แม่ค้า30ล้านโต้คลิปแฉ-ยันไม่ใช่เสียง"ครูปรีชา"

    ความคืบหน้าคดีหวย 30 ล้านที่นายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี อ้างว่าถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 เลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท แต่ต่อมาสลากชุดดังกล่าวหายไป กระทั่งมาพบ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ เป็นผู้นำสลากไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลาก ซึ่งต่อมาได้แจ้งความดำเนินคดีกันทั้งสองฝ่าย โดยนายปรีชา และร.ต.ท.จรูญ ต่างยืนยันสลากกินแบ่งรางวัลที่ 1 เป็นของตนเอง ซึ่งขณะนี้คดีดังกล่าวเริ่มข้มข้นเข้าไปทุกที เพราะล่าสุดมีคลิปเสียงผู้ชายกับผู้หญิงคุยกัน โดยเสียงผู้ชายคล้ายนายปรีชา ใคร่ครวญ ส่วนเสียงผู้หญิงคล้ายกับนางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น โดยเสียงผู้ชายยืนยันว่าไม่ถูกหวย 30 ล้าน

     ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ สมาชิกทวิตเตอร์ @Champ_sarunpat ทวิตหลักฐานแชทไลน์ในคดีหวย 30 ล้าน ก่อนระบุว่า โผล่อีกแล้ว!! หลักฐานใหม่จากทนายฝั่งลุงจรูญ โดยแชทไลน์ “ป้าบ้าบิ่น” ตอบคู่สนทนาว่า สลากเลข 533726 งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ไม่รู้ว่าใครซื้อไป โดยคุยกันวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งจากแชทไลน์ดังกล่าวทำให้ตั้งข้อสังเกตก่อนหน้านี้ที่นางรัตนาภรณ์ ระบุว่าขายให้ครูปรีชา ไม่น่าจะเป็นความจริง

     ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวตามไปสอบถามนางรัตนาภรณ์ ยอมรับว่าเป็นเสียงของตน แต่คลิปเสียงไม่ได้คุยกับครูปรีชา เป็นเรื่องการสอบถาม ไม่มั่นใจหวยที่หายไป ไม่รู้อยู่ที่ครูหรือไม่ มั่นใจเวลาคุยไม่ได้อัดเสียง เพราะโทรศัพท์อัดเสียงไม่ได้ คลิปไม่ได้ออกมาจากตนแน่นอน ส่วนเรื่องแบ่งเงิน 15 ล้านก็คุยกับคนอื่นไม่ใช่ครูปรีชา เรื่องคลิปนี้กำลังจะตามหาตัวเขาอยู่ ตอนนี้บอกไม่ได้ว่าใคร

    ขณะที่ลูกชายนางรัตนาภรณ์ บอกว่า เรื่องแบ่งเงินแม่คุยกับเพื่อน ไม่ใช่ครูปรีชา คุยกันเรื่องหวยหาย คุยเล่นกัน ยืนยันแม่ไม่ได้อัดเสียง น่าจะเป็นคนที่คุยกับแม่ด้วย เสียงนี้ไม่ใช่เสียงครู ตอนนี้แม่เครียดมากถูกสังคมต่อว่า คนโทรศัพท์มาถามแม่ก็บอก แต่มาอัดเสียงแม่ไป

    วันเดียวกันเมื่อเวลา 10.00 น.  ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. ได้เดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจภาค 7 (บช.ภ.7) เพื่อรับมอบสำนวนคดีดังกล่าวจากพนักงานสอบสวนของบช.ภ.7 ทั้งนี้หลักฐานต่างๆ ที่กองปราบปรามได้รับมาจากพนักงานสอบสวนชุดเดิม นอกจากเอกสารการสอบสวนแล้วยังรวมไปถึงหลักฐานที่เป็นคลิปเสียงการพูดคุยทางโทรศัพท์ที่ถือเป็นหลักฐานสำคัญในคดี เบื้องต้นพบมีมากกว่า 2,500 คลิป ซึ่งเป็นการสนทนาระหว่างพยานผู้เกี่ยวข้องในคดีทั้งหมด ซึ่งคลิปทั้งหมดทางกองปราบปรามจะต้องนำกลับมาตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อใช้เปรียบเทียบกับหลักฐานที่กองปราบเคยเก็บรวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ด้วย

    ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เพื่อนำหลักฐานในทางคดีมามอบให้ประกอบด้วย พยานบุคคลและข้อความบทสนทนาในการแชทไลน์ระหว่างนางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ แม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่กับลูก เพื่อนำไปใช้ประกอบการพิจารณาคดี

    นายษิทรา เปิดเผยว่า ที่เดินทางมาในวันนี้ก็เพื่อมอบพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนของกองปราบนำไปใช้สมทบกับหลักฐานที่ตำรวจมีเพื่อใช้ตรวจสอบหาว่าใครคือเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลมูลค่า 30 ล้านตัวจริง โดยพยานหลักฐานในส่วนที่ 1 ก็คือพยานบุคคลที่ทีมทนายความและลูกความของตนสามารถหาไปหาเพิ่มเติมมาได้จำนวน 2 ปาก ซึ่งข้อมูลที่สามารถเปิดเผยได้ก็คือ พยานรายนี้เป็นบุคคลที่ใกล้ชิดกับนายปรีชา และอีกคนเป็นข้าราชการสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม โดยพยานทั้งสองคนนี้จะให้ข้อมูลที่สามารถหักล้างกับพยานบุคคลทั้ง 40 ปากของฝั่งนายปรีชาได้ทั้งหมด แต่บุคคลดังกล่าวจะเป็นใครนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลต่อรูปคดี ส่วนหลักฐานอีกส่วนหนึ่งเป็นบันทึกข้อความบทสนทนาของนางรัตนาภรณ์กับลูกทางแอพพลิเคชั่นไลน์ที่ระบุเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ว่ายังไม่ทราบว่าใครคือเจ้าของลอตเตอรี่ดังกล่าว ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การก่อนหน้านี้ที่ว่าทราบว่าใครถูกลอตเตอรี่ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งจะถือเป็นหลักฐานสำคัญที่จะบอกได้ว่านางรัตนาภรณ์ไม่ได้พูดความจริง

    นายษิทรา กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี ได้เปิดเผยคลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างปรีชากับนางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์แม่ค้าขายลอตเตอรี่ในทำนองว่านางรัตนาภรณ์แสดงความดีใจที่นายปรีชาที่ถูกรางวัลดังกล่าว แต่นายปรีชากลับตอบว่าไปซื้อสลากอีกเลขหนึ่งและไม่ได้ถูกรางวัล โดยคลิปเสียงดังกล่าวทีมทนายความและลูกความได้ติดตามรับฟังแล้ว ถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีคลิปดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานก็จะถือได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเกรงว่าคลิปเสียงดังกล่าวจะถูกหักล้างในชั้นศาลว่าเป็นหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบนั้น เบื้องต้นทราบว่า คลิปเสียงดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถกู้ได้จากโทรศัพท์มือถือของนายปรีชา หรือนางรัตนาภรณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมสืบสวนของบช.ก. ได้ขออนุญาตนำโทรศัพท์มือถือของนายปรีชา นางรัตนาภรณ์ และร.ต.ท.จรูญ ไปตรวจสอบ ซึ่งทุกคนก็อนุญาตให้เจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบได้ จึงถือเป็นหลักฐานที่ได้มาอย่างถูกต้องและได้รับอนุญาตจากเจ้าของโทรศัพท์มือถือแล้ว ไม่ได้เป็นการดักฟังทางโทรศัพท์อย่างที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ และถือเป็นหลักฐานที่มีความน่าเชื่อถือ

    ด้าน ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แต่ภายหลังจากที่ได้พูดคุยและนำหลักฐานมามอบให้ที่กองปราบก็ทำให้ยิ่งสบายใจขึ้น ส่วนหากผลการพิสูจน์ออกมาแน่ชัดแล้วว่าคือเจ้าของลอตเตอรี่ตัวจริงจะนำเงินรางวัลบางส่วนไปทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่คิดไม่ดีกับตน

     ด้านพล.ต.ต.ไมตรี เปิดเผยว่า ล่าสุดมีหนังสืออย่างเป็นทางการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้โอนคดีดังกล่าวมาจากบช.ภ.7 แล้ว หลังจากนี้ก็จะต้องนำสำนวนเดิมมาตรวจสอบกับคำให้การของพยานบุคคลทั้ง 40 ปากว่าข้อมูลที่กองปราบปรามลงพื้นที่และสืบสวนมาว่าตรงกันหรือไม่ ส่วนจะต้องเรียกพยานทั้ง 40 ปากมาสอบปากคำใหม่หรือไม่นั้น ก็คงต้องขอตรวจสอบให้เสร็จสิ้นก่อน

(ข่าวหน้า1 นสพ.คมชัดลึก)