"ศรีวราห์"นำทีมตร.ค้นบ้าน“เปรมชัย” เจอปืน 43 กระบอก เป็นไรเฟิล -ลูกซองยาว 41 กระบอก และงาช้าง ลั่นหากตรวจพบลายนิ้วมือ-ดีเอ็นเอใครดำเนินคดีทุกคน
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 เมื่อเวลา 16.00 น.พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมบัติ มิลินทจินดา รองผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รองผบช.ส.4 เดินทางมายังบ้านพัก3 หลังของนายเปรมชัย กรรมสูต ที่ซอยศูนย์วิจัย กรุงเทพมหานคร ดังกล่าวเพื่อร่วมตรวจค้น
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นพร้อมกันทั้ง 6 จุด คือกาญจนบุรี 1 จุด ราชบุรี 1 จุด นครราชสีมา 1 จุด กรุงเทพ 1 จุด(จุดดังกล่าว) และนนทบุรี 2 จุด ซึ่งจากการตรวจค้นทั้ง 6 จุด พบเพียงที่กรุงเทพ คืองาช้าง 2 คู่ มีครอบครอง พบอาวุธปืน 40 กระบอก เป็นปืนสั้น 2 กระบอก และปืนไรเฟิล 38 กระบอก ซึ่งปืนที่มีลักษณะใช้สำหรับล่าสัตว์ เบื้องต้นจะต้องยึดไปตรวจสอบทั้งหมด ตรวจสอบทะเบียน ตรวจสอบการใช้งาน เคยใช้ยิงที่ไหน ซึ่งจะให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจอย่างละเอียด
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า สำหรับหลักฐานที่ตรวจยึดได้ในวันนี้ทั้งหมดถือเป็นพยานแวดล้อมส่วนหนึ่งว่าชอบล่าสัตว์ มีไว้เพื่อล่าสัตว์ ซึ่งหลักฐานทั้งหมดจะรวบรวมไว้ในสำนวน เบื้องต้นไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา ในส่วนของการตรวจสอบนั้น หลังจากวันนี้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ต้องมีการประชุมอีกที ว่าจะมีการดำเนินการตรวจค้นที่ใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานหรือที่บ้านพักหลังอื่น ในส่วนของการสอบปากคำ ในวันพรุ่งนี้ช่วงบ่ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. จะมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องที่เข้าเวรในช่วงระหว่าง วันที่ 2-4 ก.พ. ในส่วนของดีเอ็นเอกับลายนิ้วมือที่ตัวปืนของกลาง เวลานี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีความชัดเจน
" ขอยืนยันว่าไม่ว่าจะตรวจพบลายนิ้วมือหรือดีเอ็นเอใคร จะฟ้องดำเนินคดีทุกคน ไม่สามารถอ้างได้วัตถุพยานมันฟ้องอยู่ ในทางสืบสวนหลักฐานที่พบเชื่อว่ามีการเตรียมการ เพราะการขออนุญาตเข้าไปภายใน หมูเห็ดเป็ดไก่ไม่ได้เตรียมเอาไป ไปหาเอาข้างหน้า สำหรับอาวุธปืนที่ตรวจพบในวันนี้ทั้ง 40 กระบอก ทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบอย่างละเอียดว่าใครเป็นเจ้าของ มีชื่อเป็นผู้ครอบครอง ถ้ามีชื่อใครก็เรียกดำเนินคดีเป็นรายบุคคลไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม และยังไม่ทราบว่าเปรมชัยอยู่ที่ใด " พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้สำหรับคดีดังกล่่าวนายกรัฐมนตรี เร่งรัดดำเนินคดีตรงไปตรงมา ซึ่งเวลานี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค7 ได้ทำหนังสือถึงผบ.ตร. แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.เข้าร่วมทำคดีแล้ว แต่คงไม่ต้องตั้งคณะทำงานเพิ่มเติม เพราะตนเองดูแลอยู่แล้ว ในส่วนของกระแสสังคมว่าเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯมีส่วนรู้เห็นและมีความผิดที่ให้เข้าพื้นที่นั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบ ถ้ารู้เห็นว่าเข้าไปล่าสัตว์ก็มีความผิดอยู่แล้ว ประเด็นคือในเมื่อเข้าไปไม่ชอบแล้วทำไมถึงไม่จับกุมแต่ยังปล่อยให้เข้าไป
จากนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ เดินทางเข้าไปตรวจค้นภายในบ้านพักนายเปรมชัย กรรรณสูต ต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ได้ขนอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน งาช้างที่พบในบ้าน 12/3 นำมาขึ้นรถของทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน โดยมีพนักงานสอบสวนสภ.ทองผาภูมิคอยตรวจนับ โดยพล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รองผบช.ส.4 ออกมาเปิดเผยว่า จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนทั้งหมด 43 กระบอก แบ่งเป็นปืนยาว 41 กระบอก และปืนสั้นแบบออโตเมติก จำนวน 2 กระบอก สำหรับปืนยาวนั้นแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.ปืนลูกซอง และ 2.ปืนไรเฟิลขนาดต่าง ๆ ตั้งแต่ .22 .30 และขนาด 9 มม. สำหรับเครื่องกระสุนปืนนั้นพบ กระสุนขนาด .40 จำนวน 1,550 นัด กระสุนลูกซองขนาดต่าง ๆ จำนวน 49 นัด และกระสุนปืนไรเฟิลอีก 30 นัด พร้อมกล้องติดปืนไรเฟิลอีก 11 ชิ้น สำหรับงาช้างนั้น พบ 4 ชิ้น 2 คู่
รองผบช.ส.4 กล่าวต่อว่า อาวุธปืนทั้งหมดมีทะเบียนเป็นชื่อของนายเปรมชัยเกือบทั้งหมด มีเพียง 2-3 กระบอกที่เป็นของลูกชาย ทั้งนี้การที่มีอาวุธปืนเป็นจำนวนมากนั้น เป็นดุลพินิจของนายทะเบียน ของอำเภอ ฝ่ายปกครองในการอนุมัติใบอนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบใบอนุญาตต่อไป โดยทางทนายความของนายเปรมชัยจะนำหลักฐานการครอบครองอาวุธปืนทั้งหมดมาให้ทางพนักงานสอบสวนสภ.ทองผาภูมิตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้ภายในบ้านไม่พบร่องรอยรื้อค้นเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน ส่วนหนังเสือตรงเก้าอี้ที่เป็นข่าวก็ไม่พบในบ้านหลังดังกล่าว ส่วนข้อที่ว่านายเปรมชัยอยู่ไหนนั้น อยู่ในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจค้นอีก 5 จุด คือที่ จ.ราชบุรี จ.นครราชสีมาและจ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายเปรมชัยก็ไม่พบของผิดกฎหมายแต่อย่างใด และเจ้าหน้าที่ยังได้ไปตรวจร้านอาหารเครือข่ายของนายธานี ที่ร้านแซ่บอีสานและร้านท่าทุ่งนา ย่านบางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งคาดว่าจะมีการนำเนื้อสัตว์คุ้มครองมาทำอาหารขาย แต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับกลางป่า!!ประธานอิตาเลียนไทยล่าสัตว์ทุ่งใหญ่ฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง