ข่าว

รวบแล้ว !! ท้าวแชร์สาวตุ๋นเหยื่อลงทุนสูญ 20 ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ จับสาวแสบแชร์ลูกโซ่บ้านสตาซี่ ตุ๋นเหยื่อร่วม 500 คน สูญเงินกว่า 20 ล้านบาท

 

               23 ก.พ. 61  เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) หรือ 191  พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 (ผบก.สปพ.) แถลงผลการจับกุม นางสาวดนิตา หรือ “ดาว” จิตมุ่งมั่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน เป็นนายวงแชร์จัดให้มีการเล่นแชร์ฯ” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณปากซอยนวมินทร์ 2 เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ

 

รวบแล้ว !! ท้าวแชร์สาวตุ๋นเหยื่อลงทุนสูญ 20 ล้าน

 

               พล.ต.ต.ภาณุมาศ กล่าวว่า หลังได้รับการประสานจากสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ว่า ผู้ต้องหาเปิดเพจเฟซบุ๊ก ออมเงินออมทองบ้านสตาซี่ โดยเปิดมาประมาณ 4 - 5 ปี มีสมาชิก 7,000 - 8,000 คน นอกจากนี้ยังมีการตั้งกลุ่มผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ชื่อ บ้านสตาซี่ โดยมีผู้ต้องหาเป็นผู้ดูแล ชักชวนสมาชิกให้เข้าร่วมกลุ่มลงทุนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ แชร์เงิน แชร์ทอง แจกดอกเบี้ยสูง มือละตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสน และยังชักชวนให้ร่วมลงทุนในรูปแบบต่างๆ มากกว่า 100 วงแชร์ ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าจะนำเงินไปลงทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ธนาคาร กองทุน หากสมาชิกร่วมลงทุนจะมีเงินปันผลเป็นจำนวนเงินที่น่าสนใจ พร้อมเงินลงทุนคืนให้ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนจำนวนมาก แต่ไม่ได้รับเงินปันผลตามที่กล่าวอ้าง

 

รวบแล้ว !! ท้าวแชร์สาวตุ๋นเหยื่อลงทุนสูญ 20 ล้าน

 

รวบแล้ว !! ท้าวแชร์สาวตุ๋นเหยื่อลงทุนสูญ 20 ล้าน

 

               น.ส.เอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็น 1 ในผู้เสียหาย ระบุว่า รู้จักผู้ต้องหาผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งมีการโพสต์เชิญชวนให้ร่วมลงทุนออมเงิน โดยมีการนำข้อความมาให้ดูเพื่อความน่าเชื่อถือ พร้อมกับมีการเสนอให้เงินปันผลสูง หากลงทุน 200,000 บาท เมื่อครบ 10 เดือน จะได้เงินปันผล 20,000 บาท จึงตัดสินใจร่วมลงทุนตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 - พฤศจิกายน 2560 เป็นเงิน 300,000 บาท แต่ยังไม่ได้เงินปันผล ผู้ต้องหาก็ปิดบ้านแชร์หลบหนี ขณะที่ผู้เสียหายบางรายได้เงินคืนบางส่วน

 

รวบแล้ว !! ท้าวแชร์สาวตุ๋นเหยื่อลงทุนสูญ 20 ล้าน

 

รวบแล้ว !! ท้าวแชร์สาวตุ๋นเหยื่อลงทุนสูญ 20 ล้าน

 

               เบื้องต้น มีผู้เสียหายประมาณ 400 - 500 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหาได้ขอโทษกลุ่มผู้เสียหาย และรับปากจะหาเงินมาคืนให้

 

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ