ข่าว

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" สั่งตั้งกก.สอบนักโทษตายคาเรือนจำ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" ร่วมสวดพระอภิธรรมศพผู้ต้องขังที่ถูกทำร้ายในเรือนจำจนเสียชีวิต ชี้หลังเกิดเหตุสั่งย้ายด่วน ผบ.เรือนจำกลางสมุทรปราการ-จนท. 4 ราย เปิดทางสอบสวน

 

             จากกรณีเพจดัง "แหม่มโพธิ์ดำ" ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งระบุว่า แฟนหนุ่มได้เสียชีวิตในเรือนจำกลางสมุทรปราการ ทั้ง ๆ ที่ใกล้จะพ้นโทษแล้ว โดยทางเรือนจำได้แจ้งว่า การเสียชีวิตดังกล่าวไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่พบว่าสภาพศพมีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายจนเขียวช้ำไปทั้งตัว โดยผู้คุมได้แจ้งว่าโดนซ่อมทั้งหมด 18 คน แต่มีเพียงคนเดียวที่เสียชีวิต ซึ่งผลการชันสูตรเบื้องต้นจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ แจ้งว่า ขาดอากาศหายใจเนื่องจากสำลักอาหาร และมีบาดแผลตามร่างกายจำนวนมาก เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น

 

 

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" สั่งตั้งกก.สอบนักโทษตายคาเรือนจำ

 

 

 

             ล่าสุดเมื่อเวลา 19.30 น. วันนี้ 20 เม.ย.2561 ที่ศาลา 3 วัดทุ่งครุ ซอยประชาอุทิศ 84 แขวงและเขตทุ่งครุ กทม. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เดินทางมาร่วมพิธีฟังพระสวดพระอภิธรรมศพผู้ต้องขังรายดังกล่าว โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทั้งนี้ทางกรมราชทัณฑ์ได้นำพวงหรีดและเงินจำนวนหนึ่งมามอบให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตอีกด้วย

 

 

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" สั่งตั้งกก.สอบนักโทษตายคาเรือนจำ

 

 

             ภายหลังพิธีทาง พ.ต.อ.ณรัชต์ ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวว่า ขณะนี้ทางกรมราชทัณฑ์ได้มีการดำเนินการอยู่ด้วยกัน 3 ส่วน ส่วนแรกได้ใช้อำนาจในเชิงปกครอง ย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการ ซึ่งถือว่าเป็นผู้รับผิดชอบสถานที่เกิดเหตุ ให้ย้ายมารักษาราชการประจำกรม ในขณะที่มีผู้ตรวจราชการ นอกจากนี้ยังย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีก 4 นาย ให้ย้ายไปเรือนจำพิเศษธนบุรี 2 นาย และเรือนจำกลางจังหวัดฉะเชิงเทรา อีก 2 นาย เพื่อเปิดโอกาสให้ขั้นตอนที่ 2

 

 

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" สั่งตั้งกก.สอบนักโทษตายคาเรือนจำ

 

 

             ส่วนขั้นตอนที่ 2 นั้นคือการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยคณะกรรมการของกรมราชทัณฑ์ เพื่อให้เป็นอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ซึ่งจะไม่มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้อยู่เพื่อขัดขวางหรือบิดเบือนข้อเท็จจริงแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อทางคณะกรรมการลงพื้นที่ตรวจสอบจนชัดเจนแล้วนั้นจะแจ้งว่ามีการกระทำความผิดหรือไม่ หากพบว่ามีมูลผิดวินัยร้ายแรง หรือเป็นวินัยไม่ร้ายแรง ทางกรมก็จะต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัยขึ้นมาตรวจสอบอีกทาง ซึ่งโทษสูงสุดของการผิดวินัยร้ายแรงก็คือการ ไล่ออก หรือ ปลดออก

 

 

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" สั่งตั้งกก.สอบนักโทษตายคาเรือนจำ

 

 

             ส่วนขั้นตอนที่ 3 นั้นคือขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน เนื่องจากมีการเสียชีวิตในขณะอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งถือว่าเป็นวิสามัญฆาตรกรรม ถือเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการทำสำนวนชัญสูตรพลิกศพ และมีความเห็นว่า ผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหน ตายเมื่อไหร่ ตายอย่างไร มีผู้ใดทำให้ตายหรือไม่ หากเป็นคดีอาญาก็ต้องทำตามขั้นตอนกฎหมาย

 

 

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" สั่งตั้งกก.สอบนักโทษตายคาเรือนจำ

 

 

 

             ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า จากรายงานเบื้องต้นที่ได้รับเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างไร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ได้ทราบจากการรายงานว่า ผู้ตาย น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือต้องสงสัยว่ามีส่วนในการรับยาเสพติดที่มีการลักลอบส่งเข้ามาในเรือนจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 นายที่ถูกย้ายไป โดยปกติเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง เอาจริงเอาจัง การที่ปล่อยให้ยาเสพติดเข้ามาในเรือนจำถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ซึ่งเราไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้เข้ามาได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางกรมราชทัณฑ์เราได้มีการล้างคุกจัดระเบียบอย่างสม่ำเสมอ จนขณะนี้ไม่มีแล้ว ซึ่งเมื่อมียาเสพติดหลุดรอดเข้ามา ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการสอบสวนขยายผล ลงโทษทางวินัย เราจึงต้องไปดูในรายละเอียดว่าเกินเลยหรือไม่ ต่อกฎระเบียบข้อบังคับ ก็ต้องมีผู้รับผิด

 

 

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" สั่งตั้งกก.สอบนักโทษตายคาเรือนจำ

 

 

             พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวอีกว่า สำหรับบทลงโทษ หากผิดวินัยร้ายแรงก็ต้องมีการปลดออก ไล่ออก แต่หากไม่ร้ายแรง ก็ต้องภาคทัณฑ์ ว่ากล่าวตักเตือน ตัดเงินเดือน หรือให้เข้าเวรยาม แต่กรณีนี้ น่าจะเป็นเรื่องร้ายแรง แต่ทั้งนี้ทางกรมราชทัณฑ์ต้องขอเรียนยืนยันก่อนว่าการซ้อมทรมาน หรือการกระทำละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้น ถือว่าเป็นการขัดนโยบาย ซึ่งนักโทษในเรือนจำเค้าได้รับโทษแล้วด้วยการพรากจากอิสระภาพ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะต้องกระทำการด้วยการทารุณโหดร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเป็นคนที่ช่วยแก้ไข ช่วยให้กำลังใจให้นักโทษกลับตัวเป็นคนดีในสังคม ซึ่งตนขอยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

 

 

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" สั่งตั้งกก.สอบนักโทษตายคาเรือนจำ

 

 

             "ส่วนกรณีหากมีนักโทษลักลอบขนยาเสพติดเข้าเรือนจำทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีแจ้งให้ทางตำรวจดำเนินคดี หากมีความชัดเจนเพียงพอ หรือใช้ระเบียบกฎข้อบังคับทางปกครอง และทางวินัย เช่น งดให้เยี่ยมญาติ ลดชั้น งดให้ประโยชน์ในการลดวันต้องโทษ ไม่ให้พักการลงโทษ เป็นต้น ซึ่งสังคมได้ตั้งคำถามความรุนแรงในการลงโทษเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น ส่วนตัวผมในฐานะอธิบดีกรมราชทัณฑ์ต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต วันนี้ก็ได้มาร่วมงานศพ และได้มอบเงินทำบุญไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เป็นการนำเงินจำนวนนี้มาปิดปากแต่อย่างใด แต่เป็นการแสดงความเสียใจจริงๆ ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์เองไม่ได้มีเจตนาทำร้ายผู้ต้องขัง มันพ้นยุคสมัยนั้นแล้ว เราควบคุมด้วยใจ แก้ไขด้วยเมตตรา ให้ผู้ต้องขังกลับมาเป็นพลเมืองดีในสังคมอีกครั้ง ซึ่งนักโทษในเรือนจำส่วนใหญ่ 70 เปอร์เซ็นเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ไม่มีนิสัยโทษร้าย แต่ก็มีเพียงบางส่วนที่ทางครอบครัวไม่พร้อม ฐานะยากจน ไม่มีการศึกษา ไม่มีอาชีพ เป็นผู้ด้อยโอกาสก็มีเหมือนกัน ทั้งนี้ขั้นตอนการตรวจสอบเรื่องนี้จะต้องเร็วที่สุด พรุ่งนี้ต้องมีการรายงานผมด้วยวาจาก่อน หลังจากนั้นอีก 7 วันก็จะสามารถสรุปผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง" อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุ

 

 

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" สั่งตั้งกก.สอบนักโทษตายคาเรือนจำ

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ