ข่าว

สั่งเข้ม!หวั่นกระทบภาพลักษณ์-หลังทลายสวิงกิ้งจับต่างชาติอื้อ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผบ.ตร.สั่งเข้ม! หวั่นกระทบภาพลักษณ์ประเทศ หลังจนท.หลายฝ่ายในเมืองพัทยาบุกทลายปาร์ตี้สวิงกิ้งในโรงแรมดัง รวบชายหญิง 14 คู่หลายสัญชาติ

     เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายสนธิกำลังเข้าทลายปาร์ตี้สวิงกิ้งในโรงแรมดังในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี จับกุมชายหญิง 28 คนมีหลากหลายสัญชาติ เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ว่ามีผู้มาร้องเรียนการจัดปาร์ตี้ในเขตเมืองพัทยา โดยลักลอบสวิงกิ้งมีเซ็กส์หมู่และเปิดเว็บไซต์ในต่างประเทศ เชิญชวนคู่ชายหญิงมาร่วมกิจกรรมทางเพศโดยต้องสมัครและชำระเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าวดังกล่าว จนกระทั่งสนธิกำลังเข้าตรวจสอบโรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบชายหญิงต่างชาติและมีชาวไทยรวมทั้งหมด 28 คน กำลังจัดงานปาร์ตี้เซ็กส์หมู่ภายในอาคารของโรงแรมดังกล่าว จึงร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย

     ทั้งนี้ นอกจากดำเนินคดีกับนายเซิ่ง ไฉหยาง สัญชาติจีน เป็นผู้แทนนิติบุคคลของ บริษัท จือเซิ่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะเจ้าของโรงแรม รวมทั้งหญิงสาวพนักงานโรงแรมที่เป็นคนไทยอีก 3 คน ในข้อหาเป็นผู้สนับสนุน เพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป เพื่อการอนาจารชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ ยังตรวจพบว่า น.ส.ชาลิต้า ศรีสุข อายุ 52 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ นักท่องเที่ยวในกลุ่มดังกล่าวถือหนังสือเดินทางหมดอายุ อยู่เกินกำหนดอนุญาตจำนวน 84 วัน จึงจับกุมในความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดอีกคดีหนึ่ง

สั่งเข้ม!หวั่นกระทบภาพลักษณ์-หลังทลายสวิงกิ้งจับต่างชาติอื้อ

     พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า คดีนี้ผู้ต้องหามีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกระทำผิด ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งดูดายหลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนแล้วได้มีการสืบสวนสอบสวนหาข่าวในทันทีจนสามารถจับกุมตัวได้ทั้งหมด นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เน้นย้ำนโยบายการป้องกันอาชญากรรมอย่างสม่ำเสมอ เน้นหนักด้านอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับบุคคลต่างด้าว กวาดล้างคนต่างด้าวกระทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องและจริงจัง โดยเฉพาะผู้หลบหนีเข้าเมือง บุคคลต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต หรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือโอเวอร์สเตย์ ที่เข้ามากระทำความผิดในประเทศไทยอย่างเคร่งครัด

     ที่ผ่านมาดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล กวดขันจับกุมความผิดในลักษณะดังกล่าวมาโดยตลอด โดยเฉพาะเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ พร้อมกับตรวจสอบสถานบริการไม่ให้ลักลอบค้าประเวณี หากมีการกระทำความผิดให้จับกุมได้ทุกคดีเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน ทั้งนี้ได้กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันและตรวจสอบบุคคลต่างด้าวในพื้นที่ โดยให้ทำงานเชิงรุกมีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรมให้ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด

     ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.วันที่ 21 เมษายน นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับร้องเรียนว่า ที่โรงแรมชื่อดัง ย่านเขาพระตำหนักพัทยาใต้ หมู่10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีการลักลอบจัดปาร์ตี้เซ็กส์หมู่ประจำวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงได้ประสาน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา พ.ต.ไพจิตร เจริญพงษ์ ผบ.ร้อย.รส.มทบ.14 สนธิกำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และทหาร ร่วมกันลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนแน่ชัดว่ามีการจัดปาร์ตี้ขึ้นจริงจึงได้วางแผนปิดล้อมตรวจค้น

สั่งเข้ม!หวั่นกระทบภาพลักษณ์-หลังทลายสวิงกิ้งจับต่างชาติอื้อ

     จากการบุกเข้าตรวจสอบพบว่าสถานที่ดังกล่าวเปิดเป็นโรงแรม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยา สูง 4 ชั้น มีห้องพักกว่า 30 ห้อง บนเนื้อที่กว่า 1 ไร่เศษ โดยชั้นล่างถูกแบ่งออกเป็น 3 โซน ประกอบด้วย โซนสระว่ายน้ำ โซนเคาน์เตอร์บาร์ และที่ต้องตกใจไปกว่านั้น คือโซนสุดท้ายถูกจัดเป็นห้องจัดปาร์ตี้เซ็กส์หมู่ หรือเรียกกันว่าห้อง “เพลย์” โดยพบคู่รักชายหญิงหลายสัญชาติ เช่น อเมริกา แคนาดา จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เยอรมัน ไทย กัมพูชา อินเดีย และยูเครน จำนวนหลายคู่ แยกเป็นชาย 14 คน หญิง 14 คน รวมเป็น 28 คน กำลังเปลือยกายล่อนจ้อนมีกิจกรรมทางเพศกันสนุกสนานก่อนเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด

     ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังตรวจค้นตามจุดต่างๆ พบพนักงานโรงแรมรวม 3 คน และพบถุงยางอนามัย เจลหล่อลื่น ยาปลุกเซ็กส์ อุปกรณ์เซ็กส์ทอยช่วยกระตุ้นทางเพศ และถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะจำนวนมาก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่ตรวจสอบห้องพักด้านบนพบว่าเป็นห้องพักของผู้เข้าร่วมกิจกรรมเกือบทั้งหมด โดยภายในห้องหมายเลข 402 เจ้าหน้าที่พบ นายเซิ่ง ไฉหยาง อายุ 53 ปี สัญชาติจีน แสดงตัวเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมแห่งนี้

     นายนริศ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่าสถานที่ดังกล่าวมีการลักลอบจัดปาร์ตี้เซ็กส์สำหรับผู้ที่ชอบแนวเซ็กส์หมู่ และแลกเปลี่ยนคู่นอน รวมถึงแนวสวิงกิ้ง โดยประกาศผ่านเว็บไซต์ สำหรับขั้นตอนการเข้าร่วมกิจกรรมนั้นผู้เข้าร่วมจะต้องสมัครสมาชิกผ่านเว็บไซต์ และมีกติกาว่าผู้เข้าร่วมปาร์ตี้จะต้องเป็นคู่รักชายหญิง โดยมีค่าใช้จ่ายคืนละ 1,500 บาทต่อ 1 คน ภายหลังรับเรื่องจึงประสานหลายหน่วยงานลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวก่อนเข้าจับกุมดังกล่าว

     เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหานายเซิ่ง ไฉหยาง เจ้าของกิจการโรงแรม คือ1.ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 2.เพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ส่วนพนักงานโรงแรมถูกแจ้งข้อกล่าวหา 1.เป็นผู้สนับสนุนเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

ฉบับ นสพ.คมชัดลึก

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ