ข่าว

สั่งสอบรีสอร์ทภูเรือ ชื่อ"เปรมชัย"เอี่ยว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อธิบดีกรมอุทยานสั่งสอบรีสอร์ทภูเรือมีชื่อ"เปรมชัย"นั่งเป็นกรรมการ ปปป.ชง “สอบสวนกลาง” อนุมัติสอบคดีติดสินบนเจ้าพนักงาน

     คืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน ขณะตั้งแคมป์ล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำ ซากไก่ฟ้าหลังเทา ซากเก้ง พร้อมปืนไรเฟิล ปืนลูกซอง ตั้งข้อหาดำเนินคดี 9 ข้อหาด้วยกัน และออกหมายเรียก นายนพดล พฤกษะวัน ที่ปรึกษาบริษัทอิตาเลียนไทย อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้ประสานงานให้นายเปรมชัยกับพวกเข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ให้มาพบพนักงานสอบสวน บก.ปทส. ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่ได้ติดต่อเข้าพบตำรวจแต่อย่างใด ขณะที่มีกระแสข่าวว่านายเปรมชัยมีบ้านพักที่ อ.ภูเรือ จ.เลย อยู่บนภูเขาซึ่งอาจต้องมีการตรวจสอบด้วยนั้น

     ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายเปรมชัยมีบ้านพักที่ อ.ภูเรือ จ.เลย อยู่บนภูเขา ว่าหากมีจริงจะประสานให้ตรวจสอบว่าอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่าหรือไม่ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมอุทยานและกรมป่าไม้ดำเนินการตรวจสอบว่ามีเอกสารสิทธิหรือไม่ นอกจากนี้ยืนยันว่าจะลงนามหนังสือคำสั่งให้กรมอุทยานแห่งชาติตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ภายในวันนี้ (12 ก.พ.) กรณีนายเปรมชัยเป็นแขกวีไอพีของน.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าจริงหรือไม่ รวมถึงกรณีนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่เข้าจับกุมนายเปรมชัยและพวกไม่เก็บค่าธรรมเนียมเข้าออกพื้นที่นายเปรมชัยพร้อมพวกรวม 4 คนเข้าไปล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกเพื่อตอบคำถามสังคมและตอบคำถามประเด็นที่สื่อมวลชนสงสัย แม้ตำรวจจะเรียกสอบปากคำไปแล้วแต่การตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเป็นคนละส่วนกับของตำรวจ ยืนยันว่าทั้ง 2 กรณีจะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคุ้มพงษ์ ภูมิภูเขียว ทนายความเพื่อสังคม จ.ขอนแก่น เผยแพร่คลิปภาพซึ่งยืนอยู่หน้าอ่างเก็บน้ำชื่อ “เปรมชัย 1” ตั้งอยู่บริเวณสวนภูเรือวโนทยานของ นพ.ชัยยุทธ กรรณสูต บิดาของนายเปรมชัย ซึ่งพัวพันกับคดีลอบล่าสัตว์ป่าเสือดำที่ทุ่งใหญ่นเรศวร โดยในคลิปดังกล่าว นายคุ้มพงษ์ ระบุว่า ฝายเปรมชัย 1 ตั้งอยู่ในพื้นที่กลางหุบเขา ด้านหลังเป็นภูเขาและมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 700-800 เมตร มีเสาไฟฟ้าติดตั้งข้างทางมาโดยตลอด โยงใยมาตามถนน ผ่าใจกลางสวนภูเรือวโนทยาน ดูจากสภาพเป็นป่าธรรมชาติทั้งหมด โดยสวนภูเรือวโนทยานแห่งนี้ก่อสร้างมาเกือบ 20 ปีแล้ว โดยในช่วงที่ก่อสร้างตนเคยขึ้นมาตรวจสอบกับคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร พบว่ามีการใช้เครื่องจักรทำฝาย ทำเป็นสันฝายและเป็นทางระบายน้ำ นอกจากนั้นยังขุดเป็นร่องน้ำบริเวณหุบเขาธรรมชาติ เอาหินมาเรียงราย และคาดว่าจะสูบเอาน้ำเพื่อมารดต้นไม้ 

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสข่าวว่านายเปรมชัย เป็นเจ้าของรังเย็นรีสอร์ท ภูเรือวโนทยาน และชาโต้เดอเลย และบ้านพักขนาดใหญ่ที่รังเย็นรีสอร์ท ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย และครอบครองที่ดินร่วม 1 หมื่นไร่ ในเขตป่าสงวนภูเรือ ภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ รอยต่อ 2 อำเภอ อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย จ.เลย พบมีการครอบครองที่ดินรังเย็นรีสอร์ท ภูเรือวโนทยาน อ.ด่านซ้าย และ อ.ภูเรือ ประมาณ 6,000-7,000 ไร่ และชาโต้เดอเลย ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ กว่า 1,000 ไร่ รวมเป็นร่วม 1 หมื่นไร่

     มีรายงานแจ้งว่า นายเปรมชัย มีรายชื่อ 1 ใน 5 เป็นคณะกรรมการของบริษัท ซี.พี.เค.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จดทะเบียนต่อสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดเลย เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2525 มี 1.นายชัยยุทธ กรรณสูต 2.นางพิไลจิตร เริงพิทยา 3.นางนิจพร จรณะจิตต์ 4.นายเปรมชัย กรรณสูต และ 5.นางอรเอม เทอดประวัติ ทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ส่วนการครอบครองที่ดินในป่าสงวนภูเรือ ภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ ได้มีคำสั่งจากอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 1115/2545 ให้เพิกถอนที่ดินจำนวน 51 แปลง กว่า 3,000 ไร่ โดยเห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย

     นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยว่า เกี่ยวกรณีดังกล่าวได้สั่งการให้สำนักงานที่ดิน และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเลย ออกไปตรวจสอบพื้นที่ซึ่งบุคคลเป็นข่าวมี 2 ประเด็นด้วยกัน คือบุคคลเป็นข่าวถือครองที่ดินมีโฉนดหรือไม่ และประเด็นที่ดินพ่อของผู้เป็นข่าวถือครอง ทราบว่าสำนักงานที่ดินได้ทำการเพิกถอนไปแล้วบางส่วน และบางส่วนอยู่ระหว่างการดำเนินการเพิกถอน หากรุกหรือว่าไม่มีเอกสารสิทธิ ทางป่าไม้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องเข้าไปดูดำเนินการตามกฎหมาย หากไม่รุกก็ต้องสามารถชี้แจงได้ และได้ให้นายอำเภอภูเรือเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เพื่อตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ในการครอบครองที่ดินและการใช้ประโยชน์จากที่ดินถูกต้องก็ให้ดำเนินการไป หากมีส่วนที่อยู่ในที่ดินไม่มีโฉนดก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

 

สั่งสอบรีสอร์ทภูเรือ ชื่อ"เปรมชัย"เอี่ยว

 

     วันเดียวกัน พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. ร่วมสืบสวนสอบสวนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการสอบปากคำพยานไปแล้วหลายปากรวมถึงเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงของเรื่องราวทั้งหมด ทั้งนี้จากการสอบสวนพบว่า นายเปรมชัยและพวกที่เข้าไปในเขตป่าสงวนตั้งแต่วันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ ซึ่งตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ ได้รับเรื่องในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำงานก่อน เบื้องต้นนายเปรมชัยและพวกเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามดังกล่าวเป็นไปตามที่สื่อได้นำเสนอ โดยนายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาบริษัทอิตาเลียนไทย ได้ประสานมายัง ผอ.กาญจนา ก่อนที่ ผอ.กาญจนา จะประสานไปยังหัวหน้าวิเชียร ซึ่งหัวหน้าวิเชียรได้ทำหนังสือไปยังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แต่ยังไม่มีการลงนามในหนังสือขออนุญาต อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงในส่วนนี้ต้องสอบปากคำอย่างละเอียดรวมทั้งจะต้องเชิญตัวนายนพดลมาสอบปากคำในฐานะพยานด้วย

     ทั้งนี้ บก.ปทส.ออกหมายเรียกและเชิญตัวนายนพดลมาสอบปากคำในฐานะพยานแล้ว เนื่องจากถูกพาดพิงว่าเป็นคนประสานไปยัง ผอ.กาญจนา เพื่อให้นายเปรมชัยและพวกเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวตามขั้นตอนโดยได้ส่งหมายเรียกไปทางทะเบียนราษฎรตามภูมิลำเนารวมทั้งประสานไปยังกรมอุทยานอีกทางหนึ่งเพราะเป็นอดีตข้าราชการระดับสูง อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถติดต่อนายนพดลได้ โดยส่วนตัวเชื่อว่านายนพดลจะเดินทางเข้าให้ปากคำตามหมายเรียกในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้

     “วันนี้ตำรวจภูธรภาค 7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. ได้ไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่บริเวณทางเข้า ซึ่งในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ส่วนสำนวนคดีพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เป็นผู้รับผิดชอบ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน” พล.ต.ต.ปัญญากล่าว และว่า ส่วนที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่ถึงไม่ดำเนินการหาคนยิง ในส่วนนี้ขอยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจได้สั่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตั้งแต่เกิดเหตุ แต่เนื่องจากจุดดังกล่าวระยะทางต้องเดินเท้าเข้าไปกว่า 8 กิโลเมตร ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่าง 3-5 กุมภาพันธ์ แต่มีการส่งมอบเรื่องกันในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ และบก.ปทส.ได้เข้าร่วมสอบวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอาวุธปืน โดยได้ประสานตรวจสอบใบ ป.4 เลขอาวุธปืนมีหรือไม่ รวมถึงซากสัตว์ที่ตรวจพบ อย่างไรก็ตามหากขั้นตอนของการตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วมีข้อสงสัยก็ต้องเรียกตัวนายเปรมชัยและพวกมาสอบสวนเพิ่มเติม

     พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวอีกว่า หากถามว่านายเปรมชัยและพวกเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวกี่ครั้งในส่วนนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของทางกรมอุทยานเนื่องจากเป็นผู้ให้อนุญาต ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ประสานขอหลักฐานกับกรมอุทยานไปแล้ว แต่ที่ชัดเจนขณะนี้จากการเรียกเจ้าหน้าที่อุทยานมาสอบปากคำทุกคนให้การเป็นประโยชน์ สิ่งที่ยืนยันได้คือนายเปรมชัยและพวกอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องสอบว่าได้รับการอนุญาตเข้าไปได้อย่างไร

     ส่วนกรณีการตรวจสอบบ้านพักซึ่งเป็นรีสอร์ทของนายเปรมชัยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบรีสอร์ทที่ภูเรือ จ.เลย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นบ้านพักหรือไม่อย่างไร อีกทั้งได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลว่านายเปรมชัยมีที่พักบริเวณใดบ้าง ขณะนี้ทราบเพียงว่านอกจากที่ภูเรือแล้วยังไม่พบข้อมูลว่ามีบ้านพักที่ใดอีก

     ด้าน พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เปิดเผยกรณีนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ให้ดำเนินคดีนายเปรมชัย ข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานว่าเนื่องจากการร้องทุกข์ดังกล่าวไม่ใช่อำนาจหน้าที่โดยตรงจำเป็นต้องขอคำสั่งจากทาง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ดังนั้นในวันนี้ ปปป.จะทำหนังสือขออนุมัติสืบสวนคดีดังกล่าวส่งให้กองบัญชาการสอบสวนกลาง ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการอนุมัติภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามเมื่อได้รับการอนุมัติให้สอบสวนขั้นตอนแรกพนักงานสอบสวนต้องเรียกตัวนายวิเชียร ให้เข้ามาสอบสวนอย่างละเอียด พร้อมตรวจสอบหลักฐานที่นำมาก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

 

สั่งสอบรีสอร์ทภูเรือ ชื่อ"เปรมชัย"เอี่ยว

 

     ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีบ้านพักที่ อ.ภูเรือ จ.เลย จากการตรวจสอบในเบื้องต้นไม่ใช่บ้านของนายเปรมชัย แต่มีชื่อของบริษัท ซี.พี.เค.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ส่วนนายเปรมชัยเป็นเพียงกรรมการบริหารเท่านั้น ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวจะมีความผิดฐานรุกล้ำพื้นที่ป่าหรือไม่ต้องให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ตรวจสอบ เรื่องนี้รัฐบาลและคสช.กำชับมาโดยตลอดถ้าหากพบว่ามีนายทุนเข้าไปปลูกสิ่งก่อสร้างรุกล้ำพื้นที่ป่าต้องดำเนินการหมด ที่ผ่านมายึดคืนได้เป็นจำนวนมาก

     พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายเปรมชัยและพวกรวม 4 คนเข้าไปล่าสัตว์ในเขตทุ่งใหญ่นเรศวรว่า ขณะนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ยังไม่มีข้อมูลว่านายเปรมชัยหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านตามที่เป็นกระแสข่าว ส่วนหลบหนีออกไปทางช่องทางธรรมชาติหรือไม่นั้น หากพบมีหลักฐานก็สามารถขอศาลพิจารณาเพิกถอนคำสั่งประกันตัวได้ เนื่องจากนายเปรมชัยได้ประกันตัวในชั้นศาล ตำรวจก็ไม่มีอำนาจก้าวล่วง ซึ่งเมื่อครบกำหนดฝากขัง 12 วันนับจากวันที่ศาลให้ประกันตัว นายเปรมชัยจะต้องมารายงานตัวต่อศาลหากไม่เดินทางมาก็จะยึดเงินประกันตามขั้นตอน

     สำหรับการตรวจค้นร้านขายของป่าตามที่กลุ่มของนายเปรมชัยอ้างว่าซื้อซากสัตว์มานั้น ตำรวจในพื้นที่ดำเนินการตรวจค้นไปแล้วไม่มีข้อมูลยืนยันว่านายเปรมชัยกับเจ้าของร้านขายของป่าเป็นอะไรกันแต่ตามปกติถ้าขายของป่า ขายซากสัตว์ป่า ก็ถือว่ามีความผิดอยู่แล้ว ไม่กังวลว่านายเปรมชัยจะหลุดคดี เพราะตำรวจมีพยานหลักฐาน ยืนยันว่าไม่ว่าอย่างไรนายเปรมชัยก็มีความผิด เพียงแค่นำอาวุธปืนเข้าไปในอุทยานก็ถือว่ามีความผิดแล้ว แม้จะไม่ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิงก็ตาม

     ส่วนกรณีที่จะมีการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 นายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาบริษัทอิตาเลียนไทย ซึ่งเป็นผู้ประสานติดต่อให้นายเปรมชัยและพวกเข้าพื้นที่ทุ่งใหญ่นเรศวรนั้น เรื่องนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน ซึ่งตนได้นับหนึ่งไปให้แล้วที่เหลือพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการต่อได้

    ที่รัฐสภา พล.ท.ชัยยุทธ พร้อมสุข ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พร้อมคณะประกอบด้วย พล.ร.อ.วีระพันธ์ สุขก้อน, พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์, พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก และนายสนิท อักษรแก้ว ร่วมกันแถลงแสดงความกังวลและห่วงใยต่อกรณีที่มีบุคคลพร้อมด้วยอาวุธเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกโดยเข้าไปพักแรมบริเวณพื้นที่หวงห้ามและคุกคามชีวิตสัตว์ป่าซึ่งเป็นการละเมิดพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และเป็นการกระทำความผิดหลายฐาน ซึ่งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีจะต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป

    พล.ท.ชัยยุทธ กล่าวว่า ขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการในครั้งนี้ เพราะถือว่าการคุกคามสัตว์ป่าของประเทศที่กำลังสูญพันธุ์เป็นการกระทำที่โหดร้าย ซึ่งกรรมาธิการขอให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจในกฎหมาย ระเบียบ ที่เจ้าหน้าที่ใช้ปฏิบัติงานเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่ามีอำนาจขอบเขต การทำงานที่ครอบคลุมในการบังคับใช้สำหรับที่ชัดเจน ทั้งนี้ในการประชุมคณะกรรมาธิการวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เวลา 08.30 น. ได้เชิญ น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก มาให้ข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาในการเสนอขอแก้พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 พร้อมให้กำลังใจในการทำงานด้วย ส่วนการตรวจสอบในเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามพยานหลักฐาน

     ด้านนายสนิท กล่าวยอมรับว่า กฎหมายที่บังคับใช้ในปัจจุบันยังมีบทลงโทษน้อยเกินไป ซึ่งล่าสุดพยายามติดตามการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เท่าที่ทราบขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะมีการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าควรจะมีการแก้ไขบทลงโทษผู้ที่ล่าสัตว์ป่าสงวนให้หนักและรุนแรง ซึ่งอาจจะเพิ่มถึง 10-20 ปี ซึ่งต้องพิจารณาอีกครั้งเพื่อให้ความเหมาะสม ส่วนการเข้าไปพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้นก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่ขอมาก็ให้เข้าไป วัฒนธรรมเช่นนี้ควรจะเลิกได้แล้ว

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ร.อ.วีระพันธ์ สุขก้อน กรรมาธิการได้สวมเสื้อยืดสีดำมีรูปเสือดำพร้อมข้อความ CRY FOR BLACK LEOPARD ขณะที่ด้านหลังมีข้อความว่า “สาปแช่งให้แรงกรรมทำหน้าที่อย่าได้มีวิถีสุขทุกสถาน ตีแผ่แต่ละคำย้ำสันดาน ให้เห็นเดรัจฉานผ่านใจคน” ซึ่งเป็นเสื้อรณรงค์ห้ามล่าสัตว์ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า

ฉบับ นสพ.คมชัดลึก

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ