โจรงัดบ้านเจ้าของบ่อปลา สูญกว่า 3 แสน

           เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วรากุล โกมโลทก รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุลักทรัพย์ที่บ้านเลขที่ 92/1 หมู่ที่ 1 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ มีทรัพย์สินสูญหายหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางเข้าตรวจสอบ

           ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ได้พบนางสาวประไพ จันทปัญญา อายุ 47 ปี ผู้เสียหายยืนรออยู่หน้าบ้าน ก่อนพาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในห้องนอนของตนเอง ซึ่งพบว่าถูกลื้อค้นจนข้าวของกระจายเต็มพื้นห้องโดยเฉพาะภายลิ้นชักตู้เสื้อผ้าซึ่งถูกคนร้ายใช้ของแข็งงัดเปิดอ้าอยู่ ซึ่งภายในเก็บทรัพย์สินเป็นเงินสดกว่า 1 แสนบาท สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท อาวุธปืนขนาด 9 มม. มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอกหลบหนีไป โดยที่คนร้ายไม่แตะต้องเงินกองผ้าป่าที่มีเงินสดติดอยู่หลายพันบาท รวมถึงตู้บริจาคที่มีเงินสดอยู่กว่า 1 หมื่นบาทแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบพบว่าเหล็กดัดหน้าต่างของห้องนอนที่ถูกก่อเหตุ ถูกคนร้ายใช้คีมตัดเหล็ก ตัดเหล็กดัดจนขาดเป็นช่องโหว่ขนาดที่ตัวคนมุดเข้ามาก่อเหตุ

           โดยนางสาวประไพ ผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ที่บ้านตนได้ปิดบ่อเลี้ยงปลาจับปลาไปขายได้เงินสดมากว่า 1 แสนบาท แต่ยังไม่ได้เอาฝากธนาคาร จึงเก็บไว้ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้ารอว่าวันจันทร์ จะเอาไปฝากธนาคาร โดยก่อนเกิดเหตุตนและครอบครัวได้ออกไปช่วยงานแต่งเพื่อน ในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. และกลับเข้ามาบ้านเวลาประมาณ 21.30 น. เมื่อเปิดประตูห้องนอนพบว่าถูกลื้อค้นจนข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนห้อง จึงรีบเข้าไปตรวจสอบลิ้นชักที่เก็บทรัพย์สินเอาไว้ปรากฎว่าถูกคนร้ายงัดเอาทรัพย์สินไปหมดแล้ว โดยคนร้ายใช้คีมตัดเหล็กดัดหน้าต่างเข้ามาก่อเหตุ

           เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวคนภายในบ้านจึงทราบว่าวันนี้ทุกคนจะไม่อยู่บ้านจะต้องออกไปช่วยงานแต่งกันทั้งหมด และรู้ห้องเก็บทรัพย์สิน หลังจากทุกคนออกจากบ้านไปหมดคนร้ายจึงลงมือก่อเหตุ โดยใช้คีมตัดเหล็กดัดหน้าต่างห้องนอนของผู้เสียหายเข้ามากวาดทรัพย์สินภายในห้องดังกล่าวไปโดยที่คนร้ายไม่แตะทรัพย์สินส่วนอื่นๆ เลยเอาเฉพาะในห้องของผู้เสียหายเท่านั้น อย่างไรก็ตามจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายเพื่อใช้เป็นเบาะแสติดตามตัวจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป