ข่าว

ผู้กำกับร้อยเอ็ด ไม่หนักใจ ถูกโจมตีปล่อยสถานบริการผิดกฎหมาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ร้อยเอ็ด - ผู้กำกับสภ. เมืองร้อยเอ็ด เผย ไม่หนักใจ กรณีคลิปโจมตี ปล่อยปละละเลย สถานบริการผิดกฎหมาย ยืนยันทุกอย่างดูแลอยู่ในกรอบของความถูกต้อง ทุกด้าน

             จากกรณีเกิดกระแสการโจมตีทางโซเชียล กล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระดับสูงทั้ง 2 ระดับ คือผู้บังคับการ และผู้กำกับ เมืองร้อยเอ็ด ปล่อยปละละเลย สถานบริการเปิดเกินเวลา ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ให้เด็กเข้าใช้บริการ และโจมตี ในหลายๆด้าน ว่าทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ทำผิดกฎหมายมาโดยตลอด โดยผู้รักษากฎหมายไม่ใส่ใจในการควบคุมดูแล ตามที่มีการเผยแพร่นั้น           

            ทางด้าน พันตำรวจเอก วีระวัฒน์ สระบัว ผู้กำกับการเมืองร้อยเอ็ด ที่ถูกพาดพิง กล่าวว่า ไม่ตกใจกับกระแสการโจมตี เพราะมั่นใจ ว่าทุกอย่างเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย และควบคุมให้สถานบริการ ปฏิบัติตามระเบียบ ทำเว็บขออนุญาตมาโดยตลอด โดยยืนยันว่า มีการตรวจสอบ สถานบริการ ชื่อบุชเชอร์ ให้เปิดบริการและกรอบ การควบคุมของส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ไม่เปิดเกินเวลา ไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าใช้บริการ ไม่ให้เกี่ยวข้อง จับยาเสพติด และตรวจ สอบเฝ้าระวัง การพกพาอาวุธ เข้าไปในสถานประการโดยเด็ดขาด 
            "ยืนยันว่า ไม่ได้ปล่อยปละละเลย หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการมีรายได้ จากสถานบริการดังกล่าว ตามที่มีการกล่าวหา แต่ก็จะไม่ตอบโต้ เพราะมั่นใจว่า ทุกอย่างทำด้วยความถูกต้องมีการรายงานข้อเท็จจริง ให้กับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ทราบรายละเอียด และให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้ได้ข้อสรุป ตามกำหนด ให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน เพื่อหาข้อสรุปต่อไปแล้ว "   
               ส่วนกรณีที่มีการกล่าวถึงการก่อเหตุทะเลาะวิวาท มีการยิงปืนพกพาอาวุธปืนนั้น ยืนยันว่าไม่ได้ปล่อยปละละเลย ในช่วงคาบเกี่ยวในคืนเกิดเหตุวันที่ 14 เมษายน หลังเกิดเหตุแล้วในช่วงเช้า ผู้ก่อเหตุ ยิงปืน ก็ได้มาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวน มีการสอบสวน ดำเนินคดี 2 ข้อหา คือพกพาอาวุธปืน ไปในที่สาธารณะ โดยไม่รับอนุญาติส่วนการยิงปืน ในที่สาธารณะ ขณะก่อเหตุทะเลาะวิวาทที่หน้าบุชเชอร์ ในเบื้องต้น ได้ตั้งข้อหาพยายามฆ่า ไว้เป็นเบื้องต้นแล้วก่อนที่จะมีการ ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวไป เพื่อรอการสรุปสำนวนการสอบสวนต่อไป 

             ส่วนสาเหตุ ตนดูจากการสอบสวนข้อเท็จจริง คืนดังกล่าว เกิดจาก ผู้รับเหมา รายหนึ่ง จากจ.ศรีสะเกษ กับเพื่อนผู้หญิง หลายคนที่มาเที่ยว บุชเชอร์ มีปัญหาทะเลาะวิวาท กลับมือปืน แล้วกลับออกมาก่อเหตุ ทะเลาะวิวาท ริมถนนหน้าบุชเชอร์นั้น ทราบว่า ในฝ่ายของ ผู้รับเหมาก็มีอาวุธปืนในรถด้วยนั้น มีการยึดปืนไว้ก็จะเรียกตัวมา สอบสวนดำเนินคดีเช่นกัน 
ซึ่งในระหว่างนี้อยู่ในช่วงของการตรวจสอบ ประสานไปยังศรีสะเกษ เรื่องใบอนุญาต การครอบครองปืนที่ยึดไว้ ว่า มีใบอนุญาตถูกต้อง ตามกฎหมายหรือไม่ก่อน จากนั้นจึงจะเรียกตัวมาสอบสวนปากคำ ในข้อหา ก่อเหตุทะเลาะวิวาท มีอาวุธปืน และพกพา อาวุธปืนไปในที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อไป

             "ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ใครผิดถูก จะต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง ของสำนวนการสอบสวน เพื่อที่จะสรุปเสนอให้ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ต่อไปด้วย " พันตำรวจเอก วีระวัฒน์ สระบัว  กล่าว
             พันตำรวจเอก วีระวัฒน์  กล่าวอีกว่า สถานบริการ ในลักษณะนี้ มี 3 แห่ง ที่มีใบอนุญาตปิด ตี 2 มีอยู่ 3 แห่งด้วยกัน คือ บุชเชอร์ ที่เกิดเหตุ นอกจากนั้นก็มี สถานบริการชื่อโดรน ซึ่งตั้งอยู่ติดกันกับบุชเชอร์ และแห่งที่ 3 คือไหมไทยผับ ที่มี ใบอนุญาต ปิดการให้บริการ ในเวลาตี 2 อยู่แล้ว ซึ่งยืนยันว่า ทุกแห่ง อยู่ภายใต้การควบคุม ให้ปิดตามเวลาและเป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่หลังจากปิดการให้บริการแล้ว อาจจะมีความล่าช้าในการเคลียร์คน เคลียร์สถานที่ ที่อาจจะมีเวลาเลื่อนไหลไปบ้าง แต่ก็ยืนยันว่า เมื่อถึงตี 2  ต้องหยุดทุกอย่าง ดนตรีต้องเลิก และเปิดไฟ โดยเด็ดขาด ซึ่งไม่มีการปล่อยปละละเลยแต่อย่างใด 
               ส่วนกรณี มีการโพสต์ โจมตี การทำงานของตำรวจ ว่ามีเอี่ยว ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นั้น  ผู้กำกับ สภ.เมืองร้อยเอ็ด กล่าวว่า ความจริงน่าจะเป็นเพราะสาเหตุอื่น ที่เป็นความขัดแย้งทางธุรกิจ ที่ไม่เข้าใจกัน มาใช้เป็นเงื่อนไขกล่าวโจมตี การทำงานของตำรวจ ซึ่งตนก็ไม่ติดใจอะไร เพราะทุกอย่าง เป็นไปตามความถูกต้อง และมีการรายงานข้อเท็จจริง ให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ และให้เข้าใจ ให้เขาได้ยินทั้งหมดแล้ว ถึงไม่หนักใจอะไรแล้วก็จะไม่ตอบโต้ แต่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้เป็นไปตามกรอบ ของกฎหมายต่อไป 

           ทางด้านนาย”กู๊ด”ผู้จัดการ บุชเชอร์ กล่าวยืนยันว่า การกล่าวโจมตีว่าตนเองเปิดเกินเวลา เป็นเพียงการกล่าวที่เกินจริง ยืนยันว่า  ตนเป็นคนทำมาหากิน ไม่ใช่คนหาเรื่อง ทุกอย่างก็ต้องทำดให้ถูกต้องภายใต้ระเบียบของการขออนุญาต ที่ปิด ตี 2  ซึ่งไม่เคยเปิดเกินเวลามาก่อน เพราะไม่อยากให้ถูกปิด ให้ต้องเดือดร้อนอยู่แล้ว ถึงเวลาก็ปิดตามที่กฎหมายกำหนด  มีการควบคุมไม่ให้เด็กอายุไมถึงเข้ามาใช้บริการ และ กวดขันแม้แต่พนักงานทุกคนก็ต้องปลอดยาเสพติด โดยขอความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องมาสุ่มตรวจปัสสาวะ  เป็นระยะๆตลอดเวลา และหากพบว่ามีการเสพยา ก็จะไม่ให้ทำงานในร้านโดยเด็ดขาดอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทขึ้นที่หน้าร้าน ยืนยันว่าทางร้านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่แล้ว เพราะเป็นเหตุทะเลาะวิวาท ที่เกิดขึ้นนอกร้าน หลังจากสถานบริการปิดแล้ว ซึ่งก็ถือว่าน่าจะเป็นเรื่องของความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวของผู้ใช้บริการ ซึ่งก็ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการ ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย ต่อไป.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ