ร้องอัยการแจ้งความเอาผิดบริษัทปุ๋ยตั้งแต่ปี 59 ไม่คืบ

 

               ตัวแทนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร จาก 5 อำเภอ จังหวัดบุรีรัมย์ มี โนนสุวรรณ ปะคำ นางรอง หนองกี่ และหนองหงส์ ที่ถูกบริษัทจำหน่ายปุ๋ย เป็นโจทก์ยื่นฟ้องให้ชดใช้ค่าปุ๋ยที่มีการจัดซื้อในโครงการส่งเสริมอาชีพคนบุรีรัมย์ ปี 2558 รวมเป็นเงินกว่า 40 ล้านบาท แต่ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนางรองซึ่งเป็นศาลชั้นต้น ได้พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากจำเลยไม่ได้เป็นคู่สัญญากับโจทก์โดยตรง ได้ร่วมกันเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการจังหวัดนางรอง พร้อมสอบถามถึงความคืบหน้าคดี หลังจากที่กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรและผู้แทนเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เอาผิดกับ บริษัทจำหน่ายปุ๋ย ที่มาหลอกให้กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเซ็นรับปุ๋ย ทั้งยังหลอกนำปุ๋ยไม่ได้คุณภาพมาตรฐานมาจำหน่ายในโครงการดังกล่าวด้วยตั้งแต่ปี 2559 แต่จนถึงขณะนี้ คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าบาง สภ. ยังไม่ได้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ ตัวแทนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรจึงได้ร่วมกันมายื่นร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการจังหวัดนางรองดังกล่าว พร้อมให้ช่วยพิจารณาเร่งรัดคดีด้วย

 

 

               นางไพนิตย์ สีสืบมา และนางสุรัสวดี เรืองจำรัส ตัวแทนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร กล่าวว่า ทางกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรได้แจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เอาผิดกับบริษัทปุ๋ยตั้งแต่ปี 2559 ฐานฉ้อโกง หลอกเซ็นรับปุ๋ย และนำปุ๋ยไม่ได้คุณภาพมาจำหน่ายในโครงการ จนถึงขณะนี้ผ่านมาเกือบ 2 ปีแล้ว แต่กลับไม่มีความคืบหน้า พนักงานสอบสวนบาง สภ. ยังไม่ได้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการเลยด้วยซ้ำ กระทั่งศาลพิพากษายกฟ้องกรณีบริษัทปุ๋ยเรียกค่าเสียหายจากชาวบ้านแล้ว แต่ส่วนคดีชาวบ้านแจ้งความไว้กลับไม่คืบหน้า มองว่าไม่มีความเป็นธรรม จึงได้มายื่นหนังสือร้องต่ออัยการพิจารณาเร่งรัดคดีดังกล่าวด้วย

               ซึ่งทางอัยการจังหวัดนางรองก็ได้รับเรื่องไว้ พร้อมรับปากจะเร่งดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อพิจาณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องตามพยานหลักฐานต่อไป

               สำหรับโครงการส่งเสริมอาชีพคนบุรีรัมย์ดังกล่าว เป็นโครงการต่อเนื่อง 4 ปี ตั้งแต่ปี 2555 - 2558 ที่ผ่านมา ได้รับแจกจ่ายปุ๋ยอินทรีย์ฟรีมาตลอดระยะเวลา 3 ปี ไม่เคยเกิดปัญหา แต่ปีสุดท้ายโครงการถูกสั่งระงับ ไม่มีการอนุมัติงบอุดหนุนจาก อบจ. เพื่อมาจ่ายเงินค่าปุ๋ยในโครงการ ทำให้ชาวบ้านเกษตรกรที่ถูกหลอกเซ็นสัญญารับปุ๋ยไปใช้แล้ว ต้องตกเป็นแพะถูกบริษัทขายปุ๋ยฟ้องในข้อหา “ผิดสัญญาซื้อขาย” โดยคดีดังกล่าวได้มีการยื่นฟ้องมาตั้งแต่ปี 2559 ศาลจังหวัดนางรองได้มีการเรียกทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยกันหลายครั้ง แต่ไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากทางบริษัทยังยืนยันจะเรียกค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 40 ล้านบาท แต่ชาวบ้านไม่มีเงินที่จะจ่ายให้ ทั้งมองว่าชาวบ้านตกเป็นแพะในคดีดังกล่าว เพราะไว้เนื้อเชื่อใจหน่วยงานรัฐ และเห็นว่าเป็นโครงการปุ๋ยฟรี จึงเซ็นรับปุ๋ย แต่พอเกิดปัญหากลับไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วย ปล่อยชาวบ้านลอยแพจนต้องเดินเรื่องต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมมาตลอด 2 ปี กระทั่งล่าสุดศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้อง