ข่าว

ตร.ลงพื้นที่สอบพระสงฆ์-มัคนายกคลี่ปมทุบหัวแม่ชี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตร.บุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบพระสงฆ์ มัคนายก แม่ค้าภายในวัด และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมเร่งคลี่คลายปมแม่ชีวัย 74 ปี บาดเจ็บสาหัสเช้าวันมาฆบูชา

 

               5 มี.ค. 61  ความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งว่า แม่ชี วัดธรรมธีราราม หรือ วัดป่าหลังโรงเลื่อย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ชื่อ แม่ชีพนิดา อูปทอง อายุ 74 ปี ถูกทำร้ายร่างกายโดยของแข็งทุบที่ศีรษะ อาการสาหัส เหตุเกิดบริเวณหน้ากุฏิ ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เหตุเกิดช่วงเช้าของวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันพระใหญ่ (วันมาฆบูชา) ถึงแม้ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะยังไม่ฟันธงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากการลอบทำร้ายร่างกายหรืออุบัติเหตุ

               แต่ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ก็ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สอบสวน สภ.เมือง ลงพื้นที่สอบปากคำพระสงฆ์ มัคนายก แม่ค้าที่ขายของภายในวัด และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมในการคลี่คลายคดีดังกล่าว ซึ่งจากการลงพื้นที่สอบถามข้อมูลทั้งพระสงฆ์ มัคนายก และแม่ค้า ต่างให้ข้อมูลตรงกันว่า ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ หรือสิ่งผิดปกติอะไร เพราะไม่มีใครได้สังเกต เนื่องจากวันที่เกิดเหตุเป็นวันมาฆบูชา มีพุทธศาสนิกชนเข้ามาทำบุญที่วัดจำนวนมาก ประกอบกับแม่ชีเองปกติก็ไม่ค่อยได้ออกมาสุงสิงหรือทำกิจกรรมอะไรร่วมกับทางวัดอยู่แล้ว โดยเฉพาะหลังจากที่แม่ชีได้ทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการบริหารจัดการรายได้ภายในวัดหรือการอนุญาตให้พ่อค้าแม่ค้านำของไปขายภายในบริเวณวัด ถึงแม้หน่วยงานภาครัฐจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วไม่พบการกระทำผิดตามที่ร้องเรียน จึงไม่มีใครอยากไปยุ่งกับแม่ชี ต่างคนก็ต่างอยู่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหา พร้อมกันนี้ยังได้เร่งติดตามตัวผู้ที่โทรศัพท์ไปแจ้งทางโรงพยาบาลคนแรก เพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริงว่าเกิดจากสาเหตุอะไร

               ขณะที่ล่าสุดอาการของแม่ชีพนิดา ซึ่งยังนอนรักษาตัวอยู่ที่ตึกอารุยกรรมหญิง รพ.บุรีรัมย์ ก็มีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ และเบื้องต้นยังให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถูกทำร้ายโดยการใช้ของแข็งทุบที่ศีรษะด้านหลัง แต่จำหน้าผู้ก่อเหตุไม่ได้ว่าเป็นใคร

               นายธีระวัฒน์ เกษมสุข มัคนายกวัด บอกว่า ในวันเกิดเหตุมีคนเข้า-ออกภายในวัดจำนวนมาก เพราะช่วงนั้นมีงานศพภายในวัด 2 งาน และมีประชาชนมาทำบุญวันมาฆบูชาด้วย ทุกคนก็ต่างทำหน้าที่ของตัวเอง จึงไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น มาทราบอีกทีก็เห็นรถโรงพยาบาลมารับตัวแม่ชีที่กุฏิ กระทั่งมาทราบภายหลังว่าแม่ชีได้รับบาดเจ็บ ก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือถูกทำร้าย จึงไม่ขอให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดีกว่า

               พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า ขณะนี้ก็ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากการลอบทำร้ายหรืออุบัติเหตุ แต่ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปหาข้อมูลหลักฐานในเชิงลึก เพื่อเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าวให้ได้โดยเร็ว และหากพบหลักฐานยืนยันได้ว่าเป็นการทำร้ายร่างกายจริง ก็จะได้นำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ