แทบช็อก !! เปิดประตูห้องน้ำเจอศพห้อยโตงเตง

           เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 15 เม.ย. 61 ร.ต.อ.อภิเดช จังพล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 252 หมู่ 13 คุ้มโพธิ์เงิน บ้านหนองสองห้อง ต.ค่ายบกหวาน จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทหาร และหน่วยกู้ภัย ชบา 191

           ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว โดยชาวบ้านได้นำร่างของนางสาวสุพรรณี (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี สวมเสื้อยืดสีเลือดหมู กางเกงยีนส์ขาสั้น ผู้เสียชีวิต ออกมาไว้หน้าบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวนายสิทธิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวส่งโรงพยาบาลหนองคาย แต่นายสิทธิชัยได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

           จากการสอบถามนางหนูลักษณ์ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นอาของนายสิทธิชัย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งสองคนได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากเล่นน้ำสงกรานต์มาที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านตนประมาณ 100 เมตร และได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทเสียงดัง โดยทั้งสองคนมักจะทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ ไม่นานเสียงก็เงียบหายไป เพื่อนบ้านได้มาบอกให้ตนไปดู ตนแปลกใจจึงชวนเพื่อนชายเดินไปดูที่บ้าน เห็นบ้านเปิดประตูหน้าต่างไว้ แต่ห้องน้ำปิด ร้องเรียกก็ไม่ได้ยินเสียงขานรับ เอะใจจึงขอให้เพื่อนชายพังประตูห้องน้ำเข้าไปดู ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างของ น.ส.สุพรรณี ห้อยโตงเตงเสียชีวิตแล้ว บริเวณใบหน้ามีร่องรอยการถูกทำร้าย มีคราบเลือดติดอยู่ โดยมีเชือกไนล่อนสีชมพูผูกอยู่ที่คอพาดกับขื่อห้องน้ำ ส่วนปลายเชือกไนล่อนอีกด้านหนึ่งผูกติดอยู่ที่คอของนายสิทธิชัย ซึ่งนั่งอยู่กับพื้นในลักษณะหลังพิงฝา ขาเหยียดตรง พวกตนจึงใช้มีดตัดเชือกพาทั้งสองคนออกมา ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็มาถึง และพบว่านายสิทธิชัย ยังมีชีพจรอยู่จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลหนองคาย

           และจากการสอบถามเพื่อนผู้ตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสิทธิชัยได้ไปดื่มเหล้าฉลองสงกรานต์ที่บ้านเพื่อนคนหนึ่งในละแวกหมู่บ้าน จากนั้น น.ส.สุพรรณี ได้ตามไปหา โดยมีท่าทีหึงหวงและเกิดการทะเลาะกันขึ้น จากนั้นทั้งสองคนก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกมา จนกระทั่งมาทราบข่าวสลดดังกล่าวขึ้น

           ด้านนางสีดา อายุ 54 ปี แม่ของ น.ส.สุพรรณี บอกว่า ลูกสาวกับลูกเขยทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันเป็นประจำ เพราะลูกสาวไม่อยากให้ลูกเขยดื่มเหล้า แต่ห้ามไม่ฟัง พอทะเลาะกันไม่นานก็กลับมาคืนดีกัน เป็นเช่นนี้บ่อยครั้ง ไม่นึกว่าจะรุนแรงถึงขั้นผูกคอตายกันเช่นนี้ ซึ่งจะได้นำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป