ทุบหัวยายวัย 84 ปี ชิงเงินสด 61,000 บาท ทองคำหนัก 7 บาท เรียกประชุมชุดสืบสวน เร่งล่าโจรดำเนินคดี
5 มี.ค. 61 ที่ สภ.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ จันทร์ศรี ผกก.สภ.ศรีสงคราม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีสงคราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน บก.ภ.จว.นครพนม ได้นำตัว นางมา เกษมสุข อายุ 84 ปี ผู้เสียหาย หลังถูกคนร้ายชิงทรัพย์ฉกทองคำหนัก 7 บาท และเงินสด 61,000 บาท ไปชี้จุดเกิดเหตุ เพื่อเป็นเบาะแสเร่งติดตามตัวคนร้าย โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา
คุณยายมา กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. ของวันดังกล่าว ขณะตนได้ลุกตื่นมาปั่นจักรยานออกกำลังกายตามปกติ บริเวณถนนภายในหมู่บ้าน มุ่งหน้ามาทางปากซอยเทศบาล 6/1 ถนนศรีสงคราม - ท่าแร่ ต.ศรีสงคราม ขณะมาถึงที่เกิดเหตุห่างปากซอย 30 เมตร ได้มีคนร้ายชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 - 40 ปี ใช้เสื้อยืดปิดบังอำพรางใบหน้า มีหน้ากากอนามัยปิดทับอีกชั้น ตรงดิ่งเข้ามาด้านหลังค้นหาทรัพย์สินในตะกร้าท้ายรถ ก่อนใช้มือขวาล้วงในเสื้อที่สวมใส่ หยิบธนบัตร 61,000 บาท เป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 61 ฉบับ พร้อมกระปุกยาพาราเซตามอล ภายในบรรจุสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 1 เส้น , แหวนทองคำลายมังกร น้ำหนัก 0.5 บาท 2 วง , พระหลวงพ่อคูณเลี่ยมทองหนัก 1 บาท 1 วง รวมมูลค่า 341,000 บาท หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
คุณยายวัย 84 ปี เล่าต่อว่า ขณะที่คนร้ายกำลังชิงทรัพย์ ตนได้พยายามยื้อแย่งทรัพย์สินคืนจากคนร้าย แต่คนร้ายได้ใช้มือซ้ายทุบบริเวณศีรษะตน จนพลัดตกจากรถจักรยานบาดเจ็บ หลังคนร้ายก่อเหตุได้ขับรถจักรยายนต์ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนหลบหนีไปท้ายซอย ซึ่งตนมีอาการมึนบริเวณศีรษะจากการที่ถูกคนร้ายทำร้าย หลังตั้งสติได้จึงพยายามลุกขึ้นและปั่นจักรยานคันดังกล่าวเพื่อไล่ติดตามตัวคนร้าย แต่ปรากฏว่าหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
“หลังเกิดเหตุยายจึงรีบปั่นจักรยานมาพบ นางพวงเพ็ญ จันทรโคตร เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันเพื่อขอความช่วยเหลือ นางพวงเพ็ญ จึงแจ้งให้ นายวิศวะ บุตรชาย ให้ไปบอกเพื่อนบ้านอีกคน โทรศัพท์แจ้ง นายประมวล เกษมสุข บุตรชายของตนทราบ ส่วนเพื่อนบ้านได้นำตัวตนส่ง รพ.ศรีสงคราม ในเวลาต่อมา” คุณยายเหยื่อโจรชิงทรัพย์ ระบุ
ภายหลัง พล.ต.ต.สุวิชาญ สอบปากคำคุณยายมา ผู้เสียหาย โดยละเอียด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมตรวจเก็บดีเอ็นเอของคุณยายมา เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของคนร้ายที่ปรากฏในเสื้อของผู้เสียหาย พร้อมประชุมทีมชุดสืบสวนเพื่อเป็นแนวทาง และหาเบาะแสในการสืบสวนสอบสวน เพื่อจะเร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้ซึ่งทำร้ายได้แม้กระทั่งคนแก่มาดำเนินคดีต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง