พิษหวยผู้การเมืองกาญจน์ลา 2 วัน - ป.หามือแพร่สำนวน

          เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เปิดเผยถึงกรณีมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.ภ.จว.)กาญจนบุรี ปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) จากกรณีทำคดีกรรมสิทธิ์สลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ถูกรางวัลที่่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ว่า สาเหตุที่ย้าย พล.ต.ต.สุทธิ เนื่องจากผลการสืบสวนสอบสวนของคณะทำงานพบว่า พล.ต.ต.สุทธิอาจมีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีหวย 30 ล้าน เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างเป็นธรรมและไม่ให้เข้าไปยุ่งเหยิงกระบวนการรวบรวมวัตถุพยานหรือพยานบุคคล จำเป็นที่จะต้องออกคำสั่งให้มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อน เพื่อให้คณะกรรมการสืบสวนสอบสวน สอบสวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


 

          ผู้สื่อข่าวถามว่า โดยพฤติการณ์ของ พล.ต.ต.สุทธิ เป็นไปตามเอกสารคำสั่งย้ายที่หลุดออกมาหรือไม่ พล.ต.อ.สุชาติกล่าวว่า เรื่องเอกสารคำสั่งที่หลุดออกมา ขอความกรุณาให้สื่อใช้ดุลพินิจนิดหนึ่งว่า เอกสารใดที่เป็นเอกสารของราชการหรือเอกสารลับ ขอให้ตระหนักในเรื่องการเผยแพร่ เพราะอาจจะเข้าข่ายความผิดทางอาญาได้ ขออย่าเผยแพร่เลยดีกว่า

          เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรีหรือไม่ พล.ต.อ.สุชาติกล่าวว่า มีการพูดคุยกันบ้างแล้ว พล.ต.ต.สุทธิขอเลื่อนการเข้ารายงานตัว ให้เหตุผลว่าอยู่ระหว่างปฏิบัติราชการ และอบรมหลักสูตรการบริหารการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมภาครัฐร่วมเอกชน หรือ บรอ. ไม่เกิน 2 วันจะกลับมารายงานตัว
          เมื่อถามว่า เหตุผลในการย้าย พล.ต.ต.สุทธิ ครั้งนี้ชัดเจนแค่ไหน พล.ต.อ.สุชาติกล่าวว่า จะชัดเจนหรือไม่ชัดเจนอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนที่จะต้องสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและมีความเห็น ในระหว่างนี้อย่างที่บอกตอนต้นแล้วว่า เพื่อให้กระบวนการสอบสวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและให้เกิดความเป็นธรรม จะต้องเอาตัว ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ออกจากพื้นที่ก่อน และถ้าผลสอบ พล.ต.ต.สุทธิ ไม่พบความผิดก็สามารถกลับไปดำรงตำแหน่งเดิมได้ แต่ถ้าผลการสอบสวนพบว่ามีความผิดก็ว่ากันไปตามกระบวนการ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอีกหลายนาย ต้องรอผลจากคณะกรรมการของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ก่อนว่า ใครบ้างมีความผิด มีความผิดชั้นไหน และหากมีความผิดแล้ว ในส่วนที่มีความผิดจะดำเนินการทางวินัยอย่างไร

          พล.ต.อ.สุชาติกล่าวต่อว่า ส่วนใครที่เข้าข่ายความผิดทางอาญาต้องว่าไปตามนั้น กระบวนการหลังจากนั้นอาจส่งให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) หรือส่งให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) รับคำร้องทุกข์ดำเนินคดี แล้วส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่นระดับ พ.ต.ท.ลงมา ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ถ้าสูงขึ้นไปกว่านั้นอาจจะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น

          พล.ต.อ.สุชาติกล่าวอีกว่า ส่วนการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องรอผลการสอบสวนจากคณะทำงานบช.ก. สรุปมาก่อน แต่คาดว่าสามารถจะสรุปได้ภายในสัปดาห์นี้

          “ใครก็ตามที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ต้องห่วงว่าเจ้าหน้าที่จะละเว้น แต่ต้องรอทางคณะกรรมการ ต้องรวบรวมพยานหลักฐานอย่างเป็นธรรม และมีเหตุมีผลที่จะชี้มูลความผิดแต่ละคน ตรงนี้ ยังไม่ขอก้าวล่วง ยืนยันว่าเหตุผลในการย้าย พล.ต.ต.สุทธิครั้งนี้มีเหตุผลเดียวเฉพาะเรื่องหวย ไม่มีเรื่องอื่นเกี่ยวข้อง” พล.ต.อ.สุชาติ กล่าว

          เมื่อถามย้ำว่า จากพฤติการณ์ของ พล.ต.ต.สุทธิ มีความผิดที่ชัดเจนแล้วใช่ไหมถึงมีการย้ายเกิดขึ้น พล.ต.อ.สุชาติกล่าวว่า จะมีความผิดชัดเจนหรือไม่ชัดเจนเพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างเป็นธรรม เมื่อประเด็นเริ่มมีมูล แต่จะชัดเจนหรือไม่ต้องเอาตัวมาก่อน เพื่อให้การรวบรวมพยานหลักฐาน สามารถดำเนินการไปได้ ไม่ให้เขาไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ส่วนจะมีส่วนเข้าไปทำให้สำนวนบิดเบี้ยวหรือไม่ ให้คณะกรรมการสอบสวนเป็นผู้ชี้แจง ส่วนจะพลั้งเผลอหรือตั้งใจไม่สามารถตอบได้

 

          วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อ พล.ต.ต.สุทธิทางโทรศัพท์ ทำให้ทราบว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เนื่องจากไปราชการต่างจังหวัด เมื่อสอบถามว่ามีความกังวลหรือไม่กับการที่มีคำสั่งย้ายด่วน พล.ต.ต.สุทธิตอบว่า ไม่มีความกังวล และพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา สำหรับการดำเนินคดีนั้น ขอยืนยันว่าดำเนินการไปพยานหลักฐาน ทำตามระเบียบขั้นตอนกฎหมายโดยข่าวที่ออกมายังไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด

          ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตำรวจนายหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ ร.ต.อ.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองกาญจนบุรี ร้อยเวรเจ้าของคดีหวย 30 ล้านอลเวง ซึ่งนายตำรวจคนดังกล่าวบอกว่า จากการที่ได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อสอบถามเรื่องสารทุกข์สุกดิบทั่วไป ทราบว่าผู้กองจิรยุทธ์นั้นได้ถูกกักตัวเอาไว้เป็นพยาน และจากการพูดคุยพบว่าผู้กองมีความเครียดเป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกกดดันอย่างหนัก และขณะนี้ไม่สามารถติดต่อกับผู้กองได้อีกเลย ดังนั้น เราจึงมีความกังวล และมีความเป็นห่วงผู้กองจิรยุทธ์ เป็นอย่างมาก

          ต่อมาเวลา 14.00 น.ที่ กองปราบปราม นายษิทธา เบี้ยบังเกิด ทนายความของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หนึ่งในผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลมูลค่า 30 ล้านบาท เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีดังกล่าว


 

          นายษิทธา เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้จากการสืบสวนสอบสวนของคณะทำงานของ บช.ก. เชื่อว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนสามารถหาผู้ที่กระทำความผิดในการอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลมูลค่า 30 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน ส่วนที่ประกาศว่ามีพยานหลักฐานใหม่นั้น เบื้องต้นได้ส่งให้ชุดสืบสวนสอบสวนแล้ว ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวลือว่า เจ๊เกียวและเจ๊กุ้ง พยานที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวจะเข้าให้ปากคำต่อตำรวจที่กองปราบปรามนั้น ก็ฝากเตือนไปยังทั้งสองคนว่าให้ระมัดระวัง เพราะเดี๋ยวไลน์ปลอมที่มีอยู่จะหลุดออกมาจนทำให้มีผลต่อรูปคดี

          นายษิทธา กล่าวต่อว่า ขอยืนยันว่าก่อนที่จะขึ้นศาลแพ่ง ไม่ได้นัดคุยไกล่เกลี่ยกับด้านครูปรีชาอย่างที่เป็นกระแสข่าว เคยเจอเพียงครั้งเดียวที่โรงเรียน และตามรายการต่างๆ ซึ่งในส่วนของความชัดเจนขอให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นคนแถลงในวันที่ 28 กุมภาพันธ์

          ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. กล่าวว่า ยืนยันเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีสลากกินแบ่งรัฐบาลมูลค่า 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล และครูปรีชา ใคร่ครวญ ซึ่งเป็นเอกสารที่ประทับตรา "ลับ” ที่หัวกระดาษไม่ได้หลุดจาก บช.ก. เนื่องจากไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้เอกสารหลักฐานดังกล่าวทราบไปถึงคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะมีผลต่อรูปคดีและการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ อีกทั้งไม่ทราบว่าเอกสารดังกล่าวหลุดมาจากหน่วยงานใดที่นอกเหนือจาก บช.ก. ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการติดตามว่าเอกสารดังกล่าวหลุดออกมาจากขั้นตอนใด

          ส่วนความเคลื่อนไหวใน จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลา 07.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านพักของนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยครูปรีชาเปิดเผยถึงกรณีที่มีการสั่งย้าย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ว่าขอตรวจสอบข่าวดังกล่าวก่อน ต้องรอความชัดเจนของข่าวก่อนว่าข่าวดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ ชัดเจนหรือไม่ ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ แล้วจึงจะให้สัมภาษณ์ได้


 

          ทั้งนี้ คำสั่งทางราชการที่ส่งต่อกันในไลน์ ตนจะยังไม่เชื่อ อีกทั้งระบบราชการจะยังไม่เชื่อกัน ต้องขอตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เรียบร้อยก่อน ได้ดูข่าวผ่านทางสื่อต่างๆ แล้ว แต่ยังไม่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ เมื่อวานก็สบายใจ แต่ว่าสื่อบางช่องทำไม่ถูกต้อง ตนจึงต้องอบรมเหมือนเช่นครูกับนักเรียน ซึ่งหากลงตามความเป็นจริงก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่หากที่ลงไปไม่ใช่เรื่องจริง ก็ต้องมีการชี้แจงกัน ยังมีความมั่นใจเหมือนเดิม เพราะเรื่องจริงคือเรื่องจริง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่ออาชีพครู เพราะว่ายังไม่มีความผิด ฉะนั้นอย่าเข้าใจผิด

          นายปรีชากล่าวต่อว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกมาสรุปผลว่าใครผิดใครถูกนั้น เป็นเรื่องของการคาดคะเนจากพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องผ่านกระบวนการศาลก่อน ซึ่งศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยและตัดสินว่าใครเป็นคนผิด คนถูก ซึ่งตนมีแผนรองรับโดยปรึกษาทีมทนายความเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และไม่ได้หวั่นวิตกว่าจะต้องติดคุก เพราะคุกมีเอาไว้ขังคนไม่ดี ซึ่งตอนนี้ตนยังมีกำลังใจดีอยู่

          ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วจะต้องมีคนหนึ่งคนใดต้องติดคุก ครูปรีชา ตอบว่า ไม่วิตกกังวล เพราะไม่ใช่ตนแน่ และขอให้ดูกันต่อไป ขอให้ติดตามกันต่อไป หนังมีหลายตอน ต้องดูจากพยานหลักฐาน ซึ่งตนมีหลักฐานเด็ด แต่ไม่นำมาเปิดเผยผ่านสื่อ เพราะเป็นเรื่องของคดี

          ต่อมาในช่วงเที่ยง นายปรีชาได้แถลงข่าวที่โรงเรียน โดยสื่อมวลชนถามว่า ล่าสุดมีคำสั่งย้าย พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) เนื่องจากอาจจะไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนวนคดี และส่วนตัวครูปรีชาเองมีความสนิทสนมกับ พล.ต.ต.สุทธิ หรือไม่


 

          นายปรีชา ตอบว่า ได้รับรู้จากสื่อมวลชน ซึ่งมีหลายคนถามว่าครูมีความสนิทสนมกับผู้การตำรวจหรือไม่ ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพียงแต่ว่าเหตุของเรื่องก็เกิดมาจากเรื่องของลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งของครูหาย และได้มีการไปแจ้งความที่โรงพักเพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้เท่านั้นเอง นี่เป็นเรื่องจริง ซึ่งการถูกย้ายของผู้การถ้ามาจากกรณีหวย 30 ล้าน ก็ต้องกราบขอโทษ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดี ถ้าต้องมาถูกสั่งย้าย เหตุเพราะว่าเรื่องเกิดจากลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ของตนหาย ถ้าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ก็ต้องกราบขอโทษท่านด้วย แต่ขอยืนยันว่าไม่ได้มีความรู้จักกันเป็นส่วนตัวกับท่านแต่อย่างใด

          ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วทำไมผู้การจึงเข้ามาพูดคุยปัญหาระหว่างหมวดจรูญ กับครูปรีชาได้ นายปรีชา ตอบว่า ที่เขามาคุยครูไม่ได้ทราบนะ แต่ว่าของครูคือการไปแจ้งความที่โรงพักเมืองกาญจน์ จากนั้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งมาว่า ผู้บังคับการขอให้ครูได้ไปเล่าเรื่องราว แล้วก็ให้เอาหลักฐานไปให้ดู ซึ่งครูก็ได้ไปกับพนักงานสอบสวน และก็มีญาติของครูไปด้วย โดยไปที่ที่ทำงานของท่านเท่านั้นเอง

          ผู้สื่อข่าวถามว่า ในหนังสือบางส่วนพบว่า มีการแก้ไขสำนวนในคดีนี้ครูปรีชาพอทราบหรือไม่ว่ามีการแก้ไขแบบไหน นายปรีชาตอบว่า เวลาครูถูกพนักงานสอบสวนให้ไปให้ปากคำ การบันทึกปากคำครูก็ได้ให้ปากคำไปตามความเป็นจริง พนักงานสอบสวนเขาก็ไม่ได้ทำความผิด ส่วนเรื่องสำนวนนั้น ครูก็ยังไม่เห็น หลังจากเกิดเรื่องขึ้นมาก็ได้พบกับผู้การฯ 2 ครั้ง ครั้งแรกไปกับพนักงานสอบสวน และครั้งที่สองก็ได้ไปกับญาติ ซึ่งท่านผู้การฯ บอกว่าหากมีหลักฐานก็ให้เอาไปให้เพิ่มเติม เพราะว่าพนักงานสอบสวนจะเอาไปนำเรียนในเรื่องของสำนวน ซึ่งก็ได้เอาไปให้ที่ทำงานที่ท่านอยู่ ซึ่งการไปพบทั้งสองครั้งก็มีพนักงานสอบสวนไปด้วย โดยครั้งแรกที่มาพบประมาณวันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 ครั้งที่สองประมาณวันที่ 1 ธันวาคม 2560

          ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานว่าที่ลิ้นชักของพนักงานสอบสวนถูกรื้อค้นและมีเอกสารบางส่วนหายไป ตรงนี้ครูทราบหรือไม่ นายปรีชาตอบว่า ตรงนี้ไม่ทราบเลย ไม่รู้เรื่องเลย เพิ่งมาทราบจากนักข่าวนี่แหละ เรื่องนี้ก็ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด เพราะเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ความจริงก็คือความจริง และหากถึงแม้มีแนวโน้มว่าครูเป็นผู้กระทำผิด ก็ไม่เคยคิดที่จะหนีไปไหน ครูก็สอนหนังสืออยู่ตามเดิม


 

          ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่ศาล แล้วมาบอกกับพนักงานสอบสวน ว่าเห็นครูปรีชาทำลอตเตอรี่หล่นจริงๆ และยืนยันว่าเป็นเลขนี้จริงๆ นายปรีชา ตอบว่า ตอนนี้ก็ไม่ทราบ ทราบแต่เพียงว่าพยานของครูมีเพียงแค่นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช และนางปณัญชยา สุขพูล เจ๊เกียว เท่านั้น ส่วนพยานอื่นๆ นั้นเป็นเรื่องของสำนวน และขณะนี้เป็นเรื่องของคดีความ จึงขอสงวนเอาไว้ก่อน ข้อมูลอันไหนให้ได้ครูก็ก็จะบอก สำหรับพยานแวดล้อมนั้นมีอยู่หลายคน ส่วนคนที่ชื่อครูแดงนั้นบอกตรงๆ ว่าไม่เคยรู้จักเลย

          “ไหนๆ นักข่าวก็มาถามครูแล้ว ก็อยากจะบอกนักข่าวว่า คดีนี้บางครั้งน้ำหนักของคดีไปอยู่ทางโน้น บางครั้งน้ำหนักของคดีก็พลิกกลับมาอยู่ทางนี้ เคยถามหรือไม่ว่าเอาตาชั่งที่ไหนมาชั่ง และถึงแม้วันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ผลจะออกมาอย่างไร ครูก็สบายใจ ถึงแม้กระบวนการของตำรวจจะมีน้ำหนักไปทางหมวดจรูญ แต่ในเรื่องของกระบวนการศาลก็ต้องเดินหน้ากันต่อไป ซึ่งก็ต้องมีการฟ้องร้องทั้งคดีแพ่งและคดีอาญากันต่อไป ส่วนเรื่องของพยานและหลักฐานต่างๆ ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน ซึ่งเราก็ต้องชี้แจงกับเขาให้ได้ และเราเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของตำรวจเสมอ” นายปรีชา ระบุ

          ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบข่าวว่าครูมีการเตรียมทีมทนายเป็นกุนซือในระดับประเทศจริงหรือไม่ นายปรีชา ตอบว่า คือจริงๆ แล้วครูได้เตรียมทนายเอาไว้นานแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งมาเตรียม ทนายก็เป็นผู้ที่ต้องช่วยลูกความเมื่อเรามีคดีความ เราก็อยากได้ทนายที่ดีๆ ที่เป็นมืออาชีพจริงๆ ในการมาดูแลและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกความ ดังนั้นทนายเองก็ต้องเชื่อมั่นในหลักฐานที่ลูกความมี

          อยากจะขอให้ครูยืนยันอีกครั้งว่าหวยชุดนี้เป็นของครูจริงหรือไม่ นายปรีชา ตอบว่า ครูจะขอตอบเป็นครั้งสุดท้าย เพราะที่ผ่านมานักข่าวถามครูบ่อยมาก ครูขอยืนยันว่า “หวยชุดนี้ มันมีชุดเดียว” และครูได้ซื้อมาเรียบร้อยแล้ว รับมาเรียบร้อย และมาหล่นหาย จึงมีการแจ้งความจนเป็นข่าวโด่งดังไปทั้งประเทศ และขอบอกตรงนี้เลยว่า ทุกวันนี้ยังเชื่อมั่นและมั่นใจด้วยว่าหวยชุดนี้เป็นของครูอย่างแน่นอน โดยหลังจากนี้ก็ต้องมาพิสูจน์ทรัพย์กันต่อไป เพราะว่ามันหล่นหาย

          ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อลอตเตอรี่หล่นหายทำไมครูไม่ไปแจ้งความ นายปรีชา ตอบคำถามว่า ถ้านักข่าวทำลอตเตอรี่หล่นหายก่อนที่หวยจะออก นักข่าวจะไปแจ้งความหรือไม่ และถึงแจ้ง พนักงานสอบสวนก็คงไม่รับแจ้ง เช่นเดียวกัน หลังจากหวยออก เมื่อครูรู้ว่าเราถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ครูก็ได้ไปแจ้งความ แต่วันนั้นพนักงานสอบสวนไม่รับแจ้งความ โดยบอกให้ครูไปค้นหาให้ดีๆ เพราะของหายยังไม่ถึง 24 ชั่วโมง เมื่อพนักงานสอบสวนบอกอย่างนั้น ครูก็กลับไปค้นหาใหม่ แต่ก็ไม่พบ พอวันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 ครูก็มาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งวันนั้นพนักงานสอบสวนลงบันทึกประจำวันให้ และครูก็เดินทางไปแจ้งที่กองสลาก แต่ทางนิติกรของกองสลากแจ้งว่า ไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เพราะเป็นเพียงแค่ใบลงบันทึกประจำวัน จะต้องเป็นใบแจ้งความเท่านั้นถึงจะดำเนินการตรวจสอบลอตเตอรี่ให้ได้

          "ต่อมาวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 ครูก็ไปพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง พนักงานสอบสวนจึงบันทึกใบแจ้งความให้แก่ครู และครูก็ได้ไปที่กองสลาก ทางนิติกรกองสลากจึงดำเนินการให้ แต่ต้องใช้เวลานานหลายวัน จนกระทั่งวันที่ 28 พฤศจิกายน ทางกองสลากจึงแจ้งมาให้พนักงานสอบสวนทราบว่า มีคนนำสลากรางวัลดังกล่าวไปขึ้นเงินรางวัลไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 นี่คือที่มาที่ไปของการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ” นายปรีชา กล่าว

          เมื่อถามว่า บ้านเจ๊บ้าบิ่นติดป้ายเป็นภาษาอังกฤษ สรุปใจความได้ว่า ห้ามสุนัขเข้า ต้องการความเป็นส่วนตัว บ้านครูจะติดป้ายหรือไม่ นายปรีชา กล่าวว่า บ้านครูเปิดเต็มที่ บางคนก็ไปทำกระถางต้นไม้แตก แต่ขออย่าละเมิดสิทธิของผู้อื่น

          เมื่อถามว่า มีการเรียกไปไกล่เกลี่ยคดีหรือไม่ นายปรีชา กล่าวว่า ไม่มีการเรียกไปไกล่เกลี่ยครับ

          “ขอเรียนอีกครั้งว่า หวยชุดนี้มันมีชุดเดียวเป็นรางวัลที่ 1 ครูซื้อมาเรียบร้อย ก่อนทำหล่นหาย ทุกวันนี้มั่นใจว่าเป็นของครูแน่นอน ครูต้องพิสูจน์ทรัพย์ให้ได้ ครูไม่มีอะไรฝากถึงลุงจรูญ เพราะทุกคนทำสิ่งที่ถูกต้อง ต่อมาความจริงก็จะเป็นความจริง โดยผ่านกระบวนการศาล ไม่เคยคุยกับ ผบก.เมืองกาญจน์ เรื่องวินวิน ไม่เคยคุย คุยแต่เรื่องหลักฐาน” ครูปรีชากล่าว