ช่วย 3 ด.ญ.ถูกพ่อเลี้ยงบังคับนั่งดูมีเซ็กส์

               23 ก.พ. 61  นายจรูญ พัฒหาญ กำนัน ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับการร้องเรียนจากครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ว่า มีเด็กนักเรียนหญิง 3 คน เล่าให้ฟังว่า ถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย ตบ ตี บ่อยครั้ง และวันนี้รู้ว่าพ่อเลี้ยงจะมานอนค้างที่บ้าน จึงไม่อยากจะกลับบ้าน เกรงว่าจะโดนทุบตีอีก จึงได้ประสาน นางสาวชนัญชิดา สุดรอด พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร ไปตรวจสอบ

               ที่โรงเรียนดังกล่าวพบ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 9 ปี และ ด.ญ.ซี (นามสมมติ) อายุ 7 ปี ทั้งสามเป็นพี่น้องกัน จากการสอบถาม ด.ญ.บี ทราบว่า ด.ญ.บี มักจะโดนพ่อเลี้ยงข่มขู่และบังคับ หากไม่ทำตามก็จะใช้ไม้ตี ใช้มือตบ บีบคอ นอกจากนี้พ่อเลี้ยงชอบบังคับให้ ด.ญ.บี นั่งดูพ่อเลี้ยงมีเพศสัมพันธ์กับแม่ของเด็กๆ และทุกเช้าที่พ่อเลี้ยงมานอนที่บ้าน จะคอยปลุก ด.ญ.บี ตอนเช้ามืด พาเข้าไปในป่า แล้วจะให้ ด.ญ.บี ยืนพื้นที่ต่ำ ส่วนพ่อเลี้ยงจะยืนบนที่สูงแล้วให้หันหลังกลับมาหาในลักษณะเพื่อให้ปากเด็กตรงกับอวัยวะเพศของพ่อเลี้ยง หรือเพื่อให้เด็กดูการช่วยตัวเองของพ่อเลี้ยง แต่เด็กไม่ยอมหันมาจึงถูกบีบคอ ทุบตี และยังบังคับให้ ด.ญ.บี ตี ด.ญ.เอ พี่สาว และ ด.ญ.ซี น้องสาว เป็นประจำ โดยไม่รู้สาเหตุว่าพ่อเลี้ยงต้องการอะไร

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของบ้านพักเด็กได้สอบถามเป็นการเบื้องต้น จึงได้นำตัวเด็กนักเรียนหญิงทั้งสามคนพี่น้อง เดินทางไปลงบันทึกประจำต่อ ร.ต.อ.ชัยณรงค์ สุคะนา รอง สว.สอบสวน สภ.ปากน้ำหลังสวน โดยให้เหตุผลว่าเด็กอยู่ในกลุ่มเสี่ยงถูกละเมิดทางเพศ เนื่องจากแม่เด็กเลี้ยงดูเด็กไม่เหมาะสม ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และจะรับเด็กหญิงทั้งสามคนเข้าคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร ต่อไป

               นางสาวพวงเพ็ญ ใจกว้าง หน.บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร พร้อมนายโชคชัย ว่องกูล นายก อบต.นาขา ได้นำตัวแม่ของเด็กหญิงทั้งสามคนมาสอบปากคำที่ห้องประชุมองค์การบริการส่วนตำบลนาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าฟัง

               จากการสอบปากคำ แม่เด็กได้ให้การปฏิเสธ ไม่เคยกระทำดังกล่าว เชื่อว่าเด็กกุเรื่องขึ้นมาเอง ตนรักลูกและลูกก็รักตน แต่ยินยอมให้ลูกทั้งสามไปอยู่ในการคุ้มครองของบ้านพักเด็ก เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกไว้ และจะให้ทางผู้นำท้องถิ่นเฝ้าตรวจดูพฤติกรรมทั้งสองคน และจะสืบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่ามีการละเมิดหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กได้นำตัวเด็กทั้งสามไปตรวจร่างกาย แต่ไม่พบการล่วงละเมิดทางเพศแต่อย่างใด ซึ่งตามขั้นตอนจะฟื้นฟูสุขภาพจิตใจต่อไป