เปิดวงจรปิดล่าโจรขโมยแผงเหล็กหน้าร้าน !!

 

            ภาพจากกล้องวงจรปิดร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งบนถนนศรีนวล เขตเทศบาลนครขอนแก่น บันทึกภาพขณะที่มิจฉาชีพขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ มาจอดบริเวณริมถนน ก่อนที่ชายรูปร่างผอม สวมหมวกกันน๊อคแบบเต็มใบ เดินมายกแผงเหล็กที่ใช้เป็นทางขึ้นร้าน หน้าร้านไอศครีม “อ๊อด ติม ตัก” เลขที่ 74/5 ก่อนจะรีบนำไว้เบาะหลังแล้วขับรถจักรยานยนต์ออกไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ในเวลา 03.15 น. ของวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา

 

 

            นายอ๊อด ซินโซ ผู้เสียหายเล่าว่า ร้านตนจะเปิดบริการเวลา 12.00-21.00 น.ของทุกวัน คืนเกิดเหตุตนเองและญาติได้นั่งอยู่ที่ร้านถึงประมาณเที่ยงคืนเศษ จากนั้นไปปิดร้านขึ้นไปพักผ่อน ต่อมาเวลาประมาณ 06.00 น. ตื่นมาก็พบว่าแผงเหล็กดังกล่าวหายไป ตกใจมากเพราะทำไว้สำหรับให้ลูกค้าและผู้สูงอายุขึ้นลงได้สะดวก รวมทั้งไว้สำหรับทางขึ้นลงรถจักรยานยนต์ และเมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจึงพบว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยไป รู้สึกเสียดายเพราะหากไปจ้างทำใหม่จะต้องเสียเวลาในการหาช่างและยังต้องเสียเงินอีก ซึ่งต่อไปตนและคนในครอบครัวจะนำสิ่งของมีค่าเข้าไปเก็บไว้ในร้านเพื่อป้องกันถูกมิจฉาชีพขโมยไป

 

 

            นอกจากนี้ ในคืนเดียวกัน ที่หน้าร้านอาหาร “มิลาเคิล” ของนางเพ็ญภิชา พรหมมณีรัตน์ ยังพบว่า มีคนร้ายมาขโมยเหล็กทางขึ้นร้าน และทางขึ้นหอพักเช่นกัน โดยผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อคืนก่อนนอนแผงเหล็กทางขึ้นลงยังเห็นวางอยู่ริมถนนตามปกติ แต่เมื่อตื่นเช้ามาเปิดร้านกลับพบว่าแผงเหล็กหายไป ตนเองรู้สึกเสียดายและเจ็บใจที่คนร้ายมาขโมยไป เพราะจะต้องเสียเงินไปจ้างทำมาอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุที่ร้านไอศครีม โดยใช้วิธีการขับรถตระเวนไปตามถนนเส้นต่างๆ เมื่อเห็นทรัพย์สินที่สามารถนำไปขายได้ เช่น แผงเหล็กทางขึ้นหน้าร้าน ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าของห้างร้านต่างๆ จะวางไว้โดยไม่มีดารป้องกัน คนร้ายก็จะลงไปยกขึ้นรถเพื่อนำไปขาย โดยที่ร้านนี้คนร้ายได้เหลือเพียงเศษดินไว้ให้เจ้าของดูต่างหน้า

 

 

            ผู้เสียหายจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อนำตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี เพราะหากปล่อยให้ก่อเหตุไปเรื่อยๆเช่นนี้ คนร้ายอาจย่ามใจไปก่อเหตุกับร้านอื่นๆ และลักทรัพย์ที่มีค่ามากกว่านี้ได้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่ถึง 1 สัปดาห์ ก็เคยมีเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ตำบลศิลา อ.เมืองขอนแก่น มาแล้ว และตำรวจยังไม่สามารถนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้