รู้ตัว!! โจ๋เลือดร้อน รุมยำเยาวชนขอนแก่นสาหัส

               ความคืบหน้ากรณีกลุ่มวัยรุ่นชาย 3 คน ก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกายเยาวชนชายชาวจังหวัดขอนแก่น บริเวณทางขึ้นอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ย่านมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือภายในซอยบ้านกอก 20 เขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งมีผู้บันทึกเหตุการณ์ขณะที่กลุ่มวัยรุ่น กำลังรุมทำร้ายชายวัยรุ่น จำนวน 2 คน จนได้รับบาดเจ็บนอนกองที่พื้น ก่อนที่เพื่อนที่อยู่ในอพาร์ทเม้นท์เดียวกัน จะได้ลงมาดูอาการบาดเจ็บพร้อมกับถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเรียกหน่วยกู้ชีพมารับตัวส่งโรงพยาบาล เหตุเกิดเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 19 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา

               โดยหนึ่งในผู้เสียหาย คือนายสถาพร หันแจด อายุ 20 ปี ให้การว่า วันเกิดเหตุหลังจากเลิกงาน ตนเองและนายอดิศร ราชบุรมย์ อายุ 19 ปี ขับรถจักรยานยนต์มาเพื่อเข้าที่พักที่อพาร์ทเม้นท์ เมื่อมาถึงทางขึ้นที่จอดรถจักรยานยนต์ได้เข้าเกียร์รถผิด ทำให้เครื่องยนต์เกิดเสียงดัง ซึ่งขณะนั้นมีกลุ่มวัยรุ่น 4 คน เป็นชาย 3 คน และหญิง 1 คน ตั้งวงดื่มสุราอยู่ ได้วิ่งเข้ามารุมทำร้ายตนเองและเพื่อนที่มาด้วยกัน โดยนายอดิศร ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นใช้ขวดสุราฟาดเข้าที่บริเวณศีรษะ ได้รับบาดเจ็บสาหัสและล้มลง ส่วนตนเองถูกต่อยเข้าที่ใบหน้าและตามร่างกาย ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

               ล่าสุด พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังเร่งหาเบาะแสของกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุอุกอาจในครั้งนี้ โดยมีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุและอยู่ในเส้นทางที่คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีหลังก่อเหตุ พร้อมกับสอบปากคำผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบแล้วว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นใคร ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งคาดว่าภายใน 3 วันนี้ จะสามารถนำตัวผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายได้อย่างแน่นอน

               อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลจากพลเมืองดีว่า ขณะนี้หนึ่งในผู้ก่อเหตุได้บวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น และหลังจากก่อเหตุยังพบว่ามีการโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าตนเองซวยแล้ว โดยมีสมาชิกที่เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กเข้ามาแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า เฟซบุ๊กดังกล่าวได้ระงับการใช้งานไปเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ที่ผ่านมา