ตำรวจสืบสวน สภ.หนองหาน และ ชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี รวบ 9 โจ๋ทุ่งใหญ่ร่วมยิงน้องฟิวส์นักมวยเด็กอ้างแค้นน้องชายถูกชกต่อยในงานวัด
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 มีนาคม 2561- พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.หนองหาน พ.ต.ท.ไกรสร พาน้อย รอง ผกก.สภ.สืบสวน สภ.หนองหาน พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองหาน และชุดสืบสวน กก.สืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ร่วมสอบปากคำกลุ่มวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 17-21 ปี จำนวน 9 คน ชาว ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ที่เป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุ ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิง นายนันทพงศ์ รักพร้า อายุ 16 ปี นักมวยไทยดาวรุ่ง ฉายา “มีทรัพย์ ต.อิทธิพร” หรือ น้องฟิวส์ และยังเคยเป็นนักมวยเยาวชนสากลสมัครเล่นทีม จ.อุดรธานี เสียชีวิต ที่ข้างกำแพงวัดโพธิ์ศรีใน บ้านเชียงต.บ้านเชียง อ.หนองหาน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึด ปืนแก๊ปสั้น แบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก รถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีหลังก่อเหตุ 3 คัน พร้อมเสื้อผ้าของ 2 คนร้าย ที่เป็นผู้ลงมือชกหน้าน้องฟิวส์ และของคนร้ายที่เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนแก๊ปสั้น จ่อยิงน้องผิวส์ จนเสียชีวิต ซึ่งของกลางทั้งหมด ตรวจค้นได้ที่บ้านของนายจ๊อบ นามสมมุติ อายุ 21 ปี ชาวบ้าน ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงน้องฟิวส์จนเสียชีวิต
จากนั้น พ.ต.อ.วิบูลย์ฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง ที่บริเวณข้างรั้ววัดโพธิ์ศรีใน จ.บ้านเชียง อ.หนองหาน โดยมีชาวบ้านบ้านเชียง และหมู่บ้านใกล้เคียง ที่ทราบข่าว และคิดว่าตำรวจจะนำตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ จำนวนกว่า 200 คน มารอดู แต่ต้องผิดหวังที่ตำรวจไม่นำตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาชี้ที่เกิดเหตุ
พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ทางตำรวจได้เบาะแสจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุใช้หลบหนี จึงติดตามเข้าตรวจค้น ที่คาดว่าไม่น่าจะผิดตัว โดยการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพแล้วว่า ได้ก่อเหตุจริง โดยไม่มีเหตุอะไรมาก เป็นเพียงเรื่องอารมณ์ของเด็กวัยรุ่น ที่มาเที่ยวงานบุญผะเวสที่วัดสระแก้ว แล้วมีเรื่องชกต่อยกัน แล้วก็ผูกใจเจ็บ และเป็นเหตุบังเอิญอีกส่วนหนึ่ง ที่จักรยานยนต์ของกลุ่มเด็กที่ก่อเหตุมาเสียที่บริเวณสี่แยกข้างรั้ววัดโพธิ์ศรีใน ที่จะไปบ้านดงเย็น ที่เป็นบ้านของแฟนน้องฟิวส์ และเป็นเส้นทางไป อ.ทุ่งฝน บ้านของกลุ่มผู้ก่อเหตุ
“เมื่อรถเสียกลุ่มผู้ก่อเหตุก็นั่งรอที่สี่แยก ขณะที่น้องฟิวส์ขี่รถมาถึง กลุ่มผู้ก่อเหตุจากที่คิดว่าพวกตัวเองถูกทำร้ายมา ก็เดินเข้าไปถามน้องฟิวส์ว่า เป็นคนบ้านไหน พอน้องฟิวส์บอกว่าเป็นคนบ้านเชียง ก็ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุลงมือ โดยเด็กกลุ่มนี้ไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อน และก็ไม่ได้เป็นการมารอดักทำร้าย เป็นจังหวะที่น้องฟิวส์ผู้ตาย ผ่านมาประสบเหตุตรงนี้พอดี ซึ่งผู้ที่อยู่ในกลุ่มก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน ที่มารอกันจะกลับบ้าน จากการสอบปากคำทราบว่าเด็กในกลุ่มนี้ก็ห้ามปรามกัน บอกว่าอย่าไปทำเขา เขามากับผู้หญิง ที่ส่วนใหญ่อายุ 17-18 ปี แต่คนที่ก่อเหตุยิง เป็นพี่ชายของเด็กที่ถูกทำร้ายในงานวัดอายุ 21 ปี เบื้องต้นก็รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิงน้องฟิวส์”พ.ต.อ.วิบูลย์ กล่าว
พ.ต.อ.วิบูลย์ กล่าวอีกว่า ส่วนอาวุธเบื้องต้น ตรวจยึดปืนแก๊ปสั้นแบบไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก ที่น่าจะใช้กระบอกที่ใช้ก่อเหตุ โดยต้องส่งไปตรวจพิสูจน์อีกครั้ง รวมทั้งเสื้อผ้าที่ตรวจยึดมาของผู้ก่อเหตุ เพื่อหาคราบเขม่าดินปืน โดยหลังจากสอบสวนเสร็จ ตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหาผู้ลงมือยิงน้องฟิวส์ ฆ่าผู้อื่นตาย ส่วนจะร่วมกันฆ่าหรือไม่ ต้องทำการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยทุกคนให้เสร็จก่อน เพราะในกลุ่มนี้ยังมีเด็กที่ไม่รู้เรื่องกับเขาด้วย เบื้องต้นสอบปากคำทราบว่า มีคนหนึ่งที่เข้าไปชก และอีกคนเข้าไปยิง โดยการสอบปากคำจะดูว่า มีการเดินรวมกลุ่มเข้าไปหาผู้ตาย มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าหรือไม่ ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน และการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คงต้องดูสถานการณ์ก่อน
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพียงเพราะถามว่าเป็นคนบ้านชียงหรือไม่เท่านั้น ซึ่งเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ ผู้ปกครองต้องให้ความสำคัญกับบุตรหลาน เมื่อเวลาออกนอกบ้าน มีการพกอาวุธปืนติดตัว ซึ่งผู้ลงมือยิงยังไม่บอกว่า ไปนำอาวุธปืนมาจากไหน แต่เขายอมรับเป็นผู้ลงมือยิงจริง”พ.ต.อ.วิบูลย์ กล่าวในที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง