหร่อง รอง สว.(สอบสวน) สน.โคกคราม ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ บ้านเลขที่ 71/1 ซอยนวลจันทร์ 60 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบ   และเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงบางชัน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู หน่วยอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย และรถน้ำจำนวน 3 คัน

 

 

ระทึก!! เพลิงพิโรธเผาบ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง

 

 

               ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 30 ตารางวา ปลูกอยู่ในเนื้อที่ 1 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด  โดยเพลิงได้ลุกไหม้บริเวณชั้น 2 เจ้าหน้าที่จึงเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงอย่างเร่งด่วน เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงกันมีบ้านญาติพี่น้องปลูกติดกัน 4 หลัง เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะลุกลามเสียหายไปด้วย โดยใช้เวลานานประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่า เพลิงได้ลุกไหม้ชั้น 2 เสียหายทั้งหมด แต่ไม่ลุกลามติดบ้านข้างเคียง  และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้

 

 

               จากการสอบสวนนายธีระ ชมชื่น อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน ให้การว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นมรดกของบิดา และอยู่มาหลายสิบปีแล้ว ปัจจุบันมีตนกับภรรยาและลูกสาว อาศัยอยู่เพียงสามคน ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในตัวบ้าน ตนเองได้มานั่งทำงานที่บ้านญาติอีกหลัง ซึ่งเปิดเป็นออฟฟิศ จากนั้นก็ได้ยินเสียงคล้ายหม้อแปลงไฟระเบิด จึงวิ่งออกมาตรวจสอบ ก็พบว่ามีกลุ่มควันเต็มบ้านไปหมด และเกิดไฟลุกไหม้ที่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน เมื่อเห็นดังนั้น จึงได้รีบช่วยกันดับไฟ แต่ก็ไม่เป็นผล

 

 

ระทึก!! เพลิงพิโรธเผาบ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง

 

 

               จากการสอบสวนเบื้องต้น คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากในช่วงเวลาเกิดเหตุมีอากาศร้อนจัด และได้มีการเสียบปลั๊กไฟทิ้งไว้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะต้องสอบสวนเจ้าของบ้านเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ