ข่าว

รวบหนุ่มสวมบัตร ปชช.ตุ๋นเหยื่อหลอกขายผ่านเฟซบุ๊ก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สืบนครบาลรวบโจรแสบสวมบัตรประชาชนเปิดบัญชีตุ๋นเหยื่อหลอกขายสินค้าผ่านเฟซบุ๊ก

 

               14 มี.ค. 61  เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ บก.สส.บช.น.  มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อม พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.นภัสพงษ์ ทัศนา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.สิทธิเดช หาญจริง รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกันนำกำลังตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. จับกุมตัว นายอาทิตย์ หรือ โดม สระกวี อายุ 39 ปี ผู้ต้องหา พร้อมของกลางบัตรประชาชนของผู้เสียหาย จำนวน 2 ใบ โทรศัพท์ ซัมซุง สีขาว 1 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณทางเดินข้างถนนสุขาประชาสรรค์ 2 หน้าวัดกู้ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

               สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากถูกคนร้ายนำบัตรประชาชนที่มีผู้ทำสูญหายไปใช้ปลอมทำวุฒิการศึกษาเพื่อสมัครงาน จากนั้นได้นำบัตรประชาชนดังกล่าวไปใช้ปลอมแปลงเป็นบุคคลตามบัตรนั้นเพื่อเปิดบัญชี ก่อนนำไปใช้ก่อเหตุหลอกลวงเหยื่อขายสินค้าตามเพจเฟซบุ๊ก รวมทั้งเว็บไซต์ขายสินค้าต่างๆ แต่ไม่มีสินค้าอยู่จริง ซ้ำยังเอาบัตรไปเปิดหมายเลขโทรศัพท์เพื่อเอาไปโทรหลอกคนอื่น จนทำมีผู้ได้รับความเดือดร้อนไปตามๆ กัน จากนั้นทางตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนเร่งรัดติดตามคนร้ายรายนี้เรื่อยมา กระทั่งพบเบาะแสว่าบุคคลดังกล่าวคือ นายอาทิตย์ หรือ โดม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่มีพฤติกรรมการก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วบ่อยครั้ง ต่อมาได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับ กระทั่งสืบทราบว่าผู้ต้องหามักเดินทางมาบริเวณทางเดินข้างถนนสุขาประชาสรรค์ 2 หน้าวัดกู้ อยู่บ่อยครั้ง จึงนำกำลังไปตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวสอบสวนที่ บก.สส.บช.น.

               สอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ตนเพิ่งออกจากเรือนจำมาเมื่อ 4 ปีก่อน และตกงาน เนื่องจากต้องคดีรับของโจร จนทำให้ไม่มีนายจ้างใดกล้ารับไปทำงาน จึงต้องใช้วิธีนี้หาเงินเลี้ยงชีพ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ ต้องทำการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อทำการขยายผลอีกครั้ง ทั้งนี้ ทางตำรวจเชื่อว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง และเมื่อตรวจสอบประวัติพบว่ามีหมายจับอีก 2 หมาย ในข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์ ของศาลจังหวัดธนบุรี เมื่อปี 2554 และในข้อหา ยักยอกทรัพย์ ของศาลจังหวัดเกาะสมุย เมื่อปี 2555 เบื้องต้น แจ้งข้อหา “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และนำบัตรประชาชนของผู้อื่นไปใช้แสดงว่าตนเป็นเจ้าของบัตรนั้น” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ