‘ฐิติราช’ลั่นผิดจริงฟันไม่เว้น ‘ผู้การ-พยาน-กองเชียร์’

          จากกรณีนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี คู่กรณีของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อายุ 62 ปี ข้าราชการเกษียณตำรวจ ที่ฟ้องร้องแย่งกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 หมายเลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ มูลค่า 30 ล้านบาท ในที่สุดเจ้าหน้าที่กองปราบได้ขออนุมัติหมายจับนายปรีชา และนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ในคดีอาญา แต่สุดท้ายผู้ต้องหาทั้งสองก็ได้รับการประกันตัวออกมาตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

          ต่อมาเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวถึงกรณีการดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี (ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี) ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทกรรมสิทธิ์สลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ว่าหากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีความผิดฐานฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จริง พนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องร้องทุกข์ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ก่อนทำสำนวนส่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. ส่วนตำรวจอีก 4 นายที่กันไว้เป็นพยานจะนำไปรวมกับพยานหลักฐานอื่นๆ ยืนยันไม่มีการช่วยเหลือตำรวจด้วยกัน หากพบหลักฐานการกระทำผิดจะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น

(แฟ้มภาพ)
 

          “กรณีตำรวจชั้นผู้ใหญ่มีคำสั่งให้ตำรวจผู้น้อยกระทำผิด เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่จะต้องแก้ไขเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง ขณะที่กลุ่มที่สร้างความวุ่นวายในคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล 30 ล้านบาท จะต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว 2 คน รวมทั้งกลุ่มตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานที่เกิดเหตุ และกลุ่มกองเชียร์ของคู่ความทั้งสองฝั่ง หากพบพฤติกรรมที่มุ่งร้ายให้ผู้อื่นเดือดร้อนจะมีการพิจารณาความผิดอีกครั้ง” พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าว

          พล.ต.ท.ฐิติราชต่อว่า ล่าสุด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจที่เกิดกรณีข้อพิพาทเรื่องลอตเตอรี่ เพื่อวางกรอบการทำงานในคดีเกี่ยวกับสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ชัดเจน โดยจะมีการถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้เกี่ยวกับคดี รวมถึงปรับทัศนคติในการทำงาน เนื่องจากยอมรับว่าที่ผ่านมาตำรวจหลายพื้นที่มีประสบการณ์ในคดีลักษณะนี้ค่อนข้างน้อย จึงต้องนำองค์ความรู้ทั้งหมดมาแลกเปลี่ยนกัน

          พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้า กรณีการดำเนินคดีกับ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี จากกรณีที่เชื่อว่าน่าจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการบิดเบือนสำนวนคดีหวยอลเวง 30 ล้านบาท ระหว่างระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ กับ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลหลักฐานของทางพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อเตรียมนำเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ให้ช่วยดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้คาดว่าไม่น่าเกินสัปดาห์หน้าพนักงานสอบสวนบก.ป. น่าจะส่งเรื่องให้บก.ปปป.ดำเนินการเรื่องดังกล่าว ก่อนจะรวบรวมสำนวนนำเรื่องเสนอต่อป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

(แฟ้มภาพ)
 

          พล.ต.ต.ชาญ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่จะมีการออกหมายจับพยานบุคคลทางฝั่งของครูปรีชาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากอยู่ในดุลพินิจของพนักงานสอบสวน บก.ป. ผู้ทำสำนวนคดีดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคำให้การต่างๆ ของพยาน ทั้งนี้หากพบว่าการให้การของพยานบางคนมีการให้การที่เป็นเท็จก็จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับในทันที

          ด้าน พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบก.ป. กล่าวว่า กรณีการออกหมายจับบุคคลอื่นเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาหรือเตรียมการที่จะออกหมายจับบุคคลอื่นเพิ่มเติมในคดีดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากยังคงต้องรอผลการสอบปากคำพยานบุคคลทางฝั่งของครูปรีชาทั้งรายใหม่และรายเก่าเพิ่มเติมอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดต่อประสานเชิญตัวพยานบุคคลดังกล่าวมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บก.ป.

          ต่อมา พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เปิดเผยหลังประชุมหารือแนวทางการทำงานเกี่ยวกับคดีที่มีตำรวจหลายนายเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีว่า เบื้องต้นพบความผิดปกติในส่วนสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำให้การครูปรีชากับพยานหลายครั้ง ในการบันทึกข้อความในวันที่ 2 ธันวาคม 2560

(แฟ้มภาพ)

          ดังนั้น ทาง ปปป.จึงต้องเรียกทางพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบมาให้ข้อมูลว่าเข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือมีการสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ทำงานโดยปฏิบัติงานอย่างมิชอบหรือไม่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวเจ้าหน้าที่ ปปป.จะเปิดโอกาสให้พนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนคดี ซึ่งถือว่าเป็นผู้ปฏิบัติงานระดับล่างได้มีโอกาสชี้แจงว่ากระทำผิดเองหรือได้รับคำสั่งมา หรืออยู่ในภาวะที่หลีกเลี่ยงมิได้ เพื่อจะได้ขยายผลพบต้นตอของผู้สั่งการให้กระทำความผิดที่แท้จริงมาลงโทษอย่างยุติธรรม อย่างไรก็ตามทาง ปปป.จะดำเนินการอย่างเต็มที่ได้ ต้องรอให้ทางกองปราบฯ ส่งตัวแทนมาร้องทุกข์กล่าวโทษตามระเบียบก่อน คาดว่าภายในช่วงสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น

          ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า มีการเรียกพนักงานสอบสวน 5 นายที่ทำสำนวนคดีหวย 30 ล้าน จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มาสอบสวนที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 6 มีนาคม

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 มีนาคม เพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมของ "นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์" ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ไลฟ์สดพูดถึงกรณีหวย 30 ล้านว่า "แน่ใจว่าคดีนี้ครูปรีชาไม่มีทางชนะ ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา

(แฟ้มภาพ)
 

          บอกเลยว่ายากที่จะชนะ เพราะการสอบสวนครั้งแรกทำโดยมิชอบ อีกทั้งพยานฝั่งครูตอนนี้ได้รับสารภาพแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐ ร.ต.อ. ให้การซัดทอดถึงขั้นตอนต่างๆ ว่ามีการไม่ชอบมาพากล ฉ้อฉลอย่างไร

          ที่สำคัญใครคือไอ้โม่ง งัดลิ้นชักเอาซองพลาสติกใส่ลอตเตอรี่ไป ทางชมรมทราบอยู่แล้วว่าเป็น “คนมีสี” เหนือกว่า “ร.ต.อ.” ไม่มาก บอกใบ้ได้แค่นี้

          ส่วน “เจ๊หอย” ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย จากการสอบสวนและรวบรวมหลักฐานมา มั่วทั้งนั้น ไม่รู้จริงสักอย่าง ที่บอกว่าฟังคลิปเสียงมา ก็มโนทั้งสิ้น วันนี้ไม่อยากจะขุดอะไรอีก เพราะคนอื่นขุดแฉไปกันเยอะแล้ว ไม่อยากให้ราคากับคนแบบนี้

          ผู้สื่อข่าว จ.กาญจนบุรี รายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่งยังคงไปรอสัมภาษณ์ครูปรีชาที่หน้าบ้านพัก เพื่อขอสัมภาษณ์ เมื่อไปถึงพบว่าครูปรีชาได้ขึ้นไปอยู่ภายในรถกระบะพร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์เอาไว้ โดยมีญาติครูปรีชาออกมาเปิดประตูหน้าบ้านรอพร้อมห้ามสื่อมวลชนถ่ายภาพ" นายอัจฉริยะระบุ

 

          จากนั้นครูปรีชาก็ขับรถออกมาแล้วเลี้ยวขวาออกไปทางท้ายซอย ผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่งแต่ไม่ทราบว่าครูปรีชาจะขับรถมุ่งหน้าไปโรงเรียนหรือไปที่ใดกันแน่ ซึ่งครั้งนี้ครูปรีชาได้ขับรถเร็วผิดปกติกว่าทุกครั้ง อีกทั้งครูปรีชาไม่ลดกระจกรถลงมาเพื่อทักทายสื่อมวลชนเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ทำให้สื่อมวลชนไม่มีโอกาสได้สัมภาษณ์