ตร.ลั่น"เปรมชัย"ไม่มาพบ5มี.ค.ถอนประกันตัว

     คืบหน้าการดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน บุกลักลอบฆ่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี โดยกลุ่มองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์สัตว์ป่าได้เคลื่อนไหวเรียกร้องให้เร่งดำเนินคดีเพราะไม่มีความคืบหน้าและหวั่นเกรงว่าจะมีการช่วยเหลือกันนั้น

     ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทส. เป็นประธานการจัดประชุมคณะกรรมการติดตามคดีการล่าสัตว์ป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมด้วย พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ รองผบช.ภ.7 และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง

     พล.อ.สุรศักดิ์ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้ตระหนักถึงกระแสสังคมที่มีความร้อนใจในคดีของนายเปรมชัย ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนและสังคม ซึ่งทส.ก็ร้อนใจไม่แพ้กัน เนื่องจากคดีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับทรัพย์สมบัติของประเทศชาติ ทั้งนี้ในที่ประชุมได้หารือ 3 ประเด็นหลัก คือ 1.เรื่องพนักงานสอบสวนว่าทางกระทรวงจะสามารถให้ข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมได้ตรงไหนบ้าง 2.เรื่องของการพิสูจน์หลักฐาน ยืนยันว่าหลักฐานที่มีแน่นหนา มีหลักฐานเพิ่มเติมครอบคลุมทั้ง 9 ข้อหาที่แจ้งความไปแล้ว 3.เรื่องนิติวิทยาศาสตร์ พบว่าซากเสือดำที่ตรวจพบนั้นถูกล่าโดยนายเปรมชัยและพวกอย่างแน่นอน รวมทั้งอาวุธปืนที่ถือเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ปลอกกระสุนที่พบในตัวเสือดำเป็นลูกปรายจากปืนลูกซองจำนวน 8 เม็ด และปลอกกระสุนที่พบในบริเวณดังกล่าวมาจากปืนกระบอกเดียวกัน ดังนั้นข้อมูลหลักฐานทุกอย่างมีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กัน มีการทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน จากนี้กระทรวงจะเร่งรัดดำเนินคดีกับนายเปรมชัยและพวกโดยเร็ว

     ทั้งนี้ตำรวจภาค 7 ได้ออกหมายเรียกนายเปรมชัยและพวกให้มารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 5 มีนาคม ถ้านายเปรมชัยและพวกไม่มา ตำรวจก็จะขอหมายศาลให้ถอนประกัน เพื่อไม่ให้มีการปล่อยตัวเป็นการชั่วคราวอีกต่อไป จากนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามนายเปรมชัยและพวกมาดำเนินคดีต่อไป

     ด้าน พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวต่อว่า คดีนายเปรมชัยและพวก พบพยานหลักฐานแน่นหนาตามข้อกล่าวหาทั้ง 9 ข้อ ซึ่งหลักฐานที่พบเพิ่มเติมก็มีความเชื่อมโยงกับหลักฐานที่พบในวันแรก ทั้งอุปกรณ์ดักสัตว์ อาวุธปืน ยืนยันว่าหลักฐานทั้งหมดเชื่อมโยงว่ามีจุดประสงค์เพื่อเข้าไปล่าสัตว์ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าซึ่งมีการเตรียมการเข้ามาอย่างชัดเจนและมีหลักฐานที่ปรากฏเห็นชัดว่าพกอาวุธเข้าไปในป่า กรณีแบบนี้ผู้ถูกกล่าวหาคงดิ้นหลุดไม่ได้แต่ต้องดูว่านายเปรมชัยและพวกจะแก้ข้อกล่าวหาอย่างไรบ้าง ซึ่งตนเชื่อว่าในวันที่ 5 มีนาคม นายเปรมชัยจะมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียก เพราะหนีไปก็ไม่มีประโยชน์

     ส่วนกระแสสังคมที่มีประเด็นเปรียบเทียบระหว่างคดีของชาวบ้านที่นำซากหมีควายมากินแกล้มเหล้ามีการดำเนินคดีอย่างรวดเร็วผิดกับคดีของนายเปรมชัยที่ดูว่าล่าช้านั้น ไม่เกี่ยวกับคนรวยหรือคนจน เพราะทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันตามหลักรัฐธรรมนูญ โดยตามกระบวนการกฎหมายจะให้สิทธิ์ประกันตัวอยู่แล้ว เพียงแต่ชาวบ้านไม่มีเงินในการประกันตัว

     ผู้สื่อข่าวถามถึงสังคมตั้งคำถามคดีนายเปรมชัยมีความล่าช้าหรือไม่ พล.ต.อ.จรัมพร ชี้แจงว่า ตำรวจทำตามขั้นตอนอย่าไปนโมหรือจินตนาการเอาเอง ตำรวจสอบปากคำผู้ต้องหาตั้งแต่วันแรกและจำเป็นต้องเรียกเจ้าหน้าที่มาสอบถามเพิ่มเติมเพราะเป็นผู้ที่จับกุมและพบเห็นการกระทำผิด ทั้งนี้ก็เพื่อให้พยานหลักฐานแน่นหนาขึ้น ยืนยันหลักฐานทำอย่างเชื่อมโยงกันหมดทั้งพฤติกรรมรวมทั้งตรวจซากเนื้อสัตว์ก็พบว่าเป็นเสือดำทำอาหารเป็นซุปเสือดำ ส่วนคดีติดสินบนเจ้าหน้าที่ซึ่งมีการระบุว่าไม่ใช่เสียงนายเปรมชัยนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้ต้องไปถาม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.

     ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า จากการตรวสอบสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเองาช้างที่ตรวจยึดได้จากบ้านพักของนายเปรมชัย จำนวน 4 กิ่ง หรือ 2 คู่นั้น นิติวิทยาศาสตร์ของกรมอุทยานได้แจ้งผลมาแล้วว่าเป็นงาช้างจากแอฟริกา ถือเป็นการครอบครองงาช้างที่ผิดกฎหมายชัดเจน ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และกฎหมายอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส หลักจากนี้จะแจ้งความเพิ่มเติมข้อหาครอบครองงาช้างผิดกฎหมาย

     ขณะที่ พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ รองผบช.ภ.7 กล่าวว่า ได้ออกหมายเรียกให้นายเปรมชัยและพวก วันที่ 5 มีนาคม ถ้าไม่มาตำรวจจะขอหมายศาลเพื่อถอนประกัน ส่วนที่ผ่านมานายเปรมชัยยังไม่เคยติดต่อมาและไม่ทราบว่าขณะนี้นายเปรมชัยอยู่ที่ไหน แต่เชื่อว่าน่าจะอยู่ในประเทศ

ฉบับ นสพ.คมชัดลึก