รวบเฒ่าวัย 74 คาบ้าน หลังทำเนียนฉกกระเป๋าเภสัชกรหญิงโรงพยาบาลเอกชน กลางสนามบิน อ้างไม่รู้ของใครเลยหยิบกลับบ้าน
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 17 เมษายน 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุมนายปราการ ปรีชานนท์ อายุ 74 ปี ผู้ต้องหาหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ ในข้อหาลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน พร้อมของกลางกระเป๋าสะพายสีดำ และ กล้องถ่ายรูป
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2561 เวลาประมาณ 23.00 น. ผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นเภสัชกรสาวของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าถูกคนร้ายลักกระเป๋าสะพายสีดำภายในมีทรัพย์สินเป็นกล้องถ่ายรูปหายไป ก่อนเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด และช่วยติดตามทรัพย์สินกลับคืนมา
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณภายในอาคารผู้โดยสารชั้น 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับภาพขณะที่ชายสูงวัยคนหนึ่ง ทำทีเดินมานั่งที่เก้าอี้พักของผู้โดยสาร ระหว่างที่ชายสูงวัยดังกล่าวได้นั่งรออยู่บนเก้าอี้ พบว่ามีผู้โดยสารชาวต่างชาติรายหนึ่งได้หยิบกระเป๋าสีดำภายในมีกล้องถ่ายรูปยกมาสอบถามว่าใช่กระเป๋าของชายสูงวัยดังกล่าวหรือไม่ ก่อนที่ชายสูงวัยดังกล่าว จะทำทีเนียนเป็นว่ากระเป๋าดังกล่าวเป็นของตนเอง จากนั้นไม่นานชายคนดังกล่าวได้หันมองซ้ายขวาไม่พบว่ามีเจ้าของจึงหยิบกระเป๋าดังกล่าวเดินออกจากอาคารผู้โดยสารไป
หลังเกิดเหตุนายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษร่วมกับฝ่ายสืบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หาข้อมูลของคนร้ายจนกระทั่งทราบชื่อต่อมาคือ นายปราการ ปรีชานนท์ อายุ 74 ปี จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนเจ้าหน้าที่จะเดินทางไปยังบ้านพักของนายปราการ ย่านวัชรพลและเข้าทำการจับกุมตัวนายปราการ คาบ้านพักพร้อมกับของกลางที่เป็นทรัพย์สินของผู้เสียหาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน ขณะที่ผู้ต้องหาให้การอ้างว่าไม่มีเจตนาจะลักทรัพย์เห็นว่าไม่มีผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของจึงหยิบกลับบ้าน
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ฝากเตือนผู้ที่มาใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิให้เพิ่มความระมัดระวังทรัพย์สินมีค่าของตนเองไม่ควรวางห่างตัว เนื่องจากปัจจุบันพบว่ามีคนร้ายที่แฝงตัวเป็นผู้โดยสารเข้ามาก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้มากขึ้น และทางสนามบินไม่สามารถตรวจสอบบุคคลเหล่านี้ได้เลย หากเกิดเหตุหรือพบเห็นบุคคลต้องสงสัย ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ลาดตะเวนหรือ รปภ. ของสนามบินทันที่เพื่อเข้าตรวจสอบป้องกันเหตุ หากเกิดเหตุกับผู้ใช้บริการขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อเร่งตรวจสอบภาพวงจรปิดในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี อย่างไรก็ตามฝากเตือนไปยังผู้ที่คิดจะมาก่อเหตุในสนามบินสุวรรณภูมิด้วยว่าปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิได้เพิ่มกล้องวงจรปิดทุกตารางนิ้วของสนามบินในระบบรักษาความปลอดภัยและเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสาร หากใครคิดแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุตนเองยืนยันว่าไม่มีทางรอดการจับกุมตัว จะต้องถูกนำตัวมาดำเนินคดีโทษสูงสุดแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง