ตร.รวบอดีต รปภ.ตกอับผีพนันเข้าสิง ออกตระเวนกระชากสร้อย

 

 

ที่สน.หัวหมาก เมื่อวันที่ 12 เม.ย.พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.ธนาวุฒิ เปียผ่องรอง ผกก.สส.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.ปรัชญา บุญยืน สว.สส.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.เทียนชัย โพธิ์สาราช สว.สส.สน.หัวหมาก และร.ต.อ.สุทธิพงษ์ ยานุพรม รอง สว.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ร่วมกันจับกุมนายสุทธิพงษ์ เทียนอำไพ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 431/2561 ลงวันที่ 10 มี.ค.61ข้อหา " พยายามวิ่งราวทรัพย์โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม "และ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 616/2561 ลงวันที่ 29 มี.ค.61 ขัอหา" วิ่งราวทรัพย์ " โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณบางกะปิคอนโดทาวน์ อาคารดี 90/123 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 13.30น.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากตามนโยบาย พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. ให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในพื้นที่ให้หมดไป ทาง พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 จึงสั่งการให้แต่ละท้องที่ เร่งรัดติดตามจับกุมให้หมดไป โดยคดีนี้ มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กับทางตำรวจ สน.หัวหมาก ว่าถูกคนร้ายเป็นชายก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำ ขณะกำลังเดินอยู่ บริเวณเชิงสะพานข้ามคลองแสนแสบใกล้แยกลำสาลี เพื่อไปทำงานตามปกติ เมื่อวันที่18 มี.ค. เวลาประมาณ 08.00 น.ที่ผ่านมา จากนั้นทางตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดละแวกที่เกิดเหตุ จนสามารถทราบตัวคนร้าย ตลอดจนเส้นทางการหลบหนี ว่าไปกบดาลที่คอนโดดังกล่าว จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับ ก่อนนำกำลังไปตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ พร้อมขยายผลตรวจค้นห้องพัก ปรากฎพบชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และความคุมตัวสอบสวน ที่สน.หัวหมาก

สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยทำงานเป็น รปภ.บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งแล้วลาออกมา ทำให้ตกงานไม่มีเงินใช้จ่าย อีกทั้งตนยังชื่นชอบเล่นการพนันไฮโลจนเป็นหนี้เป็นสิน จึงอยากหาเงินทางลัดด้วยการออกตระเวนกระชากสร้อยคอทองคำตามท้องถนนรามคำแหง และถนนลาดพร้าว และมักจะเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสาว ที่สวมสร้อยคอเดินทางข้างทาง หรือไม่ก็นั่งบนรถโดยสาร ไม่ทันระวังตัว คนร้ายจะขับขี่รถไปเทียบก่อนลงมือก่อเหตุและหลบหนีไป จากนั้นนำทรัพย์สินไปขาย แต่ได้ราคาไม่ดีนัก เนื่องจากมีตำหนิ และนำเงินที่ได้ไปเล่นพนันไฮโลอีก จนหมดตัว จึงต้องนำรถ จยย.และหมวกกันน็อกที่ใช้ก่อเหตุไปขายในราคาเพียง 10,000 บาท เพื่อนำไปใช้หนี้ ต่อมาได้กลับมาก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำซ้ำอีก โดยวิธีเดินเท้า ทั้งนี้เจ้าตัวยอมรับว่าทำลักษณะนี้มาแล้ว 4 ครั้ง ในพื้นที่ของ สน.หัวหมาก

 

อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ ต้องทำการสืบสวนสอบสวนอีกครั้ง เชื่อว่าคนร้ายก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง หากมีผู้เสียหายรายใดถูกคนร้าย ทั้งนี้อยากจะฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวัง อย่าสวมใส่ทรัพย์สินมีค่า เดินทางตามลำพัง อาจเกิดอันตรายต่อตัวท่านเองได้ เบื้องต้นทางตำรวจแจ้งข้อหา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป