แถลงผล ‘ชัยยะสยบไพรี’ ทลายเครือข่ายยานรก

 

           เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 มีนาคม 2561 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ก. เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส และ ป.ป.ง. ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/4 ในห้วงระหว่างวันที่ 19 ก.พ.-7 มีนาคม 2561 ตรวจค้นเป้าหมายสำคัญ 91 เป้าหมายทั่วประเทศ สามารถตรวจยึดของกลาง ยาบ้า 2,152,001 เม็ด กัญชา 1,590 กิโลกรัม โคเคน 2.05 กิโลกรัม มูลค่ายาเสพติดรวม 440,400,200 บาท และตรวจยึดทรัพย์สินเป็นอาวุธปืน 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 10 นัด รถยนต์ 24 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน บ้านและคอนโดมิเนียมรวม 9 หลัง โฉนดที่ดิน 4 แปลง ทองรูปพรรณมูลค่า 1,510,000 บาท เงินสด 1,817,110 บาท และอื่นๆ รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 285,515,298 บาท

           โดยปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการปราบปรามจับกุมกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดและผู้ที่ให้การสนับสนุนเบื้องหลัง มีเป้าหมาย 4 เครือข่ายสำคัญ เครือข่ายแรก เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายฮาร์ปรีท ซิงห์ อายุ 62 ปี ชาวไทยสัญชาติอินเดีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 46/61 ข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ที่บ้านพักเลขที่ 20/8 ต่อเนื่อง 20/20 ซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กทม. พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินทั้งบ้าน รถยนต์จำนวนหนึ่งและอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 258,000,000 บาท สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2560 เจ้าหน้าที่ บก.ปส.2 จับกุมนายโกศล ศรีมงคล กับพวกรวม 5 คน พร้อมของกลาง ไอซ์ 400 กิโลกรัม ที่จ.ขอนแก่น ขณะจะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อส่งออกไปยังประเทศที่สามที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ก่อนขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องได้รวม 12 คน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลต่อจนสืบทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีนายฮาร์ปรีท ซิงห์ สนับสนุนและทำหน้าที่โอนเงินให้  จึงขออนุมัติออกหมายจับและหมายค้น กระทั่งสามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา

 

 

           ส่วนเป้าหมายที่ 2 เจ้าหน้าที่ บก.ปส.4 เข้าจับกุมตัวนายธีรพล เจริญสวัสดิ์ อายุ 31 ปี เอเย่นต์ค้ายาเสพติด โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักในจ.สงขลา พร้อมของกลางไอซ์ 6.20 กรัม และตรวจยึดทรัพย์สินเป็นบ้าน 1 หลัง และรถยนต์ 3 คัน สร้อยคอทองคำ หนัก 3 บาท สมุดบัญชีและโฉนดที่ดินอีกหลายรายการ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายธีรพล มีพฤติกรรมเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย รับยาเสพติดจากทางภาคเหนือมาจำหน่ายในพื้นที่ จ.สงขลา จนมีฐานะร่ำรวยผิดปกติ ทางเจ้าหน้าที่ บก.ปส.4 จึงรวบรวมหลักฐานแล้วเข้าจับกุม ทั้งนี้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่มักรวมตัวหลายคนและตั้งเป็นกลุ่ม มีหัวหน้ากลุ่มที่มีอิทธิในพื้นที่ หรือเป็นที่รู้จักในโซเชียลมีเดีย รวมถึงมีฉายาเป็นที่รู้จักมีลายสักที่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มตนเอง มีการเผยแพร่กิจกรรมของตนเองผ่านโลกออนไลน์ จนเกิดค่านิยมเลียนแบบในกลุ่มเยาวชน

           เป้าหมายที่ 3 เจ้าหน้าที่ บก.ขส. บช.ปส. ทำการขยายผลเครือข่ายของนายวันเฉลิม กมลเลิศ หรือ “โน๊ต ดินแดง” และนายณัฐวุฒิ นิลทัด สืบเนื่องจากทาง บก.ขส. ได้ขยายผลการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี และจ.ระยอง พบว่ามีความเชื่อมโยงทางการเงินกับเครือข่ายนายวันเฉลิมและนายณัฐวุฒิ ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มเครือข่ายดังกล่าวเป็นนักค้ายาเสพติดที่มีอิทธิพลในพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออก อีกทั้ง มีการรับทำธุรกรรมทางการเงินให้กับกลุ่มค้ายาเสพติดทางภาคเหนือ จึงรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจยึดทรัพย์สิน 10 เป้าหมาย

 

 

           และเป้าหมายที่ 4 เจ้าหน้าที่ บก.ปส.3 ได้ทำการจับกุม ด.ต.จิตรภานุ สุวรรณวกุลหรือ ดาบสม ตำรวจสังกัด กก.สส. บก.ภ.จว.กำแพงเพชร (กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 15/2561 ลงวันที่ 12 มกราคม 2561 ในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ได้ที่บ้านเลขที่ 14/17 หมู่ 1 ต.นครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีข้าราชการตำรวจค้ายาบ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 จึงสืบสวนติดตาม กระทั่งทราบว่า ด.ต.จิตรภานุ มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร จึงทำการล่อซื้อยาเสพติดจาก ด.ต.จิตรภานุ ก่อนออกหมายจับและเข้าจับกุมตัวได้พร้อมพวกรวม 2 คน จากนั้น ตรวจยึดทรัพย์สินเป็นอาวุธปืน 3 กระบอก รถยนต์ 3 คัน โฉนดที่ดิน 2 แปลง และอื่นๆรวมมูลค่าประมาณ 7,000,000 บาท

           นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ บก.ปส.3 ได้เข้าตรวจค้นวัดแห่งหนึ่งหลังได้รับการร้องเรียนว่ามีพระมั่วสุมยาเสพติด จากการตรวจค้น สามารถจับกุมพระสงฆ์ 1 รูป ของกลางกัญชา 2 ห่อเล็ก ไอซ์ 1 ห่อเล็ก (ไม่ทราบน้ำหนัก) พร้อมอุปกรณ์การเสพ และตรวจปัสสาวะพบพระสงฆ์มีสารเสพติด 4 รูป จึงดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

           ขณะที่ พล.ต.ท.สมหมาย เปิดเผยว่า ตอนนี้รูปแบบค้ายาเสพติดไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ใช้วิธีเดิมๆ การจับกุมนายฮาร์ปรีท ซิงห์ ถือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการค้ายาเสพติดคนสำคัญที่ทางเจ้าหน้าที่ติดตามพฤติกรรมมานานกว่า 20 ปี โดยก่อนหน้านี้ นายฮาร์ปรีท ซิงห์เคยถูก พล.ต.ต.ทนัย รอง ผบช.ปส. ติดตามเฝ้าดูตั้งแต่ยศ พ.ต.ท. มีการเข้าจับกุมและตรวจยึดทรัพย์ 20 ล้านบาท แต่ไม่สามารถตรวจยึดหรือเอาผิดได้  เนื่องจากไม่เข้าข้อกฎหมายสมัยก่อนซึ่งแตกต่างกับปัจจุบัน ทั้งนี้ นายฮาร์ปรีท ซิงห์ เหมือนเป็นศูนย์กลางของพวกกลุ่มค้ายาเสพติด ทำหน้าที่โอนเงินระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายและฟอกเงินให้ ภายหลังจับกุม ผู้ต้องหารายนี้ ยังคงให้การปฏิเสธ แต่ก็ไม่มีปัญหา หากชี้แจงไม่ได้ว่าทรัพย์สินได้มาอย่างไร ก็จะจำนนต่อหลักฐาน ซึ่งหลักฐานตอนนี้สามารถดำเนินคดีเพิ่มเติม ข้อหา สนับสนุนหรือช่วยเหลือหรือสมคบค้ายาเสพติด ได้แล้ว

           พล.ต.ท.สมหมาย เปิดเผยด้วยว่า แนวโน้มยาเสพติดขณะนี้นับว่าดีขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่มีการจับกุมขบวนการยาเสพติดจำนวนมาก หากมีการจับกุมยาเสพติดได้มากอย่าตกใจ เราทำงานจริง ไม่ใช่จับแต่ตัวยาเสพติด แต่จะตัดเส้นทางการเงินทั้งหมด ถ้ากลุ่มค้ายาเสพติดไม่มีเงินจะยังขายยาเสพติดได้อีกหรือไม่