ข่าว

จยย.เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางชนแท็กซี่ตาย 1

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รถจยย.เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางเชิงสะพานข้ามแรกรัชวิภาชนแท็กซี่ที่วิ่งสวนมา คนขี่จยย.ดับ 1 ราย

          เมื่อเวลา 02.45 น. วันที่ 18 เม.ย. ร.ต.อ.กิตติธัช ศักดิ์สนิท รอง สว.(สอบสวน)สน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ชนรถแท็กซี่เสียชีวิต บริเวณเชิงสะพานข้ามแยกรัชวิภา ถนนรัชดาขาเข้า มุ่งหน้ารัชโยธิน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง

          ที่เกิดเหตุอยู่เชิงสะพานทางลงสะพานข้ามแยกรัชวิภา ที่เลนซ้ายพบรถแท็กซี่รุ่นโตโยต้า อัลติส สีชมพู ทะเบียน ทษ8220 กทม. กันชนด้านหน้าฝั่งขวา และประตูฝั่งคนขับพังยุบเข้าไป โดยมีนายเอกชัย หล่อศรีศุภชัย อายุ 39 ปี เป็นผู้ขับขี่ ห้างออกไป 50 เมตร พบร่างของนายอวสร สิงหวัฒน์ อายุ 21 ปี สภาพสวมเลื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีเลือดหมู่ เสียชีวิตจมกองเลือด ใกล้กับพบหมวกกันน๊อคสีดำแบบเต็มใบตกอยู่ ห่างขึ้นไปบนเชิงสะพานประมาณ 80 เมตร บนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นเคแอลเอ็กซ์ สีดำ-เขียว ทะเบียน 6 กศ 372 กทม. ของผู้ตายล้มนอนอยู่กระจกมองหลังทางแฮนด์ขวาแตก

จยย.เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางชนแท็กซี่ตาย 1           จากการสอบสวนนายเอกชัย ให้การว่าตนขับรถไปรับผู้โดยสารมาจากขนส่งหมอชิต เพื่อไปส่งย่านมีนบุรี โดยตนเองขับมาที่เลนขวามุ่งหน้าแยกรัชโยธิน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับอยู่ที่เลนขวาฝั่งตรงข้าม แต่จู่ๆรถของผู้ตายก็พุ่งข้ามฝั่งมาที่ฝั่งตนจักรยานยนต์ค้างอยู่บนที่กั้นกลางสะพานก่อนจะล้มลงมาเป็นจังหวะเดียวกับที่รถตนกำลังวิ่งมาในระยะที่เบรคไม่ทันจึงทำให้ชนเข้าอย่างจัง

          ส่วนนายภูริณัฐ นุ่นแก้ว อายุ 25 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่าขณะที่ตนเองขับรถจากแยกรัชโยธิน กำลังจะขึ้นสะพานข้ามแยกรัชวิภามุ่งหน้าพระราม7 ก็พบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวและผู้ตายขับอยู่ที่เลนขวา แต่พอใกล้ถึงสะพานข้ามแยกรัชวิภารถจักรยานยนต์ของผู้ตายเกิดเสียหลัก พุ่งข้ามเกาะกลางไป ตอนนั้นตนไม่รู้ว่ารถจักรยานยนต์ของผู้ตายจะไปชนกับรถแท็กซี่เลยหรือไม่ เพราะขับรถเลยมาแล้ว ก่อนจะตัดสินใจถอยรถกลับมาและโทรแจ้ง 191 ทันที

จยย.เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางชนแท็กซี่ตาย 1          ด้านร.ต.อ.กิตติธัช กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นต้องทำการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุก่อน จากนั้นก็จะไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ