ครูรับเสียงจริง ! คลิปหวย 30 ล.

          จากกรณีคดีหวยอลเวง 30 ล้านบาท จ.กาญจนบุรี ระหว่างนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี กับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ ที่ต่างอ้างว่าเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ดังกล่าว โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เรียกทีมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีมาประชุมร่วมกัน เพื่อสรุปว่าใครคือผู้ที่เป็นเจ้าของสลากเจ้าปัญหาที่แท้จริง พร้อมพิจารณาว่ามีใครเข้าข่ายจะต้องถูกดำเนินคดี โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ กลุ่มที่กระทำความผิดโดยเจตนาและสมรู้ร่วมคิดตั้งแต่แรก ซึ่งมีผู้กระทำความผิดชัดเจนแล้ว 2 คน พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อขอหมายจับในข้อหาให้การเท็จเพื่อกลั่นแกล้งผู้อื่นได้รับผิดในคดีอาญา และอาจจะมีการดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 รวมอยู่ด้วย

          เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผบช.ก. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผบก.ป. ได้ร่วมประชุมหารือครั้งที่ 1 ในคดีดังกล่าว

          พล.ต.ต.ชาญ กล่าวว่า วันนี้เป็นการติดตามคดีในครั้งแรกหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ป.ได้รับสำนวนจากตำรวจภูธรภาค 7 และได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบ วันนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานใดที่จะออกหมายจับใครได้ และยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ดังกล่าว เพราะจะต้องมีการประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าแต่ละชุดทำงานได้พยานหรือหลักฐานอะไรที่เป็นประโยชน์บ้างหลังจากได้ลงพื้นที่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ขณะนี้ได้มีการคัดพยานออกว่าพยานใดไม่เกี่ยวข้องก็ต้องคัดออก โดยตอนนี้มีพยานทั้งหมด 10 ปาก และขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ให้เจ้าหน้าที่ตามประกบแต่อย่างใด และในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ ที่ ร.ต.ท.จรูญ จะต้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรีนั้น ไม่จำเป็นแล้ว เนื่องจากได้มีการตั้งคณะทำงานชุดใหม่ของ บช.ก. ดังนั้นก็ต้องยกเลิกไปก่อน

          พล.ต.ต.ชาญ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามคดีมีความคืบหน้าไปประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ก็ยังต้องตรวจสอบหลักฐานและพยานอีกจำนวนมาก โดยหลังประชุมครั้งนี้ อีก 2 วันก็น่าจะออกหมายจับผู้กระทำความผิดได้ สำหรับกรณีนายแผน และนางกุ้ง ที่เป็นพยานอ้างว่าเห็นคนลักษณะคล้ายร.ต.ท.จรูญ ก้มเก็บลอตเตอรี่นั้น ก็ต้องเรียกมาสอบเพิ่มเติม แต่เบื้องต้นพบว่าไม่ใช่กลุ่มเดียวกับครูปรีชาและเจ๊บ้าบิ่น นอกจากนี้ ครูปรีชาได้รับสารภาพระบุลงในสำนวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 แล้วว่าเสียงที่ปรากฏในคลิปสนทนาที่หลุดออกมานั้นเป็นเสียงของครูปรีชาจริง และครูปรีชาเองก็เป็นคนที่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบโทรศัพท์เอง สำหรับการสอบปากคำพนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองกาญจนบุรี ทั้ง 4 นายนั้น ขณะนี้ก็ยังสอบอยู่ เพราะขาดอีกหลายประเด็น แต่ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ไม่มีอาการเครียด ทั้งนี้ไม่สามารถฟันธงได้ว่าคดีดังกล่าวจะมีแนวโน้มผลสรุปทางคดีต่างไปจากผลของตำรวจภูธรภาค 7 หรือไม่ ขอให้พิสูจน์กันที่พยานหลักฐาน

          พล.ต.ต.ชาญ ระบุว่า การพิจารณาสอบปากคำหรือต้องสั่งย้ายพล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 หรือไม่นั้น ขอให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้พิจารณา ส่วนจะมีการเชิญ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี มาสอบหรือไม่นั้น ก็ต้องอยู่ที่ผู้บังคับบัญชาพิจารณาเอง ถ้ามีการเกี่ยวพันไปถึงก็ต้องเรียกมาสอบ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องเชิญมาสอบปากคำเพิ่มเติม

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเวลาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประชุมหารือกันนั้น ครูปรีชาได้วิดีโอคอลมาหาผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นอย่างไรบ้างและให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าคลิปเสียงที่หลุดออกไปนั้นตนยอมรับกับตำรวจว่าเป็นเสียงของตัวเอง แต่มีแค่บางส่วนเท่านั้น และไม่กังวลใจใดๆ ทั้งสิ้นหากผลคดีออกมาว่าตนเป็นคนผิดและไม่คิดจะหลบหนีไปไหน

          วันเดียวกัน นางปณัญชยา สุขพูล หรือเจ๊เกียว อายุ 50 ปี แม่ค้าลอตเตอรี่ตลาดเรดซิตี้ เพื่อนสนิทของนางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ หรือ “เจ๊บ้าบิ่น” ที่อ้างว่าเห็น “ครูปรีชา” รับลอตเตอรี่ไป แต่ไม่รู้ว่าเลขอะไร ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับครูปรีชา แต่ได้คุยทางโทรศัพท์กับเจ๊บ้าบิ่น และ น.ส.พัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช แม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ให้แก่เจ๊บ้าบิ่น จากกระแสข่าวที่ออกมาว่า เจ๊บ้าบิ่นถูกขู่บังคับให้เซ็นยินยอมรับสารภาพนั้น จากการสอบถามเจ๊บ้าบิ่นยืนยันว่า ไม่ได้ถูกขู่บังคับตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด เพียงแต่เซ็นยอมรับว่าขายลอตเตอรี่ให้แก่ครูปรีชาเท่านั้น

          นางปณัญชยากล่าวต่อว่า ไม่ได้รู้สึกวิตกแต่อย่างใดกับกรณีที่จะมีการออกหมายเรียกหรือหมายจับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะซื้อมาแล้วขายให้ใครก็บอกว่าขายให้คนนั้น ซื้อมาแพงก็ขายแพง ซื้อมาถูกก็ขายถูก ดังนั้นคำว่าทำเป็นขบวนการไม่ใช่เลย อย่างไรก็ตาม หากหมายเรียกหรือหมายจับออกมาทางฝ่ายตน และเจ๊บ้าบิ่น ตรงนี้เราก็จะสู้เต็มที่ ไม่ว่าจะศาลไหนเราก็จะสู้ เพราะทุกอย่างเป็นความจริง ถ้าไม่ได้ยินกับหู ไม่เห็นกับตาก็จะไม่ออกมาพูด ตนก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไร เพราะเป็นเพียงพยานแวดล้อมเท่านั้น และก็จะพูดตามความเป็นจริงตามที่เห็น แล้วแต่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะวิเคราะห์อย่างไร

          “ฉันเป็นตัวกลาง เจ้าหน้าที่นำเจ๊พัชกับเจ๊บ้าบิ่นไปสอบปากคำ เขาก็บอกว่า ขณะที่มีการซื้อขายมีฉันซึ่งเป็นเพื่อนที่ขายลอตเตอรี่อยู่ตรงกลางแค่นั้นเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกไปสอบปากคำ ฉันก็พูดตามความจริงทั้งหมดว่าเหตุวันนั้นเกิดมาอย่างไรแค่นั้น ส่วนกรณีหากมีการออกหมายจับจริง ต้องเตี๊ยมกับทนายหรือไม่นั้น ไม่ต้องเตี๊ยม ขอไปแสดงความจริงทุกเรื่อง ไม่ต้องเตี๊ยมและไม่ต้องมีกุนซือให้” นางปณัญชยากล่าว

          ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีเจ้าหน้าที่กองปราบฯ ได้เน้นหลักฐานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ ตรงนี้ทางฝ่ายของเจ๊เกียวมีหลักฐานเกี่ยวกับทางนิติวิทยาศาสตร์อะไรบ้าง นางปณัญชยา กล่าวว่า ไม่มี อธิบายได้ แต่ไม่ได้ชี้แนะ คือมันเป็นเรื่องธรรมดาที่ ร.ต.ท.จรูญ หยิบหวยขึ้นมาเซ็นชื่อตั้ง 5 ใบ แต่ทำไมลายนิ้วมือจึงติดแค่นิดเดียว ทำไมไม่ติดเต็มถึง 5 ใบ แต่มันก็ฟังขึ้นได้นิดหนึ่ง หากถามว่าเจ๊พัชทำไมลายนิ้วมือถึงไม่ติด ก็เพราะแม่ค้าขายหวยทุกคนเขาจะมีน้ำยาป้ายที่นิ้วมือก่อนจะนับลอตเตอรี่ สื่อสามารถลองทำดูได้ว่าจะมีรอยนิ้วมือหรือไม่ รับรองว่าไม่มี แต่ความคิดนี้เป็นความคิดส่วนตัวของตน

          นางปณัญชยากล่าวอีกว่า สำหรับเจ๊บ้าบิ่นขณะนี้ก็อยู่ที่บ้านตามปกติ ไม่ได้ย้ายไปไหน และเชื่อว่าเจ๊บ้าบิ่นต้องออกมาขายหวยอย่างแน่นอน สำหรับเรื่องคลิปเสียงนั้น ก็ได้ฟังพร้อมๆ กับกับสื่อ แต่ไม่สามารถตอบแทนได้ว่าเสียงในคลิปคือเสียงใคร แต่จากที่ฟังพบว่าบางช่วงก็คล้ายเสียงของนายปรีชา แต่บางช่วงของคลิปไม่ใช่ก็มี ตนไม่สามารถยืนยันได้ ต้องให้เจ้าตัวเป็นคนตอบ ส่วนเรื่องโทรศัพท์เจ้าหน้าที่ก็ได้นำไปตรวจสอบแล้ว สำหรับเสียงในคลิปที่ออกมาล่าสุด ตนยังไม่ได้ฟังเพราะไม่มีเวลา

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน รายการ “โหนกระแส” โดย นายกรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.30-21.00 น. ทางช่อง 28 ได้เชิญ ร.ต.ท.จรูญ นางราวรรณ ภรรยา ร.ต.ท.จรูญ และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม มาเปิดใจในรายการ

          โดย ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า ถึงวันนี้เหนื่อยมาก แต่ไม่ท้อ เรื่องจริงรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว ไม่คิดอะไรมากเรื่องคนชื่อฟ้า เขาอยากพูดอะไรก็พูดไปเถอะ เป็นคนพูดไม่เก่งเหมือนเขา ไม่ได้เดือดร้อนที่จะรีบใช้เงินใช้ทอง อายัดก็ไม่เป็นไร ถึงไม่ถูกลอตเตอรี่ก็ไม่ได้เดือดร้อนเลย เราอยู่ได้ วันนี้ถ้าให้แบ่งคนละครึ่งกันได้ไหม ตอบเลยว่าไม่ได้หรอก จะได้อย่างไร ซื้อมากับมือ จะไปแบ่งให้เขาทำไม ตอนไปอยู่โรงพักก็ให้ป้าพัชลองเขียนเลข 700 อยากรู้ว่าที่เขียนไว้หน้าซองกับที่เขาเขียนเหมือนกันหรือเปล่า เรื่องที่บอกว่าแบ่งกันคนละ 15 ล้าน เขาไม่ได้พูดกับฝ่ายลุงนะ แกจะพูดว่าเรามีบุญร่วมกัน ก็วินๆ ลักษณะแบบนี้ เหมือนขอแบ่ง ส่วนเจ๊เกียวไม่เคยคุย วันนี้ต้อง “ขอบคุณที่เข้าใจแล้วขอเตือนหน่อยว่า (ร้องไห้) ดูผมเป็นตัวอย่าง ถ้ามันรวมหัวกันได้เมื่อไหร่ลำบาก” ก่อนภรรยา ร.ต.ท.จรูญจะกล่าวเสริมสั้นๆ ว่า “ก็ขอบคุณคนไทยทั้งประเทศ ขอบคุณทนายที่ช่วยไปกับครอบครัวเรา” พร้อมหลั่งน้ำตาตามสามี

          ขณะที่ นายษิทรา กล่าวถึงความคืบหน้าในทางคดีว่า วันนี้เรื่องเดินมาไกลแล้ว คงจะใกล้จบเร็วๆ นี้ หลังจากเรื่องถึงกองปราบฯ เรื่องก็เดินเร็ว เขามีพยานหลักฐานต่างๆ อย่างที่บอกว่าคุณฟ้าเขาบอกว่าเป็นคลิปเก่า ก็คือเรื่องจริงครับ ทางกองปราบฯ เขาเคยสอบไปแล้ว พยานต่างๆ ก็ยอมรับไปแล้ว และมีบันทึกให้ดึงข้อมูลออกไป ทางกองปราบฯ เอาเสียงมาให้ฟัง ว่าเป็นเสียงของพ่อค้าแม่ค้าหรือไม่ ทางนั้นเขาก็ยอมรับไปแล้ว แต่ทางกองปราบฯ ไม่ได้เอาเสียงที่เป็นจุดสำคัญให้ฟัง เอาแค่ต้นๆ เท่านั้น แต่สังคมสงสัยว่าทำไมภาค 7 ไม่ได้เอาตรงนี้ไปใช้ กองปราบฯ เลยดึงสำนวนกลับมาทำใหม่ ส่วนเรื่องคลิปพูดมาตลอด รู้ว่ามี แต่ไม่เคยได้ยินมาก่อน เพราะไม่มีเส้นสายกับเจ้าหน้าที่ที่จะขอฟังได้ คิดว่าตำรวจเก็บค่อนข้างดี ไม่มีการหลุดออกมา

          เรื่องแบ่ง 15 ล้านมี 2 ครั้ง ครั้งแรกในรายการ โหนกระแส แล้วก็วันที่เขาเจอกับทนาย เขาอ้างว่าทนายเป็นเจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรม ซึ่งได้เอาคลิปชี้แจงตลอดเวลา ว่ามาจากไหน เรื่องนี้ถ้ามองลึกๆ แล้วมันมีจิตวิทยาสูงมาก การที่คุณลุงคุณป้าออกมาสาบานแล้วแช่งตัวเอง ถ้าเกิดว่าเป็นคนพูดโกหกหรือไปเก็บลอตเตอรี่ของใครมา ต้องให้ตัวเองฉิบหาย ไม่มีคนโกหกคนไหนที่กล้ามาสาบานตรงนี้ แต่ว่าเป็นเครื่องพิสูจน์คุณลุงคุณป้าได้ระดับหนึ่ง ว่าการที่ออกมาเล่าเรื่อง ไม่ใช่เรื่องโกหก การที่เหลือเงิน 24-25 ล้านบาท ถูกอีกฝั่งอายัดเงิน ต้องบอกก่อนการที่ศาลมีเรื่องฉุกเฉินแล้วอายัดเงินเอาไว้ชั่วคราว ไม่ใช่ว่าเป็นของฝ่ายนู้นแล้วอายัด เขาเห็นว่ากรณีพิพาทเกิดขึ้นแล้วเป็นการไต่สวนแค่ฝ่ายเดียว ก็มีสิทธิ์ไปเพิกถอนได้ตลอด แต่ทีนี้การจะทำอะไรก็แล้วแต่ต้องใช้สติ เวลานี้เหมาะสมมั้ย ดีอย่างที่คุณลุงคุณป้าไม่กดดันทนาย ต้องรีบเอาเงิน คุณลุงคุณป้าบอกอยากให้ความจริงปรากฏก่อน แล้วค่อยทำเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ทางทนายก็เห็นด้วย

          นายษิทรา กล่าวอีกว่า ถามว่าเหนื่อยใจหรือไม่ ตอบว่าไม่เหนื่อย ใกล้แล้วล่ะ เพราะทางสอบสวนกลางและกองปราบฯ ลงมาทำคดีอย่างเต็มที่ เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งเชื่อมั่นในกองปราบฯ ว่าจะทำให้เรื่องนี้กระจ่างได้ ต้องบอกว่าทางเรามีการไปสอบมาแล้ว ตั้งแต่ตอนกองปราบฯ คุณลุงไปสอบมา 6-7 ชั่วโมง แต่ที่กองปราบฯ มาสอบฝ่ายโน้นอีกครั้งเพราะว่ามีข้อพิรุธบางอย่าง คำให้การของเขาขัดกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ตำรวจมี เขาเลยต้องเอามาสอบอีก ฝ่ายเราให้การตามเนื้อผ้า ตามเรื่องจริง ไม่มีอะไรขัดแย้ง ก็ไม่ต้องสอบอีกแล้ว ถ้าเขาเรียกมาทางฝ่ายเรายินดีนะ แต่ตามความเห็นตนไม่จำเป็นหรอก เพราะคุณลุงก็พูดเหมือนเดิม ถ้ากองปราบฯ ทำคดีไม่จบก็ต้องฟ้องศาล ถ้ามีความเห็นว่าคุณลุงเก็บได้จริงๆ ก็ไปสู้ในศาลแล้วล่ะ ทางฝ่ายเรามีพยาน 5 คนตั้งแต่ต้น มีคุณลุง คุณป้า และมีพยานใหม่อีก 3 คน เรามอบให้พนักงานสอบสวนไป แต่เรามีพยานที่เกี่ยวกับทางวิทยาศาสตร์อีก