"จักรทิพย์"แถลงหวย30ล้านไม่ชัดใครเจ้าของ

 

         ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์  2561 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. พล.ต.ต. ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบช.ก. พล.ต.ต. ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พล.ต.ต. กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. พล.ต.ต. ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. พล.ต.ต. ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.พฐก. พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.วน. พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษก ตร. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงความคืบหน้าคลี่คลายคดีหวย 30 ล้าน บาท ที่เป็นข้อพิพาทระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังษี จังหวัดกาญจนบุรี ที่ต่างฝ่ายต่างแสดงความเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าว

 

         พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว่า เรื่องนี้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) และกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) รับผิดชอบคดีอาญา ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และหลังจากนั้นมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา1คณะโดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผบช.ก. เป็นหัวหน้า ได้เร่งทำงานไม่ได้หลับไม่ได้นอน ลงพื้นที่แสวงหาพยานหลักฐาน ฝ่ายสืบสวน ฝ่ายสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ใช้เวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์เศษๆ ก็มีความคืบหน้าต่อเนื่อง

        ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า คดีหวย30ล้านนี้เป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชน เป็นคดีความระหว่างครูปรีชากับ ร.ต.ท.จรูญ คู่กรณี เป็นทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง สังคมเกิดความสงสัยว่าใครคือเจ้าของครอบครองสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวกันแน่ ตนจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามในทุกประเด็น และจะสงวนบางประเด็นที่อาจจะกระทบต่อรูปคดี ยืนยันความถูกต้อง ความเป็นธรรมต้องมีในสังคม ตำรวจจะเป็นหลักประกันให้พี่น้องประชาชนที่ไม่ได้รับความเดือดร้อนต่างๆ ตำรวจมีหน้าที่ดำเนินคดีอาญา

        "ส่วนเรื่องคดีแพ่ง คู่กรณีไปฟ้องร้องกันเอง ตำรวจไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องและไม่กล้าก้าวล่วงในส่วนตรงนั้น และไม่มีหน้าที่ไปชี้ว่าใครคือเจ้าของที่แท้จริง เป็นเรื่องทางแพ่งว่าใครคือเจ้าของ ใครคือผู้ครอบครอง"ผบ.ตร. กล่าว

 

         ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า สำหรับคดีอาญาที่ สภ.เมืองกาญจน์ฯนั้น ครูปรีชา ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ร.ต.ท.จรูญ ว่ายักยอกทรัพย์และลักของโจร หลังจากนั้นไปฟ้องศาลแพ่งที่เมืองกาญจน์ ต่อมา ร.ต.ท.จรูญ ได้ไปแจ้งความกับครูปรีชา ในข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จต่อครูปรีชา ซึ่งตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ผู้สื่อข่าวทุกแขนงสนใจอะไรๆเป็นอะไร และจะจบอย่างไร

          ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า หลังจากนั้น สภ.เมืองกาญจน์ ก็ทำหน้าที่สอบสวน โดยให้ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 หลักจากนั้น ร.ต.ท.จรูญ ไม่ได้รับความเป็นธรรมที่ สภ.เมืองกาญจน์ หลังถูกกล่าวหายักยอกทรัพย์ ลักของโจร พนักงานสอบสวนสอบ พยานไปประมาณ 45 ปาก ฝั่ง ร.ต.ท.จรูญ สอบพยานไป5 ปาก เขาเชื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงมาพบ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ประมาณต้นเดือนธันวาคม 2560 หลังจากนั้น ผบช.ก.ได้ทำหนังสือหารือมายังผมว่าคดีนี้พี่น้อง ประชาชนให้ความสนใจ คดีมีความสลับซับซ้อน

        พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อไปว่า ที่โอนสำนวนมาคือคดีอาญา ที่คู่กรณีทั้งคู่จะถือว่าเป็นมวยถูกคู่ก็ได้ ก็ว่าไป จะเปรียบยังไงให้เห็นภาพชัด เอาเป็นว่ากีฬามีแพ้ มีชนะ มีเสมอ แต่เรื่องนี้มีแพ้ มีชนะ แต่ไม่มีเสมอ มีแต่ติดคุก ไม่มีเสมอแน่นอน คดีที่อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ต้องมีความเป็นธรรม ถูกต้อง อยากจะฝากเป็นอุธาหรณ์ ประเทศไทยมีคดีในลักษณะแบบนี้มีด้วยกัน5 คดี

 

        "ผมเชื่อว่าคดี นี้น่าจะเป็นคดีสุดท้ายสำหรับผู้ที่อยากทุจริต โกง หรือวางแผนอะไรก็แล้วแต่ ขอให้เป็นคดีนี้เป็นตัวอย่าง ในส่วนของตำรวจตนเห็นว่า บช.ก. และ บก.ป. ทำหน้าที่สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ส่วนผู้ร่วมขบวนการขณะนี้มีเพียง2ราย ที่ศาลอนุมัติหมายจับ ตามที่คณะทำงานของ บช.ก.ได้สืบสวน วันนี้ครูปรีชา จะสู้ต่อก็ได้ สู้คดีกันไป ไม่ได้ปิดหรือไม่ตัดสิทธิ์เขาส่วนกรณีที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ผบ.ตร. กล่าวว่า ประเด็นนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ก็ยังไปไม่ถึง ใจเย็นๆ "พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว

         ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปคดีนี้ตำรวจชี้มูลว่าใครถูกใครผิด ผบ.ตร. กล่าวว่า ก็ออกหมายจับแล้วก็ได้จับกุมตัวแล้ว ข้อหาแจ้งความเท็จคดีอาญา

         ถามต่อว่า จนถึงขณะ ร.ต.ท.จรูญ คือเจ้าของล็อตเตอรีตัวจริงใช่หรือไม่ ผบ.ตร. ตอบว่า ก็ยังไม่ทราบ ตนบอกแล้วไง เดี๋ยวจะอ่านฎีกาให้ฟัง

 

          พร้อมกันนี้ ผบ.ตร. ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ที่2578/2530 ว่า "เงื่อนไขการรับรางวัลที่ได้ระบุไว้หลักสลากกินแบ่งทุกฉบับว่า เงินรางวัลจะจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับ ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่มีไว้แจกจ่ายเงินให้กับผู้ถือสลาก ที่แท้จริง ป้องกันการทุจริต แอบอ้างมารับเงิน เพื่อให้มีหลักฐานในการจ่ายเงินแก่ผู้ถูกรางวัลเท่านั้น และอ่านคำวินิจฉัย คำสั่งคำสั่งอัยการสูงสุด ชี้ขาดไม่ฟ้องคดี ว่า​สลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ใช่ทรัพย์มีทะเบียน ผู้ใดครอบครองย่อมเป็นเจ้าของ โดยไม่ต้องจัดให้มีการลงชื่อก่อนซื้อ เหมือนกู้เงินสหกรณ์หรือการเข้าพักโรงแรม จึงระบุตัวผู้ซื้อและขายจำเพาะเจาะจงได้ยาก แม้ซื้อมาแล้วก็แบ่งหรือขายให้ผู้อื่นได้ ไม่จำต้องขออนุญาตเหมือนอาวุธปืน ซึ่งทรัพย์เมื่อตกหล่นสูญหาย เจ้าของทรัพย์ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวยเป็นชุดหลายใบ เจ้าของอ้างว่าจำหมายเลขได้ มีภาพถ่ายแต่เมื่อไม่ปรากฏว่ามีการแจ้งความลงหมายเลขสลากและหมายเลขชุดสลากไว้ก่อน กลับแจ้งความในภายหลังจากที่ ประกาศผลรางวัลแล้วคดีจึงมีเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของสลากและได้ทำสลากหายจริงหรือไม่ เมื่อไม่มีพยานอันหนักแน่นเพียงพอ ผู้ครอบครองสลาก จึงเป็นผู้มีสิทธิดีกว่า ประกอบกับด้านหลังสลาก มีคำเตือนระบุว่า จะจ่ายเงินรางวัลแก่ผู้ครอบครองสลากเท่านั้น จึงไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอว่า ผู้ครอบครองสลาก ได้สลากมาโดยมิชอบ จึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง นี่คือตัวอย่างเปรียเทียบเพื่อให้เข้าใจง่าย" ผบ.ตร. กล่าว

         ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ากรณีนี้ ร.ต.ท.จรูญ เป็นเจ้าของรางวัล ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่รู้ ตนอ่านฎีกาให้ฟังเฉยๆ ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง

         ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จนถึงขณะนี้ตำรวจสามารถพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าใครเป็นคนซื้อสลากฯและมีการทำหายจริงหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ให้ไปถามศาลแพ่ง ศาลแพ่งกับศาลอาญาคนละเรื่อง ตนไปก้าวล่วงศาลแพ่งไม่ได้ ให้รอดูต่อไป

        ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าการสืบสวนสามารถพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าใครเป็นผู้ซื้อล็อตเตอรี่ แล้วล็อตเตอรี่มีการหายหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า ผมบอกแล้วไงถ้าพวกท่านเข้าใจแบบท่านชูวิทย์ผมสบายใจ คือศาลแพ่งกับศาลอาญาเป็นคนละเรื่องกัน ผมไปก้าวก่ายไม่ได้     

        ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าอย่างนั้นจะมีการทำเป็นขบวนการหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า ผมบอกแล้วให้รอดูต่อไป ส่วนวันนี้ออกหมายจับแค่ 2 คน

         เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีกระแสว่าตำรวจมีการทำสำนวนผิดพลาดมีการแก้ไขสำนวนนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า ก็เป็นอีกเรื่อง "ผมเอาเรื่องที่โอนสำนวนมา ส่วนกรณีที่มีการย้ายนายตำรวจเข้ามาเนื่องจาก เกรงว่าจะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน หากเขาอยู่ในพื้นที่ อย่างไรก็ตามคำถามใดที่จะไปกระทบต่อสำนวนผมขอสงวนไว้"

 

         พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า ผมขอยกคำสั่งของอัยการสูงสุด ที่ระบุว่า “สลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ใช่ทรัพย์มีทะเบียน ผู้ใดครอบครองย่อมเป็นเจ้าของ โดยไม่ต้องจัดให้มีการลงชื่อก่อนซื้อเหมือนกู้เงินสหกรณ์ หรือการเข้าพักโรงแรม จึงระบุตัวผู้ซื้อและขายจำเพาะเจาะจงได้ยาก แม้ซื้อมาแล้ว ก็แบ่งหรือขายให้ผู้อื่นได้ ไม่จำต้องขออนุญาตเหมือนอาวุธปืน ซึ่งทรัพย์เมื่อตกหล่นสูญหาย เจ้าของทรัพย์ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หวยเป็นชุด หลายใบ เจ้าของอ้างว่าจำหมายเลขได้ มีภาพถ่าย ยิ่งเป็นการแจ้งความไว้จำเพาะเจาะจง พิสูจน์ได้ง่าย เมื่อไม่ปรากฎว่ามีการแจ้งความลงหมายเลขสลากและหมายเลขชุดสลากไว้ก่อน กลับมีการแจ้งความในภายหลังจากที่สลากประกาศผลรางวัลแล้ว คดีจึงมีเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของสลากและได้ทำสลากหายจริงหรือไม่ เมื่อไม่มีพยานอันหนักแน่นเพียงพอ ผู้ครอบครองสลากจึงเป็นผู้มีสิทธิดีกว่า ที่ผมยกมาเพราะอยากให้นำไปคิดกันเอง จะบังคับให้ผมพูดชี้ซ้ายชี้ขวาผมไม่พูด ผมไม่สามารถก้าวก่ายศาลได้"

         ผู้สื่อข่าวถามถึงสำนวนของตำรวจภูธรภาค 7 ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อมีความผิดพลาดในส่วนใดบ้าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เดี๋ยวจะต้องไปดูพยานหลักฐานว่าเกี่ยวข้องตรงไหนอย่างไร เรื่องนี้คงไม่จบในวันสองวัน ผมก็ทำตามสัญญาแล้วว่าวันที่ 28 ก.พ. เวลา 13.00 น. เจอกัน ผมไม่ได้บิดพลิ้ว ไม่ได้เกี่ยงงอนหรืออะไร มีนักข่าวบางคนบอกผบ.ไม่กล้าออกมาพูดหรอก เรื่องของประชาชนเดือดร้อน ผมจะหดหัวอยู่ได้อย่างไร คดีแบบนี้ผมบอกได้เลยว่าเป็นอุทาหรณ์

          เมื่อถามว่ากระบวนการของกฎหมายเรื่องการอายัดเงินจะต้องดำเนินการต่ออย่างไร พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เดี๋ยวก็มีกระบวนการขั้นตอนอยู่แล้ว จึงถามต่อว่า เมื่อมีการจับกุมตัว 2 คนแล้ว จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ก็จะต้องดำเนินการสอบสวนต่อ เข้าสู่กระบวนการ ให้ใจเย็นๆ

         เมื่อถามว่าหลังจากที่มีคำสั่งให้พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี มาช่วยราชการได้มีการการพูดคุยกันบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ผมยังไม่ได้คุย ต่างคนต่างทำหน้าที่ไป เขาก็มาทำงานที่ศปก.ตร. ส่วนผมก็ทำงานตามปกติ

        เมื่อถามต่อว่าจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า หลังจากนี้ไง อย่าใจร้อนถามต่ออีกว่าเมื่อผลออกมาอย่างนี้ทางกองปราบกับทางภาค 7 ผลออกมา คนละเรื่องกัน จะบั่นทอนความน่าเชื่อถือของหน่วยงานหรือไม่

         พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า ไม่หรอก บางครั้งมันเป็นเรื่องความยากง่ายของประสบการณ์ของตำรวจแต่ละคนแต่ละพื้นที่ ขีดความสามารถ แต่อะไรที่ผิดเพี้ยนไปก็มีกระบวนการของมันอยู่แล้ว ทุกคดีผมก็เอาออกไปตั้งเยอะแล้วที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา หรือแม้กระทั่งคดีอะไรก็ตาม

 

         ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีประเด็นว่าตำรวจได้เชิญครูปรีชาและหมวดจรูญไปเจรจากันนั้นพล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า การพูดหรือเจรจา ผมไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่มีกระบวนการในการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่แล้วไม่ต้องเป็นห่วง ยุคผบ.แป๊ะ ไม่มีมวยล้มต้มคนดู อย่างไรก็ตามจะต้องว่าไปตามพยานหลักฐานของคดี คดีที่โอนมา ผมบอกแต่แรกแล้วว่าคดีแยกเป็นคดีแพ่งกับคดีอาญา ซึ่งผมทำคดีอาญา

         ผบ.ตร. ยังกล่าวอีกด้วยว่า ขณะนี้เพิ่งเริ่มต้น พนักงานสอบสวนไม่ได้หยุดทำงานเพียงเท่านี้ ต้องมีการขยายผลไปอีก ซึ่งตนได้ยืนยันไปแล้วว่ายุคผมไม่มีมวยล้มต้มคนดู แล้วผมจะเชิญตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจกองปราบมานั่งติดอาร์ม “เป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน” ได้อย่างไร

         เมื่อถามว่าคดีนี้มีการสอบพยานไปกว่าสี่สิบปากจะมีพยานเท็จที่จะต้องดำเนินคดีหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า อยู่ในกระบวนการที่จะต้องดำเนินการอยู่แล้ว เราก็ไม่ได้ตัดสิทธิ์ครูปรีชาในการดำเนินคดี ถ้าครูปรีชาสู้มีพยานหลักฐานเพียงพอก็ต้องไปว่ากันตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนเรื่องการอายัดเงิน 30 ล้านบาทก็อยู่ในขั้นตอนต่อไปที่จะดำเนินการอยู่แล้ว เงินคงไม่หายไปไหน เพราะตำรวจทำงานในทุกมิติ คดีนี้เป็นคดีใหญ่ที่ประชาชนให้ความสนใจ

         นอกจากนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกด้วยว่า เรื่องนี้ไม่ถึงกับต้องฝากเตือนประชาชนแต่ต้องให้รอบครอบ ให้ใส่เลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด ชื่อพ่อแม่ หรือใส่อะไรก็ได้ที่เป็นหลักฐานของตัวเอง หรืออาจจะถ่ายเอกสารเก็บไว้ เพื่อให้สามารถพิสูจน์ได้

         ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้ และอยู่ในชั้นศาล ถ้ากล่าวรายละเอียดมากไปอาจจะส่งผลกระทบต่อสำนวน อาจจะมีผู้ได้เสียทางคดี เรื่องที่เกิดขึ้น ร.ต.ท.จรูญ ให้การกับตำรวจโดยไม่มีอะไรอ้างอิงได้เลย ไม่ว่าจะเป็นพยานหลักฐานใดๆทั้งสิ้น

------//------