อย่าด่วนสรุปรอศาลชี้ไม่ใช่เจ้าของหวย 30 ล.ครูพร้อมเข้าคุก

          เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการพิสูจน์กรรมสิทธิ์สลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ที่ถูกรางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ข้าราชการบำนาญ และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ว่าได้รับรายงานล่าสุดจากชุดทำงานของกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) แล้วว่าขณะนี้มีความคืบหน้ามากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยจะมีการประชุมสรุปและแถลงข่าวผลสรุปในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ตอนนี้ไม่เร่งรัดอะไร ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่

 

          “คดีหวย 30 ล้านที่พี่น้องประชาชนทั้งประเทศสนใจมีความคืบหน้ามากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว รอฟังวันที่ 28 กุมภาพันธ์ จะได้ทราบว่าหวยเป็นของใครซึ่งจะมีการแถลงข่าวในวันนั้น ขณะนี้เหลือเพียงทำให้เรียบร้อยอีกนิดหน่อยก็ครบชัดเจน 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว” ผบ.ตร.กล่าวและยอมรับว่า ทราบแล้วว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลฉบับที่ถูกรางวัลที่ 1 เป็นของผู้ใด แต่จะพูดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้

          สำหรับกระแสข่าวว่าหวยเป็นของร.ต.ท.จรูญ นั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ บอกว่า ก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้วเพราะเขาเป็นคนไปขึ้นเงิน ได้เงินมา เขาถือเป็นคนสุดท้าย ส่วนรายละเอียดเดี๋ยวไปว่ากัน แต่จะตรงกับบทสรุปการคลี่คลายเรื่องนี้ของชุดทำงานกองปราบปรามหรือไม่ ตนไม่ทราบ บอกไม่ได้ คำตอบที่ตนทราบอยู่บนพื้นฐานของการเป็นไปตามพยานหลักฐาน และหากผลออกมาเป็นของร.ต.ท.จรูญ นายปรีชา จะดำเนินการฟ้องร้องก็เป็นสิทธิตามกฎหมาย ผลที่ออกมาจะช็อกสังคมหรือไม่คงต้องให้สังคมตัดสิน ตำรวจได้ทำตามพยานหลักฐาน เรามีหน้าที่ทำความจริงให้ปรากฏ

          พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและผลที่จะออกมาในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ตำรวจไม่มีหน้าที่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ว่าตามพยานหลักฐาน ส่วนระหว่างนี้จะมีการขออนุมัติหมายจับผู้ใดหรือไม่อยู่ในกระบวนการที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว แม้ผลสรุปจะออกมาอาจจะแตกต่างกันระหว่างชุดทำงานของตำรวจภาค 7 กับกองปราบปราม ซึ่งพยานหลักฐาน เรื่องของนิติวิทยาศาสตร์ สามารถบ่งชี้ได้ ขณะนี้เราต้องทำความจริงให้ปรากฏ

          “กองบังคับการปราบปรามเป็นหน่วยที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน ใครไม่ได้รับความเป็นธรรมให้มาที่นี่ กองปราบปรามรักษามาตรฐานของเขาอยู่แล้ว นิติวิทยาศาสตร์จะเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเก็บรายละเอียด และทางกองปราบปรามกำลังรอให้ทุกอย่างนิ่ง เมื่อนิ่งแล้วผลสรุปจะชัด หากผลสรุปของ 2 หน่วยงานระหว่าง ภาค 7 กับกองปราบปรามไม่ตรงกัน ก็ไม่มองว่าเป็นการดิสเครดิต ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ผมให้ความสำคัญ ก่อนตัดสินใจโอนคดีมาที่กองปราบปราม ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานของกองปราบปราม ซึ่งการตัดสินใจโอนคดีครั้งนี้ส่วนหนึ่งเพราะร.ต.ท.จรูญ มาร้องที่กองปราบปรามด้วย" ผบ.ตร. ระบุ

          เมื่อถามถึงการเสนอ ผบ.ตร.ให้ดำเนินการกับตำรวจ บช.ภ.7 ที่เข้าเกี่ยวข้องคดีนี้ในตอนแรกบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ตอบว่า มีข่าวมาเหมือนกัน ให้สิทธิกองปราบปรามดำเนินการอยู่แล้ว ใครก็ตามที่เข้าไปแตะ เกี่ยวข้องทำให้เกิดปัญหาในการรวบรวมพยานหลักฐาน หรือทำสำนวนต่างๆ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สามารถมีความเห็นมาได้อยู่แล้ว หากใครเข้าไปเกี่ยวข้องเรามีกระบวนการดำเนินการอยู่แล้ว ได้พูดคุยกันแล้ว แต่ยังไม่ทำเป็นลายลักษณ์อักษร หากมีการเสนอมาว่าต้องทำอย่างไรก็ดำเนินการตามนั้น ตนเชื่อว่า บช.ก. ไม่ไปกลั่นแกล้งใครอยู่แล้ว

          พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวด้วยว่า คดีนี้แน่ชัดว่าค่อนข้างทำเป็นขบวนการ แต่รอรายละเอียดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ว่ามีใครเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง ตนไม่เข้าไปแทรกแซงการทำงานของชุดทำงาน ปล่อยไปให้ทำงาน เชื่อว่าผู้ที่ทำงานเรื่องนี้มีประสบการณ์ทั้งนั้น ทั่วประเทศมีคดีหวยลักษณะนี้ 5 คดี บช.ก.มีแผนประทุษกรรมอยู่ ส่วนจะมีตำรวจระดับนายพลเข้าไปเกี่ยวข้องมีความผิดในคดีนี้หรือไม่ ยังบอกไม่ได้ ตนยังไม่ทราบ แต่ถ้ามีอะไรเกี่ยวข้อง ส่อในทางไม่ดี เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็มีกระบวนการการดำเนินการอยู่แล้ว ส่วนตัวยังไม่เคยพูดคุยกับ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี (ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี) เนื่องจากมีผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นพูดคุยอยู่แล้ว ในเรื่องนี้ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 ดูอยู่

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่สื่อทุกสังกัดได้นำเสนอข่าวว่า ตำรวจกองปราบปรามได้ประชุมและมีบทสรุปว่าเจ้าของกรรมสิทธิ์สลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวเป็นของร.ต.ท.จรูญ ไม่ใช่เป็นของนายปรีชา นั้น พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ชี้แจงว่า ยังไม่มีการสรุปว่าใครเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งตัวจริง

          พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวว่า ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนกองปราบปรามยังไม่มีการสรุปว่าลอตเตอรี่ดังกล่าวเป็นของใคร และยังไม่มีการออกหมายจับบุคคลใดตามที่มีการกล่าวอ้าง ยอมรับว่า เรื่องนี้ทำให้ตนเองไม่สบายใจเนื่องจากรายละเอียดของคดีไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ และอาจจะกระทบต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งที่ผ่านมาในฐานะผู้นำก็ให้เกียรติและเคารพการทำงานของสื่อมาตลอด

          "พนักงานสอบสวนทำงานอย่างหนักเพื่อคลี่คลายคดีนี้เนื่องจากคดีนี้มี 2 สำนวน คือคดีที่นายปรีชา ใคร่ครวญ ไปแจ้งความเอาผิด ร.ต.ท.จรูญ ฐานยักยอกลอตเตอรี่ และอีกคดี คือคดีที่ ร.ต.ท.จรูญ แจ้งความเอาผิดนายปรีชา ฐานแจ้งความเท็จ ซึ่งทั้ง 2 คดีนี้จะต้องมีบทสรุปพร้อมกันโดยปราศจากข้อสงสัยจากสังคม และในวันนี้ (21 ก.พ.) พนักงานสอบสวนกองปราบปรามก็ยังคงประชุมเพื่อคลี่คลายคดีต่อ หลังจากนี้ให้สอบถามโดยตรงได้ที่ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี (รองผบช.ก.) ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้เท่านั้น

          พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริญสุข (ผบก.พฐ.) ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า กองพิสูจน์หลักฐานกลางกำลังตรวจพิสูจน์คลิปเสียงในคดีนี้อย่างละเอียด หลังจากที่พนักงานสอบสวนกองปราบได้ส่งมาให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยคลิปเสียงที่ส่งมามีกว่า 10 คลิป จะต้องตรวจสอบและพิสูจน์ให้ได้ว่าคลิปดังกล่าวมีการตัดต่อหรือไม่ หรือมีใครเป็นเจ้าของคลิปเสียง จากนั้นจึงจะส่งผลให้ทางพนักงานสอบสวนกองปราบนำไปใช้ประกอบสำนวนคดีต่อไป คาดว่าจะทราบผลในเร็วๆ นี้

          

          ส่วนความเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.กาญจบุรี เมื่อเวลา 07.35 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักของนายปรีชา เพื่อขอสอบถามข้อเท็จจริงถึงกรณีข่าวที่เกิดขึ้น พบนายปรีชากำลังเดินออกมาจากบ้านโดยใส่สูทสีดำ จากนั้นเดินไปเปิดประตูรถกระบะพร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยระหว่างที่นายปรีชาเดินมาเปิดประตูบ้านเพื่อขับรถไปโรงเรียน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงข้อเท็จจริงกรณีที่มีข่าวว่ากองปราบปรามออกมาระบุว่าลอตเตอรี่นั้นเป็นของหมวดจรูญ ซึ่งนายปรีชาได้เดินไปเปิดประตูหน้าบ้านพร้อมกับพูดว่า เรื่องนี้มันเป็นกระแสของนักข่าว ไม่ใช่กระแสของตำรวจ ตำรวจได้แจ้งหรือยังว่ายังไม่ได้แถลงการณ์

          “เพราะฉะนั้นนักข่าวไปเขียนกันเอง นักข่าวรู้ดีกว่าตำรวจไง นักข่าวก้าวทันไวเกิน คือนักข่าวมีจรรยาบรรณถูกต้องไหม นักข่าวจะต้องฟังการแถลงก่อน ช่อง 7 ลงครูอีกแล้วนะเมื่อเช้านี้ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้กังวลอะไรเพราะยังไม่มีอะไรถูกไหม นักข่าวต้องรอให้เขาแถลงข่าวก่อนถึงเขียนข่าวได้ และขณะนี้ทางกองปราบยังไม่ได้โทรมาหา ส่วนเรื่องทนายของครูเขาพร้อมที่จะไปขึ้นศาลอยู่แล้ว” นายปรีชากล่าว

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้นนายปรีชาถอยรถออกจากบ้านทันทีเพราะต้องรีบไปโรงเรียน พร้อมบ่นว่าเริ่มรู้สึกเบื่อนักข่าว เพราะเขียนข่าวทำให้ประชาชนสับสนและมอมเมาประชาชน


 

          ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกันนายปรีชาได้แถลงข่าวชี้แจงกับสื่อมวลชนที่โรงเรียน โดยนายปรีชากล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ตนต้องตั้งสติและสมาธิ โดยยืนอยู่บนความเป็นจริง อยากให้รอกระบวนการศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง สิ่งต่างๆ ที่โดนกระแสโซเชียล ครูให้อภัยมาตลอด แต่เมื่อให้อภัยแล้วไม่รู้จักอภัยจึงอาจต้องเตรียมหารือทนาย

          นายปรีชา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องคลิปเสียงนั้นที่ได้ยินมีแค่ 4 คลิป แต่ละคลิปมีความยาว 3 นาที ซึ่งก็รู้สึกงงว่าทำไมถึงมีออกมาอีกหลายคลิป ไม่แน่ใจเป็นคลิปที่ตรวจสอบแล้วหรือไม่ ถ้าตรวจสอบแล้วระบุเป็นคลิปเสียงของตนก็พร้อมยอมรับ โดย 4 คลิปที่กองปราบให้ตนฟังเป็นเสียงรายละเอียดการสั่งซื้อหวย การตามหาหวยที่หายไป โดยอยากถามว่าเวลาคนถูกหวยจะต้องไปบอกคนอื่นหรือไม่ เพราะทุกคนจะปิดหมด กลัวคนอื่นมาเข้ามายุ่ง

          “ครูเป็นแม่พิมพ์ของชาติ ถ้าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องครูจะไม่ทำ โดยครูไปแจ้งความคดีนี้ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2560 แต่ตำรวจบอกให้ไปหาให้ดีก่อน จากนั้นวันที่ 2 พฤศจิกายน เดินทางมาแจ้งความ แล้ววันที่ 3 พฤศจิกายน ไปตรวจสอบที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยกองสลากมีนิติกรดูแลความถูกต้องจึงมีพยานหลักฐานที่เป็นประจักษ์ ก่อนระบุตัวบุคคลที่ไปขึ้นเงินคือ ร.ต.ท.จรูญ จากนั้นตำรวจเชิญ ร.ต.ท.จรูญ มาพูดคุยที่โรงพัก กระทั่งเป็นคดีความ” นายปรีชากล่าว

          เมื่อถามถึงคลิปเสียงที่ระบุว่าครูปรีชาแบ่งเงินกับเจ๊บ้าบิ่นคนละ 15 ล้านบาท ครูปรีชากล่าวว่า คลิปดังกล่าวไม่ได้อยู่ใน 4 คลิปที่ตนรู้ โดยอยากถามว่าใครเป็นคนปล่อยคลิปนี้ และหากหวย 30 ล้านเป็นของครูจริงใครจะรับผิดชอบเรื่องนี้ ถ้าฝ่ายครูผิดก็จะรับผิดชอบด้วยการติดคุก คดีนี้ต้องมี 1 คนติดคุก ถ้าครูติดคุกแสดงว่าครูก็ต้องเป็นคนไม่ดี แต่อยากให้คิดว่าทำไมตำรวจและกองสลากถึงรับเรื่องไปตรวจสอบ ทำไมศาลสั่งอายัดเงินไว้ เพราะครูมีความชัดเจนในเรื่องคดีอย่างมาก

          เมื่อถามว่าถ้ากองปราบสรุปเป็นของร.ต.ท.จรูญ จะยอมรับหรือไม่ ครูปรีชากล่าวว่า ตอนนี้กองปราบยังไม่สรุป ถ้าผลคดีออกมาอย่างไรก็ต้องไปต่อสู้ในศาล การที่ตำรวจสรุปยังไม่ใช่ เพราะต้องไปต่อสู้คดีในศาลอีก

          ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปสัมภาษณ์ ร.ต.ท.จรูญ ที่บ้านพัก



          ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า ภายหลังทราบข่าวจากสื่อต่างๆ ก็รู้สึกปลื้มและดีใจที่สื่อและประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวเป็นของตน แต่ในส่วนของการสืบสวนและสรุปคดีนั้นคงจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบออกมาแถลงสรุปคดีก่อนจึงจะมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนตัวมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบว่าจะสามารถให้ความเป็นธรรมแก่ตนและครอบครัวได้

          ส่วนกระแสข่าวเรื่องของพยานที่บอกว่ามีคนเห็นตนก้มเก็บลอตเตอรี่ที่ตลาดนั้น หากมีจริงก็ขอให้นำออกมาแสดงเลย เพราะตนก็อยากจะให้คดีนี้ได้บทสรุปโดยเร็ว สังคมจะได้รับรู้ความเป็นจริงว่าใครพูดความจริงและใครโกหก ส่วนตนเองยังคงยืนยันในความบริสุทธิ์ว่าเป็นคนซื้อลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวมาจริง และเป็นเจ้าของตัวจริงอย่างแน่นอน

          “ผมเชื่อว่าความจริงจะปรากฏ ส่วนที่อีกฝ่ายบอกว่าถ้าข่าวที่ว่าเป็นเรื่องจริงก็ต้องไปว่ากันในศาลนั้น ก็คงจะเป็นไปตามนั้น ครั้งแรกเป็นของเขา รอบนี้เป็นของผม หลักฐานที่ผมมีผมก็มอบหมายให้ทนายไปหมดแล้ว เรื่องจริงลอตเตอรี่อยู่กับผม ถามว่าทำไมผมไม่มีพยาน จริงๆ แล้วผมไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าต้องไปซื้อกับคนนั้นคนนี้ ในประเทศไทยผมไม่รู้จักแม่ค้าลอตเตอรี่สักคน ผมนึกอยากจะซื้อตรงไหนผมก็ซื้อ เลข 26 เป็นเลขที่อยู่ในใจผม เพราะเป็นเลขมงคล ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นเลขเด่นเลขดัง ก็ไปรู้วันที่ไปซื้อนั่นแหละ แม่ค้าบอกว่าเลขนี้เป็นเลขดังเขาหากัน” ลุงจรูญ กล่าว

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ทนายความของ ร.ต.ท.จรูญ ได้โพสต์เฟซบุ๊กโดยข้อความระบุว่า หมัดเด็ดที่ครูปรีชากับดอกเตอร์และทีมงานจะน็อกคุณลุงได้นั้น คือหลักฐานไลน์การสั่งซื้อหวย คลิปคนก้มเก็บหวย (เลือกเอาผู้ชายหรือผู้หญิงก้มเก็บก็ได้) และล่าสุดคลิปที่อ้างว่าคุณลุงรับสารภาพว่าเก็บหวยได้และขอแบ่งเงินคนละครึ่งจากครู ซึ่งคำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากครู คนรอบข้างครูและกุนซือของครูเองทั้งสิ้น

          วันก่อนผมบอกว่าอย่าลีลามาก แต่วันนี้ผมขอบอกว่าอย่าโม้เลยครับ มันไม่มีก็ต้องบอกว่าไม่มี ถ้ามีก็เอามาแสดงให้คนทั้งประเทศดูเลยครับ อย่าบอกนะครับว่านี่เป็นกลยุทธ์ที่ต้องเก็บเป็นความลับสุดยอด ไม่สามารถให้ใครดูได้แม้กระทั่งกองปราบที่กำลังสืบสวนทางลับอยู่ และที่แต่ละคนออกลีลาบอกว่ามี แล้วทำเป็นอมยิ้มนั้น มันไม่ได้ทำให้คนพูดดูดีขึ้นมาในบัดดลแต่อย่างใด คุณได้แต่อมยิ้ม ใครจะเชื่อคุณครับ ทีมกุนซือครูก็รู้ดีว่าแค่ลีลาอมยิ้มเพียงอย่างเดียวนั้นไม่สามารถเอาไปเป็นหลักฐานกล่าวหาหรือเอาผิดใครได้ ฉะนั้นต้องทำใจด้วยนะครับ

          ท่านผบ.ตร. ท่านผบช.ก และท่าน ผบก.ป พร้อมทีมงาน ท่านไม่ได้อ่านเกมตื้นๆ ไม่ได้ดูแค่วาทะคำตอบแบบเบสิกหรอกครับ นักสืบอาชีพและเป็นมือกฎหมายที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากเขาอ่านลึกซึ้ง ให้ความสำคัญกับทุกประเด็นและข้อพิรุธของพยานทุกคนทั้งสองฝ่าย ทุกประเด็นท่านต้องเคลียร์ให้ชัดเจน และตอบนักกฎหมายขั้นเทพได้ ท่านคงไม่ยอมให้องค์กรของท่านเสียชื่อแน่ครับ

          ผมและคุณลุงคงต้องทวงถามหลักฐานคลิปของครูเรื่อยๆ ครับ เพราะหลักฐานลมนี้จะเอามาเป็นวาทะหลอกคนทั้งประเทศเพื่อให้ตนเองดูดีไม่ได้อีกแล้วครับ