จับเจ้าอาวาส-พระลูกวัดร่วมแก๊งลักลอบขนยาบ้า

 

               7 มี.ค. 61  เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ สภ.เมืองลำปาง  พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พ.อ.จิราวัฒน์ จุฬากุล รอง ผบ.มทบ.32 ลำปาง พล.ต.ต.นิยม ด้วงสี ผบก.ภ.จว.ลำปาง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ จำนวน 2 ราย หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.สส.ภาค 5 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางจำนวนมาก

 

 

               โดยรายแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.สส.ภาค 5 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.เชียงราย ได้จับกุมตัว นายนิธิวัชร์ ศรีบุณยาธนันท์ อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 154 ม.4 ต.จันจว้าใต้ อ.แม่จัน จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 751 มัด รวมทั้งหมด 1,402,000 เม็ด ยาไอซ์ 20 กิโลกรัม ซุกซ่อนในกระสอบฟาง 6 กระสอบ รถเก๋ง โตโยต้า สีดำ ทะเบียน กจ 1891 เชียงราย โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 1 เครื่อง ภายในห้องพักโรงแรม ม.3 ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย

               ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า มีคนนำยาบ้ามาซุกซ่อนในห้องพักดังกล่าวข้างต้น ซึ่งพบว่ามีรถเก๋ง โตโยต้า สีดำ ทะเบียน กจ 1891 เชียงราย ได้ขับรถออกจากโรงแรม ทางเจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไป โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่โรงแรม เมื่อตรวจสอบพบว่าคนที่มาเช่าโรงแรมชื่อ นายนิธิวัชร์ ศรีบุณยาธนันท์ เมื่อติดตามไปถึงปั๊มน้ำมันบ้านสันต้นก๊อก พบรถจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อ และคนขับคือ นายนิธิวัชร์ กำลังลงจากรถ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและสอบถามชื่อ ก่อนจะนำตัวไปที่โรงแรม

               ทั้งนี้ นายนิธิวัชร์ ยอมสารภาพว่า นำกระสอบฟางซึ่งภายในบรรจุยาบ้า ยาไอซ์ ซุกซ่อนในห้องพักโรงแรม เมื่อตรวจสอบภายในห้องพักพบยาบ้า 751 มัด รวม 1,402,000 เม็ด ยาไอซ์ 20 กิโลกรัม ซุกซ่อนในกระสอบฟาง 6 กระสอบ เจ้าหน้าที่จึงจับกุมสอบสวนขยายผล

 

 

 

 

               ส่วนรายที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.สส.ภาค 5 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง ได้จับกุมตัว นายสมพร หรือ ป๊อก อุสาใจ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 3 ม.3 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย นายทวีลาภ ปารมี อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 106 ม.7 ต.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง นายนฤบดินทร์ หรือ เอก อิ่นคำ อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 30 ม.10 ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น จ.น่าน และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 41/166 สามเสน พญาไท กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลางยาบ้า 200,000 เม็ด และรถเก๋ง โตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน งจ 9761 เชียงใหม่ รถเก๋ง โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน งจ 7085 เชียงใหม่ ก่อนนำตัวมาสอบสวน

               จากการสืบสวนสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.สส.ภาค 5 ทราบว่า นายสมพรมีพฤติการณ์ลักลอบขนยาบ้าไปส่งทางภาคกลาง มีผู้ร่วมขบวนการหลายคน และวันนี้ (7 มี.ค.) นายสมพรกับพวกกำลังลักลอบขนยาบ้าเข้าพื้นที่ จ.ลำปาง โดยใช้รถเก๋ง โตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน งจ 9761 เชียงใหม่ และรถเก๋ง โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน งจ 7085 เชียงใหม่

               ดังนั้น เจ้าหน้าตำรวจภาค 5 ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง นำกำลังติดตามเช็กพิกัดรถคันดังกล่าว เมื่อตรวจสอบมาถึงปั๊มน้ำมัน ปตท.ปงวัง ถนนลำปาง - งาว ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง พบรถทั้งสองคันจอดอยู่ภายในปั๊ม เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบและแสดงตัว เพื่อขอตรวจค้นรถเก๋งทั้งสองคัน พบนายสมพรเป็นคนขับ และมีพระภิกษุนั่งอยู่เบาะคู่หน้า ผลการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 200,000 เม็ด ซุกซ่อนฝากระโปรงท้ายเก๋ง จึงจับกุมนายสมพรและพระภิกษุสงฆ์นำไปสึก ทราบชื่อต่อมา นายทวีลาภ ปารมี นอกจากนี้ยังได้จับกุมผู้ร่วมขบวนการซึ่งอยู่ในรถเก๋ง โตโยต้า สีบรอนซ์ คือ นายกิติ อำพุฒ และพระภิกษุสงฆ์นำไปสึก ทราบชื่อต่อมา นายนฤบดินทร์ อิ่นคำ รวม 4 คน ไปสอบสวน

 

 

 

 

               จากการสอบสวนขบวนการดังกล่าว ลักลอบขนยาบ้ามาแล้วหลายครั้ง โดยมีนายสมพรเป็นตัวการ และมีนายทวีลาภ อดีตพระสงฆ์ ก่อนสึกเป็นเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง และนายนฤบดินทร์ อดีตพระสงฆ์ ก่อนสึกเป็นพระลูกวัดแห่งหนึ่งใน จ.น่าน ร่วมขบวนการลักลอบขนยาบ้าในครั้งนี้

               โดยนายสมพรสารภาพว่า รับจ้างขนยาบ้า จำนวน 200,000 เม็ด จาก จ.เชียงราย ไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.ปทุมธานี โดยได้ค่าจ้าง 4 แสนบาท ตลอดเส้นทางจะให้นายกิติเป็นคนขับรถเก๋ง โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน งจ 7085 เชียงใหม่ แล้วให้นายนฤบดินทร์ ซึ่งเป็นพระ ก่อนถูกจับสึกนั่งเบาะข้างคนขับนำไป ส่วนตนเป็นคนขับรถเก๋ง โตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน งจ 9761 เชียงใหม่ โดยมีนายทวีลาภ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นพระ นั่งข้างและเป็นรถขนยาบ้า ตลอดเส้นทางได้หลบด่านและเอาพระนั่งรถบังหน้า เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่สงสัย ก่อนจะมาถูกจับกุมดังกล่าว

               พล.ต.ท.พูลทรัพย์ กล่าวว่า ยาบ้าและยาไอซ์ที่ตรวจยึดจับกุมได้ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นรายใหญ่ ซึ่งลักลอบเข้ามาทางจังหวัดเชียงราย วิเคราะห์จากสิ่งห่อหุ้มยาบ้าและยาไอซ์ y1 น่าจะมาจากแหล่งผลิตพวกว้าเหนือ ส่วน 999 ส่วนหนึ่ง มาจากลุ่มว้าใต้ กลุ่มมูเซอ ซึ่งมาจากหลายแหล่งที่ทะลักเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งการจับกุมทั้งสองรายคนละเคสกัน แต่ถือว่าเป็นการสกัดกั้นการระบาดยาเสพติดที่ทะลักเข้ามาในประเทศพื้นที่ทางภาคเหนือได้ระดับหนึ่ง ซึ่งจะได้มีการขยายผลการจับกุมรวมถึงต้องสกัดกั้นยาเสพติดให้ทะลักเข้ามาในประเทศไทยเราน้อยลง