‘ศรีวราห์’ สอบเอง !! กปปส.ยิง ด.ต.คุมม็อบขวางเลือกตั้งดับ

 

               15 ก.พ. 61  มีรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ สั่งการให้ พ.ต.อ.ชยุต มารยาตร์ รอง ผบก.น.1 ในฐานะคณะกรรมการพนักงานสอบสวน ตามคำสั่ง ตร. ที่ 50/2561 และ พ.ต.ท.สุภัทร ทองส้ม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ดินแดง รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ออกหมายจับ นายเอกชัย พลภักดี อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 289/2 หมู่ที่ 8 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิง ด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์ ผบ.หมู่ สน.ตลาดพลู ขณะปฏิบัติหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน การชุมนุมปิดล้อมขัดขวางการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ของกลุ่ม กปปส. เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2556 โดยกระสุนเข้าอกขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา และมีเจ้าหน้าที่อื่นๆ พร้อมทั้งสื่อมวลชนบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้อีกหลายราย

               ต่อมา ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ เลขที่ 70/2561 ลงวันที่ 13 ก.พ. 2561 ในข้อหา ฆ่า และพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำการ ตามหน้าที่ , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยให้ ผกก.สน.ดินแดง จับตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

               สำหรับสาเหตุที่พนักงานสอบสวนเพิ่งไปขอศาลอนุมัติออกหมายจับ นายเอกชัย นั้นเนื่องจาก นายเอกชัย ถูกตำรวจ สน.มักกะสัน จับกุมในคดีครอบครองอาวุธปืน จึงมีการส่งอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวให้กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ใช้เครื่องมือตรวจพิเศษ (IBIT) ตรวจพิสูจน์ และพบว่าตรงกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุในคดียิง ด.ต.ณรงค์ พนักงานสอบสวน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับดังกล่าว

               มีรายงานว่า นายเอกชัย ได้เข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. โดยทำหน้าที่เป็นการ์ดให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมตัวส่งพนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องคดีในข้อหาความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ก่อนควบคุมตัวมาที่ สน.ดินแดง ล่าสุด พล.ต.อ.ศรีวราห์ เดินทางไปสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง

 

 

 

‘ศรีวราห์’ สอบเอง !! กปปส.ยิง ด.ต.คุมม็อบขวางเลือกตั้งดับ

 

               เมื่อเวลา 19.30 น.  พล.ต.อ.ศรีวราห์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รอง ผบช.ส. พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.1 ร่วมกันสอบสวน นายเอกชัย

               ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2556 เวลาประมาณ 14.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน บก.น.8 กำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยที่บริเวณประตู 3 อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามไทยญี่ปุ่น ถนนมิตรไมตรี แขวง/เขตดินแดง มีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ได้บุกเข้ามาเพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. และได้มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเหตุให้ ด.ต.ณรงค์ เสียชีวิต และ ส.ต.ต.พงษ์พันธ์ จันทร์ชัย ได้รับบาดเจ็บสาหัส

               จากการตรวจสอบพบว่า นายเอกชัย เคยหลบหนีการจับกุมหมายจับศาลอาญา เลขที่ 594/57 ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุน , ร่วมกันพกพาอาวุธปืน , ร่วมกันมีไว้ซึ่งยุทธภัณฑ์ (เสื้อเกราะและหน้ากากกันแก๊ส) และร่วมกันมีเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต พื้นที่ สน.มักกะสัน ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2561 นายเอกชัย และนายบัณฑิต สกุลบงกาล ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีดังกล่าว และศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวทั้ง 2 คน ในวงเงิน 200,000 บาท ซึ่งวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง ได้ร่วมกันอายัดตัวนายเอกชัย พร้อมทั้งควบคุมตัวมายัง สน.ดินแดง เพื่อทำการแจ้งข้อหาและสอบสวนต่อไป

               พล.ต.อ.ศรีวรา กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การยืนยันว่า เป็นบุคคลตามที่ถูกออกหมายจับจริง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบปากคำอย่างละเอียด และคัดค้านการประกันตัว ในส่วนของคดีนั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงทำคดีตามปกติ แต่ก็จะมีการเสนอให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พิจารณาก่อนโอนให้ทางดีเอสไอ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีการชุมนุมทางการเมืองไปดำเนินการต่อ สำหรับในส่วนของหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีคือ ภาพคนร้ายใช้อาวุธปืนซุ่มยิงหน้าประตู ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า นายเอกชัย เป็นการ์ด กปปส. และมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายลูกหมี เพราะจากอาวุธปืนที่ถูกยึดได้ที่ สน.มักกะสัน มี 2 กระบอก กระบอกหนึ่งเป็นของนายลูกหมี ขอยืนยันว่า ทำตามหน้าที่ตามปกติที่ต้องทำ ทุกฝ่ายเสมอภาค ตรงไปตรงมา

 

 

               รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่คณะของรอง ผบ.ตร. มาถึง สน.ดินแดง ได้พบรถต้องสงสัย จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นรถตู้ ฮุนได เลขทะเบียน ฮพ 9010 กรุงเทพฯ ซึ่งมี นายเชาว์ มีขวด ทนายของนายเอกชัย เป็นผู้ขับขี่ จากการตรวจค้นพบอาวุธปืน บาร์เร็ตต้า ขนาด .38 พร้อมกระสุน 13 นัด อยู่ในกระเป๋าสะพาย จึงทำการจับกุมก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป