ข่าว

ปิดตลาดล้อม"บ้านป้าทุบรถ"ไม่ได้ขออนุญาตถูกต้อง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“อัศวิน” สั่งปิดตลาดล้อมบ้านป้าทุบรถ หลังพบ 3 แห่งไม่ได้ขออนุญาติ อีก 2 ขอสร้างเชิงพาณิชย์ ด้านป.ป.ช.สอบจนท.รัฐละเลย "บิ๊กตู่"สวดจอดรถขวางไม่เคารพสิทธิ์คนอื่น

     ความคืบหน้ากรณี น.ส.บุญศรี น.ส.รัตนฉัตร และ น.ส.ราณี แสงหยกตระการ เจ้าของบ้านภายในซอยศรีนครินทร์ 55 เขตประเวศ กรุงเทพฯ ที่ก่อเหตุทุบรถกระบะที่จอดขวางหน้าบ้านโดยใส่เบรกมือ ได้รับความเดือดร้อนจากตลาดที่ก่อสร้างรอบหมู่บ้านเสรีวิลล่ามากว่า 10 ปีและมีคดีฟ้องศาลปกครองในเรื่องเจ้าหน้าที่ละเลยปล่อยให้มีการก่อสร้างตลาดนั้น

     ล่าสุดเมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) พร้อมด้วย นายธนะสิทธิ์ เมธพันธุ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ และ พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตลาด 5 แห่งในพื้นที่ ซ.ศรีนครินทร์ 55 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ โดยตลาดทั้งหมดตั้งอยู่ในหมู่บ้านเสรีวิลล่า สวนหลวง ประกอบด้วย ตลาดสวนหลวง 1, ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต,  ตลาดยิ่งนรา, ตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง

     พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบทั้ง 5 ตลาด พบว่าตลาดสวนหลวง 1 ได้ขออนุญาตในการก่อสร้างอาคารเพื่อสร้างตลาดจากสำนักการโยธาของกรุงเทพมหานครถูกต้อง แต่ไม่ได้มีการขออนุญาตเปิดเป็นตลาด ส่วนตลาดเปิ้ลมาร์เก็ตและตลาดยิ่งนราขออนุญาตเป็นเชิงพาณิชย์ ซึ่งการจะขายอะไรก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ การจะขายของสดทั้งการแล่หมู เนื้อ อาหารทะเล จะต้องมีใบอนุญาตตลาด สำหรับตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง ไม่มีการขออนุญาตตลาดแต่อย่างใด

     ทั้งนี้ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ และครอบครัว เป็นผู้ฟ้อง ผู้ว่าฯ กทม. ผู้อำนวยการเขตประเวศ กทม. และสำนักงานเขตประเวศ ซึ่งศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในเรื่องที่ทำให้ผู้ร้องได้รับความเดือดร้อนจะต้องขจัดปัดเป่า เช่น เสียงดัง มีกลิ่น รวมถึงควัน และแสงตกกระทบรบกวน ซึ่งตนจะเข้ามาดูในเรื่องการขออนุญาตว่าได้มีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ อย่างไร เพราะยังอยู่ระหว่างขั้นตอนกระบวนการของศาลอยู่ อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบพบว่าส่วนใดไม่มีใบอนุญาตก็จะสั่งให้หยุด ซึ่งกรณีนี้ศาลชั้นต้นศาลปกครองกลางมีคำสั่งตัดสินเมื่อปี 2556 ให้คุ้มครองชั่วคราว แต่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 ศาลปกครองสูงสุดให้กลับคำให้การให้พิจารณาใหม่ว่าคำให้การนั้นไม่ชอบ ซึ่งจะต้องรอคำพิพากษาของศาล

      พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า จะสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาภายใน 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 21-28 กุมภาพันธ์ เพื่อหาข้อสรุป โดยจะเชิญฝ่ายผู้ร้องคือ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ ผู้ประกอบการในตลาด สำนักงานเขตทั้งสำนักการโยธากรุงเทพมหานคร เทศกิจ ผู้อำนวยการเขต มาตั้งกรรมการร่วมกันและช่วยกันพิจารณาดูว่าส่วนไหนผิดถูกและจะต้องแก้ไขอย่างไร และจะทำบันทึกแจ้งตลาดทั้งหมดให้หยุดขายของชั่วคราว

     “ยังไม่ทราบว่าเจ้าของตลาดแต่ละตลาดเป็นบุคคลใด ซึ่งไม่ได้ยึดติดที่ตัวบุคคล แต่จะเข้ามาดูว่าส่วนไหนถูกหรือผิดอย่างไร ทั้งนี้ กทม.เปรียบเสมือนผู้บังคับใช้กฎหมายซึ่งจะต้องดำเนินการตามกฏหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ ส่วนผู้ค้าทางกทม.จะพูดคุยต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งระหว่างนี้จะต้องแจ้งผู้ค้าในตลาดให้รับทราบก่อน ยืนยันว่าภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ จะทราบผลว่าจะต้องปิดในส่วนไหนอย่างไรบ้าง” ผู้ว่าฯ กทม.ระบุ และว่า เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ ยกเว้นแต่เราจะไม่แก้ไขเท่านั้น ยืนยันตนแก้ไขได้ 

     ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณี น.ส.บุญศรีระบุว่าได้โทรแจ้งไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ 1555 กทม. แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ีลงมาแก้ไขปัญหา พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ในส่วนนี้ยังไม่ได้รับแจ้งเลย เช่น กรณีที่รถจอดขวางหน้าบ้าน ซึ่งจริงๆ แล้วบนผิวการจราจรเป็นหน้าที่ของตำรวจ เมื่อถามย้ำว่า กังวลหรือไม่ที่ตลาดมีการสร้างมากว่า 10 ปี อาจมีผู้มีอิทธิพลหนุนอยู่เบื้องหลัง พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ไม่มีหรอกผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ตนนี่แหละมีอิทธิพล อย่างไรก็ตามในผังเมืองระบุว่า จะสร้างอะไรก็ได้ แต่ต้องไม่เกินกว่า 5 ชั้น ต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง และไม่ผิดต่อข้อบังคับของกทม. นอกจากนี้ ถนนของหมู่บ้านเสรีวิลล่าเมื่อก่อนนี้เป็นถนนส่ว นบุคคลแต่ต่อมาตั้งแต่ปี 2530 หมู่บ้านได้ยกถนนดังกล่าวให้เป็นทางสาธารณะไปแล้ว เมื่อเป็นของรัฐจะอยู่ในอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานของรัฐซึ่งก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ปิดตลาดล้อม"บ้านป้าทุบรถ"ไม่ได้ขออนุญาตถูกต้อง

     จากนั้น พล.ต.อ.อัศวิน ได้เดินมาที่บ้านของ น.ส.บุญศรี เพื่อต้องการรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ น.ส.บุญศรีไม่อยู่บ้าน จึงได้โทรศัพท์พูดคุยกันเพื่อรับฟังปัญหาและเรื่องที่อยากให้เร่งแก้ไข โดย น.ส.บุญศรีได้ขอให้ดำเนินการแก้ไขเรื่องตลาดที่เป็นปัญหามายาวนานกว่า 10 ปี โดยให้ดำเนินการในทันที และไม่อยากให้มีตลาดเพิ่มขึ้นอีก ซึ่ง พล.ต.อ.อัศวิน ยืนยันว่าจะนำข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อไปพิจารณาตามเหตุผลว่าทำได้มากน้อยเพียงใด แต่ยืนยันว่าสิ่งที่ น.ส.บุญศรีเดือดร้อนจะขจัดปัดเป่าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

     ต่อมา พล.ต.อ.อัศวินได้เดินตรวจสอบพื้นที่ตลาดทั้ง 5 ตลาด พร้อมกับพูดคุยกับเจ้าของตลาด รวมทั้งได้มี น.ส.อัชพิมพ์ อรุณลักษณ์ อายุ 46 ปี เจ้าของบ้านที่อยู่ติดกับตลาดสวนหลวง 1 ที่ได้รับความเดือดร้อนเข้ามาพูดคุยปัญหาที่เกิดขึ้นให้ พล.ต.อ.อัศวิน รับทราบ 

     ภายหลังการตรวจสอบพื้นที่เสร็จสิ้น พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า วันนี้ตั้งใจมาพูดคุยกับ น.ส.บุญศรี แต่เนื่องจากติดธุระจึงได้พูดคุยโทรศัพท์กับน.ส.บุญศรีว่าไม่ต้องเป็นห่วง โดยได้รับปากว่าจะเยียวยาให้ตามคำสั่งที่ได้มีการฟ้องเมื่อปี 2556 ในเรื่องที่ได้รับผลกระทบจากแสง สี เสียง รถจอดขวางทางเข้าบ้าน โดยเรื่องการจราจรได้ประสานกับ พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ ซึ่งทางผกก.ก็รับปากแล้วว่าจะให้ตำรวจจราจรเข้ามาช่วยดูแลถนนเส้นดังกล่าวไม่ให้มีการจอดรถกีดขวาง

     นอกจากนี้ กทม.จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองกลางซึ่งได้ตัดสินเมื่อปี 2556 ให้คุ้มครองชั่วคราว ต่อมาเดือนพฤศจิกายน 2559 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ศาลปกครองกลางกลับไปทบทวนใหม่ ซึ่ง น.ส.บุญศรีได้ฟ้องร้องว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการจัดสรรสามารถสร้างอย่างอื่นได้หรือไม่นอกจากบ้านพัก ซึ่งยังอยู่ในขั้นพิจารณาของศาลปกครองกลาง ดังนั้นจะยังไม่ขอกล่าวถึงขอให้ศาลได้ตัดสินออกมาก่อนว่าจะสร้างได้หรือไม่ โดยให้ศาลเป็นผู้ชี้ อีกส่วนหนึ่งได้ให้ผู้อำนวยการเขตประเวศไปออกคำสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเชิญผู้ค้าและผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้ง น.ส.บุญศรี รวมถึงบ้านหลังอื่นๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนมาพูดคุยเยียวยา

     สำหรับตลาดสวนหลวง 1 ตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง ไม่ได้มีการขออนุญาตตลาด ซึ่งเป็นการประกอบการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่สามารถทำตลาดได้ ซึ่งจะต้องให้ยุติการดำเนินการ โดยทางผู้อำนวยการเขตประเวศจะทำหนังสือแจ้งไปยังตลาดทุกตลาดให้เวลา 7 วันในการดำเนินการ ส่วนตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และตลาดยิ่งนรา ได้ขออนุญาตในเชิงพาณิชย์ ภายใน 7 วันจะพิจารณาข้อบังคับดูว่าจะขายอะไรได้บ้าง ทั้งนี้ ภายใน 7 วันหากมีใครยังดื้อดึงอยู่ก็จะให้สำนักงานเขตประเวศเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อไป ขณะเดียวกันได้พูดคุยกับเจ้าของตลาดสวนหลวง 1 และเจ้าของตลาดยิ่งนรา ซึ่งทางเจ้าของตลาดบอกว่าได้ขออนุญาตตามระเบียบข้อบังคับ ยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง หากอันไหนทำไม่ได้ก็จะไม่ทำ สิ่งไหนขายไม่ได้ก็จะไม่ขาย

     ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องมีการตรวจสอบตลาดทั่วทั้งกรุงเทพฯ ว่าถูกต้องหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า อะไรก็ตามอยากให้เข้ามาอยู่ในระบบให้ถูกต้อง จะได้ไม่ต้องมีปัญหาเรื้อรังตามมา ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเรื่องตลาดสร้างความเดือดร้อนรำคาญอยู่บ้าง ที่ผ่านมาสำนักงานเขตประเวศ ได้เข้าร้องทุกข์ต่อ สน.ประเวศ ให้ดำเนินการกับตลาด 7-8 ตลาด ซึ่งทาง สน.ประเวศ ได้ส่งฟ้องศาล ซึ่งศาลได้เปรียบเทียบปรับไปตลาดละ 5,000 บาท ส่วนจะมีการตรวจสอบย้อนหลังไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เรื่องนี้จะมีรองผู้ว่าฯ กทม. รับผิดชอบในเรื่องเขตแต่ละเขตเป็นผู้ดูแลและอยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่

ปิดตลาดล้อม"บ้านป้าทุบรถ"ไม่ได้ขออนุญาตถูกต้อง

     มีรายงานว่า ผอ.เขตประเวศ ได้ลงนามปิด 3 ตลาด คือ ตลาดรุ่งวาณิชย์ ตลาดร่มเหลือง และตลาดสวนหลวง 1 มีผล 27 กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากไม่ได้ขออนุญาตประกอบการตลาด

     สำหรับช่วงปี 2555-2556 ได้มีการบังคับใช้เครื่องหมายจราจร โดยถนนเส้นดังกล่าวมีเวลาห้ามจอดช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 06.00-10.00 น. ช่วงเย็น 16.00-20.00 น. ที่ผ่านมาตำรวจจราจร สน.ประเวศ ได้กวดขันบังคับใช้กฎหมายจราจรโดยตลอด ซึ่งในแต่ละเดือนในถนนเส้นดังกล่าวได้จับกุมผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ทั้งจอดรถในช่วงเวลาห้ามจอด จอดรถกีดขวางการจราจร ได้กว่า 200 รายต่อเดือน โดยช่วงวันที่ 1-19 กุมภาพันธ์ จับกุมผู้ฝ่าฝืนไปแล้ว 112 ราย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทราบดีว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ละเอียดอ่อนได้เข้ามากวดขันวินัยจราจรอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้บางครั้งมีผู้ที่ได้รับผลกระทบไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมอยู่บ้าง และได้มีการแก้ไขผู้ที่จอดขวางหน้าบ้านด้วยการนำรถยกมาเคลื่อนย้ายรถที่กีดขวางออกจากพื้นที่

     นอกจากนี้ในโลกออนไลน์ได้แห่โพสต์รูปภาพของบรรดาชาวเน็ตและประชาชนที่เดินทางผ่านบ้านป้าทุบรถ รวมถึงชาวบ้านใกล้เคียงได้ไปถ่ายเซลฟี่หน้าบ้านดังกล่าว อาทิ กลุ่มปั่นจักรยาน เป็นต้น จนกระทั่งหน้าบ้านหลังนี้กลายเป็นแลนด์มาร์คของหมู่บ้านและชาวเน็ตยังวิจารณ์ว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเขตประเวศ

     วันเดียวกัน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. กล่าวถึงกรณีป้าทุบรถว่า คดีนี้ทราบว่าเจ้าของบ้านได้โทรศัพท์แจ้ง 191 บ่อยครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ค่อยมาตรวจสอบ ดังนั้น จึงขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าที่มีการแจ้งบ่อยแค่ไหน สภาพการจราจรบริเวณนั้นเป็นถนนหลวงหรือพื้นที่ส่วนบุคคล ทั้งนี้ไม่ใช่แค่บ้านป้าเท่านั้น หากประชาชนท่านใดที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกจอดรถขวางทางเข้าออกบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อได้รับแจ้งก็ต้องไปดู อย่างช้าต้องไปถึงภายใน 10 นาที หากสถานีตำรวจใดไม่ดำเนินการอำนวยความสะดวกขอให้แจ้งมาที่ บช.น. จะดำเนินการแก้ปัญหาให้ อย่างไรก็ตาม หากต้องใช้รถยก เจ้าของรถที่จอดรถขวางนอกจากจะเสียค่าปรับแล้วยังจะต้องจ่ายค่าบริการรถยกเองอีกด้วย

     พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ว่า เจ้าหน้าที่รายงานว่าเรื่องนี้ได้มีการร้องเรียนมาทาง ป.ป.ช. ว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบถ้วนตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่อนุญาตให้สร้างตลาด โดยทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุกจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว กำลังให้ติดตามและดูว่าการไต่สวนของเจ้าหน้าที่ไปถึงไหนอย่างไร ที่มีการรายงานในวันนี้เป็นระดับพื้นที่ก่อน และหากไต่สวนไปแล้วพบว่ามีเจ้าหน้าที่อื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ก็จะเสนอคณะกรรมการเพื่อมีคำสั่งไต่สวนเพิ่มเติมต่อไป

     ด้านนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรณีดังกล่าวสะท้อนถึงสามัญสำนึกเกี่ยวกับเรื่องสิทธิและหน้าที่ วินัย รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายยังคงเป็นอุปสรรคในการขับเคลื่อนประเทศ เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายจึงเป็นคานงัดที่เป็นกลไกสำคัญในการสร้างค่านิยมและบรรทัดฐานในสังคม หากเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ทำหน้าที่ ผู้รับผิดชอบที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ก็คือผู้ปกครองแห่งรัฐ เพราะเป็นคนที่ขันอาสามากำกับทิศทางของประเทศ จึงต้องพิจารณาตัวเองหรือถูกจัดการให้ออกไปเพราะไม่มีศักยภาพพอ

     “คนไทยไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองก็ปฏิบัติตามกฎกติกาจารีตประเพณีและกฎหมายของประเทศนั้นได้อย่างดี และชื่นชมพลเมืองและประเทศนั้นๆ ว่ามีวินัยน่าอยู่ และน่าเอามาใช้ในประเทศไทย ขณะที่พลเมืองของประเทศอื่นมาเที่ยวประเทศไทยสัปดาห์เดียว ส่วนใหญ่นิสัยเปลี่ยน มีสะพานลอยอยู่บนหัวก็ไม่ขึ้น เดินข้ามถนนเฉย สบายใจไทยแลนด์ ดังนั้นจึงต้องกล่าวโทษไปยังคนที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่แล้วไม่ทำ ละเว้น หรือเลือกปฏิบัติ” นายธวัชชัยกล่าว

ปิดตลาดล้อม"บ้านป้าทุบรถ"ไม่ได้ขออนุญาตถูกต้อง

     รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า กระบวนการสร้างค่านิยมและบรรทัดฐานต้องอาศัยเหตุการณ์และสื่อโซเชียลเป็นผู้สร้าง เช่นกรณีคุณป้าทุบรถที่ปิดทางเข้าออกบ้าน ก่อให้เกิดผลกระทบตั้งแต่กระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้า เจ้าหน้าที่ไม่บังคับใช้กฏหมาย และเป็นการสร้างค่านิยมใหม่เรื่องจอดรถปิดทางเข้าออกบ้านคนอื่น เป็นต้น หากไม่ถูกผลิตซ้ำก็จะจางหายไป ไม่สามารถพัฒนาไปสู่ค่านิยมและบรรทัดฐานในสังคมได้ และอาจเกิดค่านิยมและบรรทัดฐานใหม่ว่าจะจัดการปัญหาเรื่องใดๆ ไม่สามารถรอให้รัฐเข้ามาจัดการได้ ต้องลุกขึ้นมาจัดการด้วยตนเอง ซึ่งหากพัฒนาไปไกลถึงขั้นตอนนั้น ไม่อยากจะคิดว่าบ้านเมืองจะวุ่นวายไปขนาดไหน ดังนั้น เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะผู้มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและผู้มีอำนาจแห่งรัฐต้องออกมาทำอย่างจริงจัง เพราะประชาชนทุกคนเป็นนายจ้างเรา และพวกเราทุกคนเป็นขี้ข้าประชาชน

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.00 น.‬ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เดินทางมายังศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบทุ่งลูกนา สหกรณ์โคนมกำแพงแสน จำกัด จ.นครปฐม ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ปัญหาของประเทศไทยตอนนี้คือเราไม่มีระเบียบวินัย ไปจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น ทำอย่างนี้ได้อย่างไร เห็นอยู่แล้วว่าเป็นบ้านคน เป็นที่อยู่อาศัย ยังมาจอดรถขวาง ก็เลยเกิดกรณีขัดแย้ง และเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน มีความเสียหายเกี่ยวโยงกับอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องตลาด การลงทุน ปัญหาสังคม สาเหตุก็มาจากความไม่เป็นระเบียบวินัย ไม่เคารพสิทธิผู้อื่น ก็เห็นใจทั้งสองฝ่าย

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ต้องมาต่อสู้กันด้วยกฎหมาย ซึ่งถ้าเข้าใจกฎหมายตั้งแต่แรก ไม่มีการละเมิดสิทธิก็ไม่เกิดปัญหา ทุกวันนี้มีปัญหาไปหมด ไม่ว่าจะการละเมิดสิทธิ การเล่นแชร์ ปัญหาการจราจร การขายของบนที่สาธารณะ การโกงเงินสหกรณ์ และที่ตนไม่เข้าใจว่าโลกปัจจุบันยังเกิดเรื่องการตกทอง ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรไปใส่ใจมาก อย่างหวย 30 ล้านบาท เปิดมาก็เจอทุกวัน และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นของใคร ก็อย่าไปใส่ใจมากนักเลยเพราะบางเรื่องก็ไม่เกี่ยวกับเรา ดังนั้น เราต้องพยายามสร้างความเข้าใจเรื่องกฎหมายให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมไม่ให้คนบางคนได้ประโยชน์จากกฎหมายเพียงฝ่ายเดียว

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ