"ศุลกากร" เตรียมขึ้นบัญชีดำบริษัทส่งออก ลักลอบขนเฮโรอีน 80 แท่งซุกหมอนยางพารา ใส่ตู้คอนเทนเนอร์ ส่งฮ่องกง "อธิบดี" เผยปีงบประมาณ 61 จับยาได้มาก รวมกว่า 144 ล้าน
8 เม.ย.61 - เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์เอ็กซเรย์และเทคโนโลยี สำนักงานท่าเรือกรุงเทพ กรมศุลกากร "นายกุลิศ สมบัติศิริ" อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวการจับกุม ผู้ต้องหา 3 ราย เป็นคนไทย 1 ราย และชาวฮ่องกง 2 ราย พร้อมเฮโรอีน จำนวน 80 แท่ง น้ำหนักรวม 28 กิโลกรัม มูลค่าประมาณกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งได้นำส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสามและของกลาง ให้ตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เพื่อดำเนินคดีต่อไปแล้ว
โดย "นายกุลิศ" อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (7เม.ย.) เจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้ดำเนินการกับ "บริษัท วาย แอนด์ เอส โซลูชั่น เทรดดิ้ง จำกัด" ฐานครอบครองและส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภท1(เฮโรอีน) ออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งบริษัทดังกล่าวสำแดงสินค้า 1 ราย เป็นหมอนยางพาราบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ ที่ระบุส่งออกไปยังประเทศปลายทาง คือเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ผลการตรวจสินค้าด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ ที่ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) ภาพเอ็กซเรย์พบว่า มีลักษณะการซุกซ่อนสินค้าที่ต้องสงสัยมาในบริเวณท้ายตู้สินค้า มีลักษณะเป็นแท่งเล็กๆ อย่างเด่นชัด จึงทำการอายัดก็ตรวจสอบทางกายภาพ ซึ่งการตรวจสอบ ก็พบเป็น ยาเสพติดให้โทษ ประเภทเฮโรอีน ซุกซ่อนอยู่ในหมอนยางพารา โดยหมอน 1 ใบต่อเฮโรอีน 2 แท่ง รวมทั้งหมด 80 แท่ง น้ำหนักรวม 28 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 100 ล้านบาทซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 จึงควบคุมตัวเจ้าของ และตัวแทนผู้เกี่ยวข้องของบริษัท ส่งพนักงานสอบสวน
"อธิบดีกรมศุลกากร" กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง ยังพบว่า บริษัท วาย แอนด์ เอสฯ เพิ่งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 30 ม.ค.61และได้ส่งออกหมอนยางพารา ไปยังเขตพิเศษฮ่องกง 2 ครั้ง ในช่วงเดือน มี.ค.61 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเอ็กซเรย์ย้อนหลังไม่มีสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด ครั้งนี้จึงเป็นการก่อเหตุครั้งแรก โดยหลังจากนี้ต้องบัญชีดำบริษัทดังกล่าวด้วย
"ได้กำชับทุกหน่วยงานให้ปฎิบัติหน้าที่ตามนโยบายสำคัญ คือการเร่งปราบปรามสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงอากร รวมทั้งขจัดอิทธิพลกลุ่มขบวนการลักลอบค้าของเถื่อนและสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งกรมศุลกากร จับกุมยาเสพติดให้โทษ ในรอบปีงบประมาณ 2561 จนถึงปัจจุบันจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 144,442,975 บาท" อธิบดีกรมศุลกากร ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง