ข่าว

"เปรมชัย"ส่อหลุดคดีติดสินบน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปปป.เผยคลิปติดสินบนเจ้าหน้าที่ไม่ใช่เสียง “เปรมชัย” เชิญ “วิเชียร”-พวกให้ปากคำเพิ่มเติม 8 มี.ค. ด้าน “ศรีวราห์” ยันคดีคืบ 80%  ขณะที่นายกฯสั่งทำคดีตรงไปตรงมา

    ความคืบหน้ากรณีนิสิตคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีให้เร่งรัดคดีกรณีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) และพวกรวม 4 คน ร่วมกันลักลอบล่าสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี ล่าสุดผลการตรวจสอบคลิปเสียงติดสินบนเจ้าหน้าที่ได้เสร็จสิ้นแล้ว

      วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) กล่าวว่า ขณะนี้พยานหลักฐานข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ เนื่องจากคลิปเสียงที่ปรากฏไม่ใช่เสียงของนายเปรมชัย และเนื้อหาเป็นเนื้อหาการสนทนาทั่วไป โดยนายยงค์ โดดเครือ หนึ่งในผู้ต้องหาสนทนากับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ โดยมีนายปิยะพงษ์ สืบเสน เจ้าหน้าที่เป็นผู้บันทึกเสียงไว้ ซึ่งเป็นการสนทนาหลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และได้นำคลิปเสียงให้สื่อมวลชน ก่อนจะมีการลบออกจากโทรศัพท์ 

     “คลิปเสียงไม่ได้หาย และในวันที่ 8 มีนาคมนี้ เจ้าหน้าที่ได้เชิญนายวิเชียร ชินวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร กับพยานอีก 5 คนมาให้ปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะมีการประชุมสรุปว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ในวันที่ 12 มีนาคม” พ.ต.อ.วัชรินทร์ ยืนยัน

"เปรมชัย"ส่อหลุดคดีติดสินบน

     ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันเดียวกัน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายเปรมชัยและพวก โดยระบุว่า ขณะนี้ยังคงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และขอยืนยันว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้ทำคดีล่าช้าเนื่องจากมีเวลาสรุปสำนวนคดี 7 ผัด และขณะนี้คดีมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 80 แล้ว มีการสอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 30 ปาก เป็นเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ พยานแวดล้อม และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ มั่นใจสามารถสรุปสำนวนคดีล่าสัตว์ป่าฯ และข้อหาอื่นๆ รวม 10 ข้อหา ให้พนักงานอัยการได้ก่อนครบกำหนดฝากขัง ครั้งที่ 4 ในวันที่ 24 มีนาคมนี้อย่างแน่นอน

     ส่วนการออกหมายเรียกให้นายเปรมชัยมาให้ปากคำในวันที่ 5 มีนาคม ที่ สภ.ทองผาภูมิ หากนายเปรมชัยไม่เดินทางมา พนักงานสอบสวนจะรายงานศาลให้ทราบ พร้อมขอให้ศาลพิจารณาออกหมายจับ เนื่องจากเป็นการขัดหมายเรียกครั้งที่ 2 ระหว่างได้รับการประกันตัว 

    พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังกล่าวถึงกรณีมีการแชร์ในโซเชียลมีเดียว่าข้อหาทารุณกรรมสัตว์ที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายเปรมชัย โดยต่อมาได้หลุดข้อหาดังกล่าวไม่มีการดำเนินคดีนั้น ขอชี้แจงว่าข้อหาดังกล่าวไม่ได้หลุดแต่เนื่องจากข้อหานี้ไม่มีในข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ 2557 จึงได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนไปพิจารณาว่าผู้ที่ร้องทุกข์กล่าวโทษเข้าข่ายมีเจตนากลั่นแกล้งหรือแจ้งความเท็จหรือไม่ 

     วันเดียวกัน มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้ออกแถลงการณ์จัดเวทีสาธารณะ “1 เดือนความคืบหน้า คดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ 61” โดยระบุว่า จากเหตุการณ์นายเปรมชัย กับพวก 4 คน ถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกเข้าจับกุมขณะตั้งแคมป์ในพื้นที่หวงห้ามของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และตรวจพบซากเสือดำ ซากไก่ฟ้าหลังเทา ซากเก้ง อาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมาก เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ขณะนี้เวลาได้ล่วงเลยมาเกือบครบ 1 เดือนแล้ว แต่การดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดกลับยังคลุมเครือขาดความชัดเจน และมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อออกไป ไม่เป็นไปตามบรรทัดฐานที่ควรเป็น

     ดังนั้น มูลนิธิฯ ในฐานะองค์กรอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ติดตามความคืบหน้าคดีนี้มาโดยตลอดจึงจัดกิจกรรมเวทีสาธารณะขึ้นเพื่อติดตามคดีและมูลนิธิฯ จะออกแถลงการณ์เพื่อทวงถามความคืบหน้าพร้อมเปิดเวทีพูดคุยวิเคราะห์การดำเนินคดีนี้ร่วมกับเครือข่ายองค์กรอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อมและจะมีกิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อติดตามความคืบหน้าร่วมกับเครือข่ายองค์กรอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อมในเดือนมีนาคมตลอดทั้งเดือน 

     สำหรับเวทีสาธารณะ “1 เดือนความคืบหน้า คดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ 61” จะจัดขึ้นในวันที่ 5 มีนาคม เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ทั้งนี้ สามารถร่วมชมการถ่ายทอดสดกิจกรรมดังกล่าวได้ที่ www.facebook.com/SeubNakhasathienFD

"เปรมชัย"ส่อหลุดคดีติดสินบน

     พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงคดีนายเปรมชัยว่า ต้องมองขั้นตอนการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ เช่น คดีการฆ่าสัตว์ ซึ่งเป็นคดีที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)ฟ้องร้องแล้วหลายคดี ซึ่งเป็นขั้นตอนของตำรวจที่จะต้องไปสืบสวนหาหลักฐานในส่วนของวัตถุพยาน และพยานบุคคล เพื่อนำไปสู่การทำสำนวนคดีให้อัยการสั่งฟ้อง จากนั้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งศาลยุติธรรมก็จะมีทนาย รัฐคืออัยการ ทนายก็มาแก้ต่าง ในหลายคดีก็สู้กันแบบนี้

    “ผมถึงบอกว่าอย่าไปคาดการณ์ล่วงหน้าว่าคนจะทุจริต จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย เรื่องของกระบวนการยุติธรรม เอาคดีนี้ไปเทียบอีกคดี บางทีก็ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าคนรวยติดคุก ไม่ติดคุก เป็นคนละเรื่องกัน อย่าไปทำอย่างนั้น สังคมจะปั่นป่วน ก็ขอให้เชื่อมั่น ผมได้กำชับไปทางทส. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าให้ดำเนินการตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่ทุกเรื่องรัฐบาลสั่ง เหลืออย่างเดียวผมต้องไปฟ้องเอง เป็นอัยการเอง เป็นตำรวจเอง เพราะทุกคนคาดหวังกับผมทั้งนั้น แต่ผมก็พยายามทำหน้าที่ในกรอบอำนาจของผมอย่างเต็มที่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ฉบับ นสพ.คมชัดลึก

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ