“บิ๊กโจ๊ก”โชว์รวบ“ผัวอินเดีย-เมียไทย” จอมแสบ เปิดเวปไซด์ตุ๋นเหยื่อแดนโรตี ทำงานบริษัทฯก่อสร้าง ลงทุนเปิดโรงแรมหรูสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนเชิดเงินทรัพย์สิน
ที่สน.บางซื่อ - เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่13 มี.ค.2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ทท. , ตำรวจ191 , ตำรวจ สน.บางซื่อ และตัวแทนสถานทูตอินเดีย ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายสารัช คูมา ชาปาราล่า อายุ 40 ปี ชาวอินเดีย และ น.ส.กนกกร วงบุรี อายุ 37 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร ตามหมายจับศาลแขวงดุสิต ลงวันที่ 10 มี.ค. 61 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” โดยจับกุมได้บริเวณบ้านพักเลขที่ 137/3 หมู่ 2 ต.ทรงธรรม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่รับการประสานจาก สถานทูตอินเดีย ว่า มีผู้เสียหายชาวอินเดีย กว่า 20 ราย ร้องเรียนว่าถูกหลอกลวงเข้ามาในประเทศไทยให้มาทำงาน แต่เมื่อมาถึงกลับถูกหลอกลวงเงินและโทรศัพท์มือถือไป โดยรายล่าสุดเหตุเกิดเมื่อต้นเดือน มีนาคม 2561
โดยผู้ต้องหาทั้งสองรายเป็นสามีภรรยากัน อ้างเป็นผู้จัดการบริษัทก่อสร้าง และเปิดรับสมัครวิศวกร สถาปนิก และช่างชาวอินเดีย ทางอินเตอร์เน็ต ให้มาทำงานในประเทศไทย เมื่อผู้เสียหายชาวอินเดีย หลงเชื่อพร้อมกับนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินดอนเมือง จึงพากันมาเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซอยสุทธิสารวินิจฉัย 3 เขตบางซื่อ ก่อนคนร้ายทั้ง 2 จะอ้างว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายดำเนินการ ประมาณ 50,000 บาท และขอโทรศัพท์ เพื่อนำไปโหลดแอพพิเคชั่น แล้วหลบหนีไป
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยด้วยว่า คนร้ายทั้งสอง ได้ก่อเหตุลักษณะนี้มานาน 2 ปี กว่า 10 ครั้ง มูลค่าความเสียหายกว่าล้านบาท โดยชักชวน ผู้เสียหายชาวอินเดียเข้ามาทำงานในประเทศไทย สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการเช่าสถานที่ตามโรงแรมหรู และทำเอกสารปลอม ก่อนจะเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการ ประมาณ 50,000 บาท เมื่อเหยื่อหลงเชื่อ ก็จะขอโทรศัพท์มือถือ และเงินค่าดำเนินการหลบหนีไป ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อคนรู้จักได้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ นายสารัช พบว่าลักลอบอยู่เมืองไทยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดนานกว่า 6 ปี จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อดำเนินคดี ก่อนขึ้นบัญชีแบล็คลิส และผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
------//------
ข่าวที่เกี่ยวข้อง